เรณุกาถึงกับมือสั่นหลังจากที่วางสายไปจากอโณทัยเมื่อครู่ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นเขาจะทำจริงหรือไม่? แต่ตอนนี้เธอรู้เพียงอย่างเดียวว่าเขาทำมากเกินไป! มากเกินไปจริงๆที่กล้าทำกับพ่อของเธอแบบนี้!
ความรู้สึกโมโห กรุ่นโกรธ และหวาดกลัวในคำขู่ของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวถึงกับหมดแรง ดีที่ตอนนี้เธอทรุดกายนั่งลงที่เตียงนอนของตนเอง หาไม่แล้วป่านนี้เธอคงขาอ่อนพับลงไปกองกับพื้นหลังสิ้นสุดคำขู่ของเขาเป็นแน่!
ไม่รู้ผู้ชายคนนั้นจะเอาอะไรกับเธอกันแน่ถึงได้แกล้งกันไม่เลิกรา...คงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้าเธอ...นี่เธอไปหน้าตาเหมือนคนที่ไปฆ่าพ่อแม่เขารึไง หรือพ่อของเธอเคยไปทำอะไรให้เขางั้นเหรอ?...ก็ไม่! แล้วผู้ชายคนนั้นเกิดนึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมา!
“เฮ้อ...”
หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ คิดไปก็เท่านั้น สู้รีบๆเอาสมองไปคิดหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ดีกว่า ว่าแล้วเรณุกาก็รวบรวมกำลังใจลุกขึ้นยืน...จริงสินะ...ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนี่...ข้างนอกก็มีทั้งพีรดาและคีตยา หนึ่งคนหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนยิ่งสบาย!
ครืด~ ครืด~
แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะก้าวเท้าออกไปนอกห้อง โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง มือบางรีบกดรับทันทีโดยไม่ลังเลเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์โทรของใคร?!
[อ้อ...ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะเรณุกา...เรื่องนี้ต้องมีแค่ฉันและเธอเท่านั้นที่รู้เรื่อง...ถ้าเธอแจ้งตำรวจหรือบอกใครๆล่ะก็...หึๆ ทางเลือกของเธอจะหมดลงทันทีแล้วฉันจะเป็นคนเลือกให้เธอเอง!]
คราวนี้โทรศัพท์มือถือถึงกับร่วงหล่นจากมือของหญิงสาวทันที ใบหน้าหวานซีดเผือด ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างพยายามระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านในอกเต็มที่
ถ้านายทำอะไรพ่อฉันเราจะได้เห็นดีกัน...ไอ้ผู้ชายเลือดเย็น!
“ช่วยอยู่นิ่งๆและสงบๆนะคุณเรวัฒน์ถ้าไม่อยากให้ลูกสาวคุณเป็นอันตราย”
อโณทัยพูดก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามผู้สูงวัยกว่าโดยมีเพียงโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่คั่นเท่านั้น ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตนเองก่อนจะเริ่มนับเวลา...หนึ่งชั่วโมง...
เรวัฒน์ที่ตอนนี้ไม่ได้ถูกมัดแต่ก็ไม่ได้เป็นอิสระมากนักเพราะข้างกายของชายสูงวัยก็มีคนของอโณทัยสองคนยืนขนาบข้างอยู่และหนึ่งในนั้นคือคนที่เขาจำได้ว่าเมื่อวานคนพวกนี้ไปซ้อมเขา...สิรกร!
“ถามจริงๆอโณทัย...คุณต้องการอะไรจากยัยเรลูกสาวผม...ผู้หญิงสวยกว่ายัยเรมีมากมายที่พร้อมจะยอมอยู่กับคุณแต่ทำไมถึงต้องเป็นยัยเร...”
เรวัฒน์ถามอโณทัยอย่างคนที่อยากรู้จริงๆ แต่สิ่งที่อโณทัยตอบกลับมามีเพียงสองคำสั้นๆ
“ไม่ทราบ...”
“ทำไมถึงไม่รู้...ผมผิดหวังในตัวคุณจริงๆ ทั้งที่เคยมีคนเคยเตือนแล้วแท้ๆว่าอย่าไว้ใจคนอย่างคุณ...ซาตาน..สุดท้ายซาตานก็คือซาตาน ไม่สามารถกลับตัวเป็นคนดีได้”
“คุณน่าจะรู้แต่แรกคุณเรวัฒน์...ถ้าคนไหนไม่มีประโยชน์ผมไม่มีวันยอมคบ เพื่อนแท้มีเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้ว...คนอื่นก็เป็นแค่บันไดสู่ชัยชนะ”
อโณทัยพูดพลางจ้องตอบคนถามด้วยสายตาคมปลาบแต่เรวัฒน์ก็ไม่หลบสายตา
“แต่สิ่งที่คุณได้จากพวกเรามันก็มากพอแล้วนะอโณทัย ค่าความโง่ของผมมันมากพอแล้ว อย่าดึงเอาชีวิตของลูกสาวผมมาลงนรกไปกับซาตานอย่างคุณเลย รู้รึเปล่าว่ายัยเรมีคนรักที่กำลังจะแต่งงานกันแล้วนะ!”
สิ่งที่หลุดปากเรวัฒน์ออกมาทำให้อโณทัยถึงกับอึ้งด้วยคาดไม่ถึงแล้วนิ่งคิด เธอเพิ่งจะเรียนจบได้ไม่เท่าไหร่ รีบร้อนจะแต่งงานขนาดนั้นเชียวหรือ?
ถ้าไม่ไวไฟ...ก็ไอ้ผู้ชายนั่นก็คงจะหวงมากจนลงทุนผูกมัดเธอด้วยการแต่งงาน
ชายหนุ่มคิดแต่สิ่งที่เขาพูดออกไปกลับเป็น...
“แล้วยังไง ก็แค่กำลังจะแต่งงาน...ยังไม่ได้แต่งเสียหน่อย”
“อโณทัย!”
“แล้วไง? ลูกสาวคุณกล้ามาอวดดีใส่ผม ไม่สั่งสอนคงไม่รู้สึก แล้วอีกอย่าง....” คราวนี้ชายหนุ่มใช้มือทั้งสองข้างค้ำโต๊ะทำงานตัวใหญ่ตรงหน้าก่อนจะโน้มตัวไปใกล้คนที่นั่งตรงข้าม ดวงตาคู่คมกริบมองลึกลงไปในดวงตาของคนสูงวัยกว่าแล้วพูดต่อเบาๆว่า “แย่งของๆคนอื่นมันก็สนุกดีออก...อะไรที่คนอย่างอโณทัยอยากได้ ต่อให้ใช้วิธีที่คุณเห็นว่าเลวแค่ไหนผมก็พร้อมที่จะทำ!”
หลังจากวางสายจากอโณทัยไม่นาน เรณุกาก็รีบออกมาหาเพื่อนสาวทั้งสองคนที่นั่งรออยู่ข้างนอกห้อง หญิงสาวจัดการไล่เพื่อนสาวทั้งคู่ให้กลับไปโดยอ้างว่ามีธุระ...ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นความจริง แต่ธุระที่เธอต้องไปจัดการนั้นเธอไม่สามารถบอกใครได้เท่านั้นเอง
คีตยาและพีรดาทั้งสองคนพอเห็นใบหน้าของคนที่หายเข้าห้องไปเป็นสิบนาทีก็รู้แน่ว่าเจ้าตัวเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นแน่ๆ ไอ้ครั้นจะซักถามก็ไม่กล้า โดยเฉพาะพีรดาที่คันปากยิบๆอยากจะถามแต่พอมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แปรเป็นขรึมและคิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นแล้วก็ได้แต่แอบถอนใจ แล้วชวนคีตยากลับโดยที่ไม่ซักถามอะไรเรณุกาทั้งสิ้น
“งั้นดูแลตัวเองดีๆนะเร...เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะโทรหา”
พีรดาพูดเป็นคำสุดท้ายก่อนจะก้าวเท้าออกจากคอนโดฯของคีตยาที่ตอนนี้ให้เรณุกายืมใช้ห้อง เธอและคีตยาโบกมือลาเพื่อนสาวก่อนที่อีกฝ่ายจะโบกมือตอบและปิดประตูลง
หลังจากที่ให้เพื่อนทั้งสองกลับไปได้แล้ว เรณุกาก็กลับมานั่งทรุดตัวลงบนโซฟาตัวที่เพื่อนทั้งสองเพิ่งผละไปเมื่อครู่ หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะซบใบหน้าลงกับฝ่ามือทั้งสองข้าง
...ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นเขาจะกล้าทำจริงหรือเปล่า...แต่คนอย่างนายอโณทัยก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเป็นพวกชอบล้อเล่น...แล้วยังจะมาล้อด้วยความเป็นความตายของบิดาเธออีกล่ะ!
เรณุกากัดริมฝีปากของตนเองแน่นอย่างคนคิดไม่ตก
...ยอม...ไม่ยอม...ยอม...ไม่ยอม...ยอม...
ตอนนี้...ถ้าเธอยอมรับในสิ่งที่เขาต้องการ...แล้วเธอ...จะพูดจะบอกกับพี่วินอย่างไร....อีกไม่กี่เดือนพี่วินก็จะกลับมาแล้ว...แล้วถ้าเธอยอมรับในสิ่งที่นายอโณทัยอะไรนั่นต้องการ...เขาจะยอมปล่อยเธอก่อนที่พี่วินจะกลับมาหรือ?...
แต่ถ้าเขายอมปล่อยจริง...เธอยังจะกล้าสู้หน้าพี่วินอีกหรือ...เธอรู้ดีว่าข้อเสนอของนายอโณทัยมันไม่ใช่แค่การไปอยู่ด้วยกันธรรมดาๆ หรืออยู่เฉยๆ...เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดอ่านสายตาของผู้ชายคนนั้นยามที่มองใบหน้าเธอไม่ออก!
คิดสิคิดยัยเร...เธอจะเอายังไงต่อไป ระหว่างชีวิตของพ่อที่ผู้ชายคนนั้นขู่เอาไว้ กับอิสรภาพที่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เธอจะได้มันกลับคืน!