“คุณฟ้าใสคอลเฟิร์มกับตามแล้วนะคะ ว่าจะรอที่ห้องอาหารอิตาเลี่ยนของโรงแรม”
“อืม”
“พี่อคินเป็นอะไรรึเปล่าคะ ตามเห็นพี่นั่งไม่พูดไม่จาตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว” ฉันกึ่งเดิน กึ่งวิ่งให้เร็วขึ้นไปนำหน้าพี่อคินที่ก้าวขายาวๆ ของเขาแบบไม่รอฉัน
“ตามทำอะไรให้พี่ไม่พอใจรึเปล่าคะ ว้าย!”
“ระวังหน่อยสิตาม!” เสียงเข้มเอ็ดฉันเสียงดัง มือหนาคว้าตัวของฉันเอาไว้ทัน ก่อนที่ฉันจะตกลงไปบริเวณขอบทางที่เป็นพื้นต่างระดับ
“ตามขอโทษค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่อคินเพื่อเป็นการขอโทษ ค่อยๆ แกะแขนของพี่อคินที่โอบอยู่ตรงเอวออก
คนตัวสูงยืนจ้องฉันด้วยสายตานิ่งๆ แต่รู้สึกเหมือนมันมีอะไรอยู่ในนั้น เพียงแต่เขาไม่ยอมพูดมันออกมา
“พี่อคินไม่พอใจอะไรตามก็บอกมาเถอะค่ะ ตามจะได้แก้ไข แต่ห้ามด่านะคะ” ฉันยกแขนขึ้นทำท่ากากบาท พี่อคินไม่สนใจ ส่ายหน้าน้อยๆมาทางฉันแล้วเดินเข้าไปยังห้องอาหารที่ถูกจองเอาไว้แล้ว โรงแรมหรู
“รอนานมั้ยครับฟ้า”
ฉันตกใจจนต้องเอามือยกขึ้นทาบอก อุทาน! โอ้แม่เจ้าอยู่ภายในใจ เมื่อเห็นพี่อคินโน้มตัวลงหอมแก้มคุณฟ้าใสจากทางด้านหลัง
ส่วนฉันเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ทำเป็นเสมองไปทางอื่น จนพี่อคินนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคุณฟ้าใส มีเพียงสองที่นั่งสินะ ส่วนฉันก็ยืนไปสิ
“ฟ้าก็พึ่งมาค่ะ” เธอบอกอย่างมีจริต พึ่งมาอะไร น้ำส้มในแก้มหมดแก้วไปแล้ว เหมือนคุณฟ้าอะไรนั่นจะพยายามแอ๊บแอ้อยู่นะ
นิ้วเรียวของเธอยกขึ้นส่งสัญญาณให้กับพนักงานที่ยืนรอบริการตามคำสั่งอยู่บริเวณนั้น
"เมื่อคืนฟ้ารอคินตั้งนาน ไม่ไปก็ควรจะบอกกันบ้าง"
"จริงสิ! ผมส่งกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ของ บิยองปิงให้คุณเมื่อเช้า ถูกใจมั้ยครับ" มือหนาของพี่อคินลูบลงที่หลังมือของคุณฟ้าใส สายตาเฉี่ยวๆของเขาจ้องเธออย่างสื่อความหมายบางอย่าง
"อย่าเอากระเป๋ามาอ้างเลยค่ะ ฟ้ารู้ว่าเมื่อคืนคุณไปเดทกับเจนิส"
"เดท! เอาอะไรมาเรียกเดทครับ การจิบชารอบเย็นไม่นับว่าเป็นเดทนะ "
"ยังเหมือนเดิมเลยนะคะ ไม่ทิ้งร่องรอยยังไงก็ยังงั้น" พี่อคินไม่ตอบอะไร แต่ยิ้มบางๆส่งไปทางคุณฟ้าใสอะไรนั่น ที่นั่งหน้าหงิกอยู่ฝั่งตรงข้าม
ไม่นานอาหารที่ถูกสั่งเอาไว้แล้วก็ถูกลำเรียงมาเสิร์ฟ ท่ามกลางคนสองคนที่กำลังคุยกันออกรสออกชาติ
ฉันได้แต่ยืนไร้ตัวตนอยู่ห่างจากพวกเขาฟลายเมตร จริงๆแทบอยากจะหายตัวออกไปจากตรงนี้ เพราะฉันก็หิวเป็นเหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าต้องยื่นเอกสารสัญญาในมือให้กับคุณฟ้าใสเซ็นอ่ะนะ
เนิ่นนานที่สองคนนั้นเปลี่ยนกันตักอาหารให้กันไปมาอย่างหน้าหมั่นไส้ คุณฟ้าใสก็เหลือบสายตาที่มีแพขนตาหนาเหมือนกันสาดติดอยู่มาทางฉัน
