สามเดือนต่อมา
วันนี้เป็นวันรับปริญญาของสามสาว แต่ละคนวิ่งวุ่นไปมา ถ่ายรูปกับคนโน้นคนนี้ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและเสียงโหวกเหวกของผู้คนแต่ละคน ทว่าทุกคนที่อยู่งานนี้ต่างก็ยิ้มแย้มใบหน้าแจ่มใส เนื่องด้วยวันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่นับได้ว่าต่างเป็นความสำเร็จก้าวแรกของชีวิตก็ว่าได้
กว่าเรณุกาจะกลับถึงบ้านเธอก็เหนื่อยจนแทบจะสลบ หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็มานั่งดูของขวัญที่บรรดาคนรู้จักต่างซื้อมาให้เธอเพื่อนแสดงความยินดีกับวันรับปริญญาของเธอวันนี้ แต่ของขวัญอื่นๆก็ไม่สำหรับสำหรับเธอเท่ากับกล่องของขวัญสีน้ำเงินสด...สีโปรดทั้งของเธอและใครบางคนที่อยู่ไกล
หญิงสาวบรรจงแกะห่อของขวัญอย่างประณีต ก่อนจะอุทานออกมาเบาๆเมื่อเห็นของที่อยู่ภายใน
...สร้อยข้อมือเส้นบางที่มีจี้รูปหัวใจเล็กๆ...
เรณุกาค่อยๆใส่สร้อยข้อมือนั้นกับแขนเรียวอย่างทะนุถนอมก่อนจะหันมาสนใจการ์ดใบเล็กที่อยู่ใต้กล่อง
น้องเรที่รัก...
พี่วินคนนี้ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตคนใหม่ด้วยนะคะ...หวังว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้จะถูกใจหัวใจของพี่
คิดถึงเธอเสมอ...หัวใจของฉัน
พี่วิน
ในเวลาเดียวกัน
อโณทัยนั่งมองผู้คนที่ต่างเข้ามาใช้บริการผับหรูของเขาอย่างเนืองแน่น กิจการที่แค่ทำเพียงเล่นๆเพราะเป็นคนชอบเที่ยวแต่ไม่ชอบที่อึกทึกของเขา นับวันกลับรุดหน้าไปได้ด้วยดี
“เป็นไรไปไอ้ไทม์”
เสียงห้าวของเพื่อนสนิทคนเดียวที่เขามีถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่นั่งนิ่งเงียบ ทั้งๆที่เขาเป็นคนโทรไปตามให้อีกฝ่ายออกมาหาแท้ๆ
“ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแล้วเสือกเรียกกูออกมาหาอะไรวะ?!”
‘รวิภัทร’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เขามีถามกลับเป็นเชิงสบถมากกว่าอย่างหัวเสีย ว่าที่คุณพ่อมือใหม่มองเขาตาขวางก่อนจะบ่นสบถออกมาอีกสองสามคำเพราะเขาเป็นสาเหตุให้อีกฝ่ายต้องแยกจากเมียรักในเวลานี้
รวิภัทรถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะมองสบกับดวงตาคมของเพื่อนรักแล้วถามพูดออกมาว่า
“อย่ามาปิดฉัน...ไทม์ เราคบกันมากี่ปี แกเป็นอะไรไปทำไมฉันจะไม่รู้...บอกฉันมาดีกว่าว่าผู้หญิงคนไหนที่ทำให้คนอย่างอโณทัยเป็นได้ถึงขนาดนี้”
อโณทัยเหยียดริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มแล้วถามอีกฝ่ายกลับอย่างท้าทายว่า “ทำไมแกต้องคิดว่าฉันต้องกลุ้มเรื่องผู้หญิง ทำไมไม่คิดว่าฉันจะกลุ้มเรื่องอื่นบ้าง”
“พูอย่างนี้มีเตะแน่ๆ” นิ้วเรียวของรวิภัทรชี้หน้าอีกฝ่ายแล้วพูดต่อว่า “ฉันกับแกคบกันมาตั้งกี่ปี รู้ไส้รู้พุงกันไปถึงไหนๆ ทำไมจะไม่รู้ว่าคนอย่างเจ้าพ่ออโณทัยไม่เคยคิดถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงานและเรื่องผู้หญิง...แล้วตอนนี้ฉันไม่เห็นว่างานของแกจะมีปัญหาอะไร มันก็เหลือเพียงเรื่องเดียวล่ะวะ”
คนฟังได้แต่หัวเราะออกมาก่อนจะยอมรับ
“เออ แกพูดถูก ตอนนี้ฉันถูกใจผู้หญิงคนใหม่ว่ะ สวย...หวาน...”
