'น้ำหน้าอย่างแก ไม่คู่ควรกับพี่ริวหรอก อย่าฝันสูงกว่านั้นเลย แค่เขาลดตัวลงมาคบกับแก ชีวิตเขาก็มัวหมองแล้วยัยแว่น'
'แกกับพี่ริวมันคนละชั้น อย่าเอาความมั่นหน้ามั่นโหนกของแกมาคิดเป็นตุเป็นตะว่าเขาชอบละ'
ร่างบางที่แช่ตัวในอ่างตรงโซนห้องน้ำภายในหอพัก ถอนหายใจนับร้อยครั้งกับคำพูดของคนพวกนั้นที่มาดักทำร้ายเธอ
วันนี้นิชาเพื่อนของเธอกลับบ้านไปทำธุระด่วนให้พ่อกับแม่ จึงไม่ได้อยู่กับเธอในตอนที่เธอถูกทำร้าย แต่คะนึงก็ไม่ได้โทษเพื่อน เพราะต่อให้เธออยู่กับนิชา คนพวกนั้นก็ต้องหาจังหวะทำร้ายเธออยู่ดี
คะนึงปาดน้ำตาที่รินไหล เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะโทรบอกให้นิชารู้ เพราะกลัวว่าเพื่อนรักจะเป็นทุกข์ตาม และสิ่งที่คะนึงเป็นกังวลก็คือข้อเปรียบเทียบระหว่างเธอกับริว เธอต่ำต้อยติดดิน ในขณะที่เขาสูงส่งจนเธอเอื้อมไม่ถึง แล้วแบบนี้เธอจะภาคภูมิใจในการคบกับเขาได้อย่างไร
ร่างบางลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาห่อตัวเอาไว้ ใบหน้าสวยหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอไม่ได้ใส่แว่น การมองเห็นจึงค่อนข้างไม่ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการดำเนินชีวิตแบบส่วนตัวซักเท่าไหร่หรอก เพราะเธอชินกับพื้นที่บนห้องเล็ก ๆ นี้แล้ว
เธอโผล่ออกมาจากห้องน้ำไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากข้างนอก คะนึงจึงเดินไปแนบหูกับประตูเพื่อฟังว่าคนข้างนอกกำลังมีปัญหาอะไรกัน
"ฮะ! มีคนบุกเข้ามาเหรอ?" คะนึงตกใจรีบมองไปที่ลูกบิดประตูก็พบว่าตัวเองลืมล็อกห้อง
"คะนึงเอ๊ย! สะเพร่าอะไรขนาดนี้" เธอบ่นให้ตัวเอง พลางกดล็อกประตูทันที นึกเสียววาบไปทั่วสรรพางค์ หากโจรบุกเข้ามาซ่อนตัวในห้องของเธอจริง เธอคงโดนฆ่าตายเพราะความสะเพร่าของตัวเองแน่ ๆ
แต่แล้ว...
"กรี๊ด...อุ๊บ...ฮึก!"
ร่างบางของคะนึงที่หมุนตัวจะกลับเข้าห้อง ก็ต้องตกใจจนเผลอกรีดร้องออกมา ทว่าร่างกำยำที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ารีบใช้มือปิดปากเธอเอาไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นเขาคงถูกคนที่อยู่ข้างนอกเข้ามาจับตัวแล้วส่งให้ตำรวจขังคุกแน่ ๆ
"อย่าร้องนะ...พี่แค่อยากมาหาหนู"
คนที่บุกรุกเข้ามาอย่างอุกอาจไม่ใช่ใคร แต่คือซานนั่นเอง แม้คะนึงจะรู้สึกโล่งใจที่ไม่ใช่พวกโจรผู้ร้าย แต่ถ้าเป็นซานเธอก็ไม่อาจไว้ใจได้เช่นกัน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงคนที่เอะอะอยู่ข้างนอกเคาะประตูเรียกเธอ คงกำลังตระเวนหาผู้บุกรุกกันอยู่ คะนึงจึงพยักหน้ารับปากซานว่าเธอจะไม่ร้องและไม่ให้พวกเขารู้ว่าเขาอยู่ในนี้
"น้องคะ พอดีมีผู้บุกรุกเข้ามาภายในหอ ห้องของน้องมีใครบุกเข้าไปไหม?"
