สัปดาห์ก่อนหน้า
ไฟ : เดี๋ยวไป
NW : ฉันไม่ล็อคประตู
NW : เดินเข้ามา ห้องนอนอยู่ขวามือค่ะ
NW : ฉันนอนรอนะคะ
ภายในห้องคอนโดหรูของเจ้าของผับใหญ่ระดับต้น ๆ ของประเทศ ร่างสูงยืนอยู่หน้าบาร์ในห้องเก็บไวน์ มือกดปิดโทรศัพท์ที่พึ่งอ่านแชทที่คนสวยส่งมาทิ้งไว้ ก่อนจะยกแก้วไวน์ในมือขึ้นกระดกจนหมดแก้ว..
เจ้หวานจริง ๆ เหรอวะ
ชื่อใลน์มัน NW มันก็แปลเป็นน้ำหวานได้นี่หวา..
แต่เจ้หวานเองเคยใช้ใลน์ที่ใช้ในการทำงานคุยกับเขาในใลน์นี้ นั่นหมายถึงเจ้หวานต้องรู้ว่าใลน์ที่กำลังคุยคือเขา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้หวานวางตัวอย่างดี ทำแค่งาน ไม่เคยที่จะพยายามเข้าหาเขา และไม่เคยแม้แต่จะเข้ามายุ่งวุ่นวายบนห้องทำงานส่วนตัวของเขาสักครั้งถ้าไม่จำเป็น
แล้วนี่อะไร จงใจล่อเขาไปหา ?
หรือจะจำไม่ได้ว่าเป็นเขา
แต่รอยสักเขาก็เป็นเอกลักษณ์ ชัดเจน จะจำไม่ได้จริง ๆ เหรอวะ
“ช่างแม่ง” คิดวนไปมาจนคิ้วเข้มขมวด สุดท้ายถึงจบแค่ช่างแม่งมันไป จะเจ้หวานหรือใครก็คงต้องลองไปดูให้เห็นกับตา
ร่างสูงก้าวขาออกมาจากห้องคอนโดหรู มองไปหาห้องที่อยู่ติดกันข้าง ๆ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้อง
อ่า
ไม่ล็อคจริงด้วยว่ะ
ผู้หญิงที่อยู่คนเดียว นัดให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักมาหา ทันทีที่เขาตอบตกลง ไม่มีสักคำถามที่ถามกลับมาว่าเขาพักอยู่ที่ไหน เดินทางนานไหม
แต่กลับปลดล็อคให้ทันที อย่างกับรู้ว่าเขาอยู่แค่เพียงข้างห้อง
ไฟก้าวขาเข้าไปภายในห้องของเจ้หวาน ภายในห้องตอนนี้ถูกปิดไฟมืดสนิท..ไม่มีแม้แต่แสงสว่างจากตึกด้านนอกส่องเข้ามา ผ้าม่านผืนหนาถูกปิดทึบ ไฟทุกดวงถูกปิดไว้
โชคยังดีที่ห้องเขาและห้องเจ้หวานถูกตกแต่งภายในห้องเหมือนกัน เขาถึงคุ้นชิน และตรงไปยังห้องนอนฝั่งขวามือของเจ้หวานได้อย่างชำนาญ
เขารอจนสายตาคมเริ่มปรับเข้าหาความมืด เริ่มมองเห็นบรรยากาศรอบๆ ได้แม้ไม่ชัดมากนัก
แกร๊ก! ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป ร่างสวยที่นอนคว่ำหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงก็รีบกดล็อคปิดโทรศัพท์ แสงสว่างเพียงเสี้ยววินาทีที่มีทำเขาเห็นคนบนเตียงได้ชัดแม้จะเห็นเพียงด้านหลัง
ผมลอนแบบเดียวกับเจ้หวาน
ชุดเดรสสายเดี่ยว ผ้าซาตินแนบเนื้อ
“มาแล้วเหรอคะ” ทันทีที่แสงจากโทรศัพท์หายไป เสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมหยัดตัวลุกตรงเข้ามาหาเขา
น้ำเสียงคุ้นเคย
เสียงเจ้หวาน เขาจำไม่ผิดแน่..
“เปิดไฟได้ไหม” น้ำเสียงกดต่ำที่แค่ฟังก็รู้ว่าคนพูดต้องทำสีหน้าดุ ๆ อยู่แน่นอน
ไม่มีคำตอบอะไรกลับมาให้เขา มีเพียงคนสวยที่ถือวิสาสะยกแขนคล้องลำคอหนา ขยับตัวเข้ามาจนอกอวบใหญ่แนบชิดกับแผงอกแกร่ง
ไม่ได้ใหญ่ธรรมดา
เรียกว่า ใหญ่ฉิบหาย..