ชายหนุ่มพูดพลางคิดไปถึงใบหน้าสวยหวานและดวงตาคมหวานคู่นั้นที่ติดตรึงใจเขาจนทำให้เขายอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เธอมา และในตอนนี้เวลานั้นก็ใกล้จะมาถึงแล้ว
รวิภัทรมองเพื่อนของเขาที่คราวนี้ออกอาการมามากกว่าที่เป็นในทุกคราวที่มันถูกใจผู้หญิงคนใหม่ อโณทัยก็เป็นเหมือนๆเขา เป็นพวกถูกใจอะไรก็จะทำทุกอย่างให้ได้มา
“ท่าแกจะเป็นเอามากไทม์ เอ๊ะ! หรือนี่จะเป็นตัวจริงของแก”
“หุบปากไอ้ภัทร!” อโณทัยพูดพลางชี้หน้าของว่าที่คุณพ่อมือใหม่ไปด้วย “คนอย่างอโณทัยยังต้องอยู่เป็นโสดไปนานๆโว้ย ไม่มีผู้หญิงคนไหนไล่ตามจับฉันได้อยู่แล้ว”
“ถุย!” รวิภัทรทำท่าดูถูกเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ “ผู้หญิงไม่วิ่งไล่จับแก มีแต่แกน่ะสิไปวิ่งไล่จับเค้า แล้วถึงเวลานั้นฉันจะสมน้ำหน้าซ้ำ”
“แต่ถ้ามีเวลานั้นจริงฉันคงไม่เหมือนกับแกหรอกไอ้ภัทรที่ทำท่าจะเป็นจะตายตอนคุณนาหนีไปน่ะ!” ได้ทีอโณทัยก็ตอกกลับให้อีกฝ่ายเจ็บแสบได้ไม่แพ้กัน รวิภัทรที่เถียงไม่สู้เลยได้แต่ยอมแพ้ ก่อนจะยกเจ้าเครื่องดื่มสีอำพันที่อยู่ในแก้วขึ้นมาดื่ม
ทั้งคู่นั่งดื่มกันไปสักพัก ชวนคุยถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ก่อนที่อโณทัยจะถามถึงศศินา...ผู้หญิงคนเดียวที่ตอนนี้รวิภัทรเพื่อนของเขาพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักหมดใจ แล้วกว่าจะได้แต่งงานกันทั้งคู่ต่างก็ผ่านเรื่องต่างๆกันมาไม่น้อย แถมตอนนี้อโณทัยก็ใกล้จะได้เป็นคุณอาเต็มทีแล้ว โดยที่เถียงกับรวิภัทรแทบตายในตอนนั้นว่าเขาจะเป็นอา ไม่เป็นลุงเด็ดขาด! เพราะนับตามเวลาแล้วเขาอ่อนกว่าไอ้พ่อของหลานอยู่หนึ่งเดือนเห็นจะได้
“แล้วนี่คุณนาใกล้จะคลอดรึยังไอ้ภัทร อีกกี่เดือนฉันถึงจะได้เห็นหน้าหลาน”
“หุบปากไอ้ไทม์ แล้วไปไกลๆตีนฉัน อย่ามาถามถึงลูกเมียคนอื่นนะ!”
“ไอ้บ้าภัทร...ไอ้หมาหวงก้าง!”
“เออ!...หวงแล้วมีอะไรวะ!”
รวิภัทรตวาดเสียงขุ่น ก่อนที่ทั้งคู่จะหลุดหัวเราะออกมาให้กับมุกขำขันที่เล่นกันเอง