ซานค่อย ๆ เลื่อนมือออกจากปากของเธอ แต่สายตาคมกริบยังคงจับจ้องมองเธอแทบไม่ละสายตา
"เอ่อ...มะ...ไม่มีค่ะ พอดีคะนึงอาบน้ำพึ่งเสร็จเลยไม่สะดวกเปิดประตู ขอโทษด้วยนะคะ"
"ถ้าน้องปลอดภัยดีไม่มีคนบุกเข้าไป งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ล็อกห้องดี ๆ ด้วยนะ"
"ค่ะ...ขอบคุณนะคะ"
เมื่อเสียงฝีเท้าของคนด้านนอกเดินออกไปจากหน้าประตู ทำเอาทั้งคะนึงและซานถึงกับถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
ซานก้มลงมองใบหน้าสวยที่ยังมีหยดน้ำเกาะพราวบนใบหน้าและไรผม ใบหน้าของคะนึงตอนนี้ใสสะอาดไร้เครื่องสำอาง ดวงตากลมโตที่ไม่มีแว่นบดบัง คิ้วเรียวสีเข้มที่โค้งราวคันศรแทบไม่ต้องแต่งแต้มก็ยังดูสวย
แต่ที่เย้ายวนจนซานต้องลอบกลืนน้ำลายเห็นจะเป็นริมฝีปากอิ่มอมชมพูระเรื่อจนไม่ต้องใช้ลิปสติกให้สิ้นเปลือง มันช่างเผยอและเย้ายวนจนหน้าจูบเหลือเกิน
"ทำไมต้องมองหนูขนาดนั้น โรคจิต!"
เมื่อเห็นเขาเอาแต่มองเธอไม่หยุดคะนึงก็ตวัดสายตาดุใส่เขา พลางกอดอกเพื่อกระชับปมผ้าขนหนูที่พันทับลวก ๆ ตรงร่องอกไม่ให้มันหลุดจากตัว
"แล้วทำไมไม่รู้จักแต่งตัวให้มันเรียบร้อย ก็เลยนึกว่ากำลังอ่อยพี่อยู่"
"ทุเรศ! ตัวเองบุกรุกเข้ามาพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นยามวิกาล ยังจะหน้าด้านโทษเขาอีก หนูไม่ไล่ออกไปให้คนคุมหอฆ่าตายก็บุญแล้ว...ไม่น่าช่วยเลย"
คะนึงผลักเขาสุดแรงจนเขาเซถลาออกไป แต่ใบหน้าหล่อกลับนิ่วหน้าราวกับเจ็บปวดมากมาย ก่อนจะเอามือกุมที่เอวจนของเหลวสีสดไหลออกมาเต็มกำมือ
"ฮึก! ทะ...ทำไมมีเลือดออก?"
คะนึงตกใจรีบดึงให้เขานั่งลงบนเตียงด้วยความร้อนรน แต่แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้เธออ้าปากค้าง เมื่อซานมีแผลค่อนข้างใหญ่ที่ใต้ชายโครง ไม่รู้ลึกมากแค่ไหนเลือดถึงได้ไหลออกมาขนาดนี้
"พี่ไปทำอะไรมา ทำไมถึง..."
น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ ด้วยความตกใจและเป็นห่วงผสมปนเปจนไม่อาจซ่อนมิด
"ไม่เท่าไหร่หรอก...ไม่ได้ลึกมาก ทำแผลให้หน่อยสิ"
"พี่ควรไปหาหมอ ถ้าแผลลึกมากก็ต้องเย็บ ไม่งั้นมันจะติดเชื้อนะ"
"ไม่...พี่ไม่ชอบหมอ..."
