“ว่าไงคุณเรวัฒน์ นี่มันก็ใกล้จะครบกำหนดแล้วนะ คุณยังหาเงินมาให้ผมไม่ครบเลย”
เสียงที่ดังมาตามสายทำให้เรวัฒน์ถึงกับเหงื่อตก มือที่เริ่มเหี่ยวย่นตามวัยซึมชื้นไปด้วยเหงื่อ แม้เสียงของคนปลายสายจะยังคงเค้าเรียบเรื่อย หากแต่เขารู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่สามารถหาเงินได้ตามที่อีกฝ่ายกำหนดแม้แช่ชีวิตเขา...คงไม่เหลือ
“ขะ...ขอเวลาผมเพิ่มไม่ได้เหรอครับ”
เรวัฒน์อุทธรณ์เสียงตะกุกตะกัก
“ไม่!” เสียงห้าวปฏิเสธทันควันโดยไม่เสียเวลาแม้เพียงเศษเสี้ยววินาทีในการคิดและตัดสินใจ “ผมให้เวลาคุณมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป” อโณทัยเอ่ย
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่คุณเรวัฒน์ หากคุณหาเงินให้ผมได้ไม่ครบ คุณก็ต้องทำตามข้อตกลงของเรา! อย่าคิดตุกติกกับคนอย่างอโณทัยนะคุณเรวัฒน์...อย่าหาว่าผมไม่เตือน แค่นี้แหละ...สวัสดี”
พูดจบปลายสายของวางสายทันที ทิ้งให้แต่เรวัฒน์ทิ้งกายลงบนเก้าอี้หนังหนานุ่ม มืออีกข้างกุมหน้าอกของตนเองแน่น เมื่อรู้สึกว่าอาการจุกเสียดแน่นหน้าอกเริ่มที่จะเล่นงานเขาอีกแล้ว
ยา...ยาของเขาอยู่ที่ไหน?
มือขวาของนายเรวัฒน์เปิดลิ้นชักของโต๊ะทำงานตัวใหญ่ก่อนจะควานหาจนได้กระปุกยาสีขาว มือสองข้างของเขาสั่นเทาหากเขาก็ไม่ใส่ใจ เพราะสิ่งที่เขาต้องการนั้นสำคัญกว่ายิ่งนัก
สักพักหลังจากที่กลืนยาสำหรับบรรเทาอาการโรคหัวใจ ใบหน้าขาวซีดของเรวัฒน์ก็เริ่มมีเลือดฝาดขึ้น ชายสูงวัยเริ่มหายใจเข้าออกช้าๆเป็นจังหวะเมื่อเริ่มรู้สึกว่าอาการที่เป็นเมื่อครู่เริ่มผ่อนคลาย สมองของเขาก็เริ่มขบคิด
เขาจะหาเงินที่ไหนมาภายในหนึ่งอาทิตย์มาใช้ให้อโณทัยดี?
หรือ...เขาจำต้องทนยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่าย
“เย็นนี้คุณไทม์จะแวะไปที่ชาเดรียนรึเปล่าครับ”
ร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทผ่อนฝีเท้าที่กำลังก้าวตรงไปยังลิฟต์ ใบหน้าคมเข้มเบือนไปมองคนพูดที่เดินตามเขามานิดนึง ก่อนที่ชายหนุ่มจะตอบรับสั้นๆ “ไป”
ชาเดรียนคือชื่อของคลับสุดหรูที่กำลังเป็นที่นิยมของบรรดาไฮโซหรือเหล่าลูกหลานคนมีเงินทั้งหลายในขณะนี้ ซึ่งแน่นอนว่านั่นคือหนึ่งในกิจการของอโณทัยเช่นเดียวกัน และในทุกค่ำคืนวันศุกร์ยามเมื่อไม่มีงานอะไรเร่งด่วนชายหนุ่มจะแวะเข้าไปที่แห่งนั้นเสมอเพื่อตรวจกิจการของตนเอง
“อ้อ...คุณไทม์ครับ วันนี้คุณเรวัฒน์ติดต่อมาอีกแล้ว เขาพยายามจะพูดเรื่องการผ่อนผันหนี้...” มือของอโณทัยโบกขึ้นเป็นเชิงบอกให้ผู้ช่วยของเขาหยุดพูด
“ถ้าเรวัฒน์ติดต่อมาอีก บอกไปว่าฉันไม่ผ่อนผันใดๆให้ทั้งสิ้น ระยะเวลาสามเดือนที่ให้ไปนี่ก็มากพอแล้ว...” เกินพอด้วยซ้ำที่เขาต้องเฝ้าอดทนรอ ร่างสูงคิดในใจโดยไม่เอ่ยออกมา “แล้วถ้ายังติดต่อมาอีกไม่ต้องรายงานให้ฉันรับรู้ รออีกสามวันแล้วไปเก็บหนี้จากเรวัฒน์ได้เลย!”