ถ้าโดนเขาบีบ มันจะล้นมือขนาดไหน
“ปะป๊า”
อ่า
ฉิบหายกว่าเดิมอีก
“พกถุงยางมาหรือเปล่าคะ”
“อืม”
“เด็กดี”
เด็กดี?
เจ้หวานชมเขาว่าเด็กดี
เด็กดีที่ไหนจะยอมมาให้สาวล่อถึงห้อง
“อ๊ะ” ไฟจับร่างคนน้องพลิกตัวให้แผ่นหลังชนผนังห้อง รวบมือเล็กขึ้นเหนือหัว “ใจร้อนจังเลย”
“เปล่าค่ะ ไม่ได้ใจร้อน” เขาเพียงแต่ต้องการเช็คให้แน่ใจ
ไฟใช้มือลูบไปบนมือเล็กที่รวบไว้
แหวนที่คนสวยสวมติดนิ้วไว้ตลอดเวลา ตั้งแต่วันแรกที่เขาเจอจนกระทั่งทุกวันนี้ ไม่เคยเห็นสักวันที่เจ้หวานจะถอดมันออก
ข้างนึงสวมไว้ที่นิ้วชี้
ข้างนึงสวมไว้ที่นิ้วกลาง
เจ้หวานจริง ๆ
“เจ้าเล่ห์จังเลยนะคะ” ใบหน้าคมโน้มหน้าเข้าหาใบหน้าสวย น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบที่ข้างหูคนน้อง “ล่อฉันมาหาถึงที่เลย”
“คะ?”
“หนูอยากออกกำลังกายเหรอคะคนเก่ง”
“อือ..ใช่”
“งั้นเริ่มคืนนี้เลยดีไหม ฉันจะเทรนด์ให้” ไฟจับตัวคนน้องไปนั่งลงตรงขอบเตียง “เปิดไฟน่าจะถนัดกว่านะคะ” เสียงเข้มเอ่ยขณะจะถอยตัวไปกดเปิดไฟ แต่กลับโดนคนสวยดึงตัวกลับจนเซล้มลงมานอนลงบนเตียง “หืม?”
“เทรนด์ให้หน่อยสิคะ” ร่างสวยพลิกตัวมาขึ้นคร่อมตัวเขาไว้ “ได้ไหมคะปะป๊า หนูพร้อมแล้วน้า” คนสวยไม่พูดเปล่า
ภายในความมืดที่เขาเห็นเพียงเงา คนสวยกำลังถอดชุดเดรสสายเดี่ยวบนตัวโยนทิ้งไป เหลือไว้เพียงร่างกายเปลือยเปล่า กับเต้าอวบใหญ่ที่เห็นชัด..
โคตรเอ็กซ์
ในบรรดาเด็ก ๆ ที่เขามี
เรียกคนบนตัวเขาตอนนี้ได้ว่า ‘ที่สุดของห่วงโซ่’
“ปะป๊า” เสียงหวานเรียกเขาเสียงกระเส่า จับมือเขาขึ้นมาวางทาบทับไปที่อกอวบแนบเนื้อทั้งสองข้าง “เริ่มจากตรงไหนก่อนดีคะ”
“แล้วคนสวยอยากออกกำลังกายส่วนไหนก่อนล่ะคะ”
“ปะป๊าอยากสอนส่วนไหน ก็เริ่มที่ส่วนนั้น”
“งั้นก็ตรงอกคนสวย ดีไหมคะ” ไฟว่าจบก็ออกแรงบีบมือหนาขยำอกอวบใหญ่ช้า ๆ จนแนบแน่น เนื้อเนียนล้นออกมาตามร่องนิ้ว
ใหญ่ฉิบหายเลย แม่ง
“ล้นมือ”
“เหรอคะ ล้นมือปะป๊าเลยเหรอ” คิดไม่ออกเลยจริง ๆ เจ้หวานที่พูดจาคะขา เสียงอ่อนเสียงหวานขนาดนี้ ตอนนี้กำลังทำสีหน้าแบบไหนตอนเขาใช้มือบีบอกอยู่กัน..
อยากเห็น..อยากเห็นมันชัด ๆ
หรือจะอุ้มกระแทกให้เคลิ้ม แล้วแอบเปิดไฟดีวะ