“นั่นเลขาคนใหม่ที่มาช่วยงานคุณแทนเฌอปรางรึเปล่าคะ”
ขอบคุณนะคะที่มองเห็นอิฉัน ผู้หิวโหยยืนอยู่ตรงนี้ พี่อคินปรายตามมามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะกวักมือเรียกให้ฉันเดินเข้าไปหา
“ตามฝันเปิดสัญญาให้คุณฟ้าใส”
“ค่ะ ท่านประธาน” มือหนาที่กำลังหยิบผ้าขึ้นเช็ดปากชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะผายมือให้คุณฟ้าใสดูเอกสารที่ฉันวางให้ตรงหน้า
“เอกสารสัญญาค่ะคุณฟ้าใส”
“ขอบใจจ๊ะ” เธอไล่ดูเอกสารสัญญาเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็จรดปลายปากกาเซ็นต์ชื่อลงในสัญญาอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม
“น่าแปลกใจนะคะ ที่คนได้รับข้อเสนอดีๆ แบบนี้ไม่ใช่เจนิส แต่เป็นฟ้าใส”
“ทุกอย่างมันคือผลประโยชน์ครับ ข้อเสนอของใครดีกว่า ผมก็รับข้อเสนอนั้น”
“ตรงไปตรงมาแบบนี้ฟ้าชอบค่ะ ยินดีที่ได้ร่วมงานอีกครั้งนะคะ” คุณฟ้าใสลุกขึ้น ยื่นมือไปจับมือกับพี่อคิน หลังจากที่เธอยื่นสัญญาคืนให้ฉันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ยินดีเช่นกันครับ” ทั้งสองสวมกอดกันเล็กน้อยจากนั้นคุณฟ้าใสก็เดินออกจากห้องอาหารไปกับชายชุดดำสองคนที่เดินขนาบข้างไปพร้อมกับเธอ คนตัวโตนั่งลงเก้าอี้ตัวเดิม ยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มจนหมด
“หิวมั้ย”
“คะ” เสียงเข้มของพี่อคินทำให้ฉันหลุดออกจากภวัง เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้จากนั้นก็เดินนำหน้าไปยังรถคันหรูของเขา
“ไปหาข้าวกินกันเถอะ พี่อยากกินข้าวมันไก่”
“หา!แต่พี่พึ่งกินไปนะคะ นี่จะกินอีกแล้วเหรอ”
“อืม รึเราไม่หิว”
“จะเหลือเหรอคะ นี่มันจะบ่ายสองแล้วนะ เสียงท้องตามร้องยังกะมีสิงโตอยู่ข้างใน”
“โทษที พี่แค่ฝึกงานเลขาเบื้องต้นให้เธอน่ะ”
“เลขาเบื้องต้นอะไรกันคะ เลขาก็มีกระเพาะอาหารนะคะ ท่านประธานใจร้าย”
“เอาน่า เดี๋ยวถึงร้านพี่เลี้ยงเอง ไปกันเถอะ” ฉันวิ่งตามพี่อคินไปติดๆ คนตัวสูงเปิดประตูรถขึ้นนั่งประจำตำแหน่งคนขับ โดยไม่ลืมที่จะออกคำสั่งให้ฉันคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย
หลายชั่วโมงต่อมา
“เย็นนี้พี่อคินมีนัดทานข้าวกับคุณเมย์ อย่าลืมนะคะ”
ฉันทวนคิวงานวันนี้ให้เขาอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้เขาพลาดนัด
“อืม เธอรีบเข้าบ้านเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้ว” ฉันยกมือไหว้พี่อคินอย่างนอบน้อม โบกมือให้เขาเล็กน้อย แล้วเดินเข้าบ้านไป โชคดีที่เขามาส่ง ไม่อย่างนั้นฉันคงได้นั่งแท็กซี่กลับเอง บังเอิญว่าฉันพึ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นานเลยไม่ค่อยอยากขับรถสักเท่าไหร่