ซานในตอนนี้ใบหน้าซีดเผือดแต่ยังคงความดื้อรั้นในแววตา จนคะนึงไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี
"เร็วดิ...จะให้พี่เลือดออกจนตายหรือไง"
ความดื้อดึงของซานทำให้คะนึงรีบร้อนหากล่องยามาทำแผลให้ซาน ทั้งที่สภาพของเธอยังมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
ความกระวนกระวายทำให้คะนึงหยิบจับอะไรมั่วไปหมด ก่อนจะเดินมานั่งลงคุกเข่าตรงหน้าซาน มือเรียวยื่นออกไปเปิดดูแผลอย่างสั่นเทา ริมฝีปากบางเม้มแน่นด้วยความหวาดกลัว
"บ้าเอ๊ย...เลือดออกเยอะขนาดนี้ ไปโรงพยาบาลเถอะ!"
คะนึงถึงกับสบถ เมื่อเห็นหน้าตาของแผลที่กรีดเป็นทางยาวตั้งแต่ใต้ราวนมไปจนถึงสีข้าง แม้มันจะไม่ลึกมาก แต่มันก็ดูน่ากลัวจนเธอมือไม้สั่นตลอดเวลา
ซานส่ายหน้าเบา ๆ เขายังคงปฏิเสธที่จะไปหาหมอ
"ไม่ต้อง...แค่หนูทำแผลให้ก็พอ..."
คะนึงเหนื่อยใจกับความดื้อของเขาเธอจึงรีบเอายาในกล่องปฐมพยาบาลออกมา ในขณะที่ร่างสูงถอดเสื้อออกจากตัวจนร่างกำยำเปลือยเปล่า ก่อนจะพิงตัวลงไปกับหัวเตียงเพื่อให้เธอทำแผลให้เขาได้ถนัดขึ้น
แสงไฟอ่อน ๆ สะท้อนกับกล้ามเนื้อที่เปลือยเปล่า เมื่อเสื้อถูกถอดออกจากร่างจนหมด หลายครั้งที่คะนึงต้องลอบกลืนน้ำลายเบา ๆ พลางบรรจงเช็ดเลือดที่ไหลซึมออกจากบาดแผล นิ้วเรียวสัมผัสเนื้ออุ่น ๆ ที่ยังเต้นเป็นจังหวะภายใต้ผิวหนังอย่างเบามือ แต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาเต้นนอกอก
"เจ็บไหม..." น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความห่วงใย ซานยกยิ้มมุมปากก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานที่ก้มลงมาใกล้จนเขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากครีมอาบน้ำบนกายเธอ
"ถ้าหนูทำ...พี่ไม่เจ็บหรอก ถึงเจ็บก็จะทน"
คะนึงเงยหน้าขึ้นไปมองเขาเล็กน้อย ในแววตายังมีความขุ่นเคืองหลงเหลือ แต่ก็ยังคงทำแผลให้เขาอย่างใจเย็น
"ไปทำอิท่าไหนให้เจ็บตัวได้ขนาดนี้"
"พี่ถอดบานเกล็ดหน้าห้องโถงทางขึ้นบันไดปีนเข้ามา ใครจะคิดว่าคนคุมหอแม่ง...จะขี้เสร็จเร็วขนาดนั้น พี่รีบหนีเลยพลาดโดนขอบบานเกล็ดบาดเข้าให้"
"สมน้ำหน้า! ใครบอกให้ปีนเข้ามา บ้าบิ่นไม่เข้าเรื่อง"
"ก็...แค่อยากมาหาหนู..."
"จะมาทำไม ใครเขาต้อนรับ"
"รู้ว่าไม่ต้อนรับ ไม่งั้นจะได้ปีนเข้ามาแบบนี้เหรอ...โอ๊ย! คะนึง! จะฆ่าพี่เหรอ"
คะนึงจงใจจิ้มสำลีกดไปที่แผลของซานหนัก ๆ ด้วยความหมั่นไส้ จนเขาสะดุ้งสุดตัวและร้องลั่นห้อง ก่อนจะชักสีหน้าใส่เธอด้วยความหงุดหงิด
"สมน้ำหน้า! ฆ่าได้ก็ดีสิ จะได้เลิกวุ่นวายกับชีวิตหนูสักที"