พูดจบเขาก็สอดร่างเข้าไปนั่งในรถยนต์ทิ้งให้คนเป็นลูกน้องจำต้องรีบก้าวตามอย่างช่วยไม่ได้
“เอาน่ายัยเร มาถึงทีแล้วก็ต้องเข้าไปสิ! มามัวแต่ไม่กล้าๆอยู่ได้ นี่พวกเรามาสนุกกันนะ!”
คนพูดเป็นหญิงสาวร่างเล็กในขณะที่คนโดนลากนั้นส่ายศีรษะไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ “เข้าไปไม่ได้หรอก ฉันยังไม่ได้ขอพ่อเลยว่าจะมาเที่ยวที่นี่น่ะ”
“โห...ยัยคีดูเพื่อนแกนะ ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้แหละว่ามันโคตรจะเด็กดีเลย” พีรดาหันไปพูดเชิงฟ้องกับหญิงสาวอีกคนที่ได้แต่ยืนยิ้มกับภาพยื้อยุดของคนทั้งคู่หน้าคลับหรูชาเเดรียนก่อนที่จะตัดสินใจไกล่เกลี่ยให้คนตัวเล็กกว่า
“เข้าไปเถอะเร...ตัดความรำคาญยัยพี อุตส่าห์ไปตามลากตัวพวกเราถึงบ้านก็เข้าไปให้ยัยพีเถอะ ดีกว่าปวดหูตายเพราะเสียงบ่นนะ”
คนไกล่เกลี่ยพูดพลางกลั้วหัวเราะ แต่คำพูดของคนพูดน้อยก็ทำให้ตัวตั้งตัวตีในการเที่ยวครั้งนี้ปล่อยแขนเรณุกาทันทีพร้อมกับหันไปมองคีตยาตาขวาง
“เอ๊ะ! แกจะช่วยหรือจะซ้ำเติมฮะยัยคี”
พูดจบเจ้าตัวก็งอนป่องๆ สะบัดหน้าหนีเข้าไปในคลับนั้นทันที ทิ้งให้สองสาวหัวเราะกับกริยาราวกับเด็กเล็กๆของพีรดา
เสียงพูดคุยและหัวเราะของทั้งสามสาวนั้นทำเอาร่างสูงที่กำลังเดินผ่านหน้าพวกเธอเข้าไปถึงกับหันไปมองด้วยความสนใจ ก่อนที่หัวใจของเขาจะรู้สึกกระตุกวูบเมื่อเห็นหญิงสาวของหนึ่งในสามสาวนั้นเต็มๆตา
เรณุกา
อโณทัยขานเรียกชื่อหญิงสาวคนนั้นในใจดวงตาคมทอแววหวานโดยที่เขาไม่รู้ตัว ในขณะที่สิรกรได้แต่ชะงักหยุดยืนอยู่เบื้องหลังของเจ้านายแต่เมื่อเห็นชัดเจนว่าสายตาของอโณทัยกำลังทอดมอง ‘ใคร’ เลยถึงบางอ้อ
“คุณไทม์จะเข้าไปทักเธอเลยไหมครับ”
“ไม่” เสียงห้าวปฏิเสธทันควัน ก่อนจะเริ่มเดินผ่านหน้าหญิงสาวไปโดยพยายามที่จะไม่หันไปทอดสายตามองหญิงสาวนั้นอีก
อีกสามวันเท่านั้น...
ร่างสูงคิดในใจมุมปากยกสูงเป็นรอยยิ้มบางๆ
เขาจะได้ ‘เธอ’ เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดให้สมกับเวลาหลายเดือนที่เสียไปนับตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา!