อยู่เป็นโสดก็สบายดี

1369 คำ
คำถามของวิรัลพัชรทำให้คุณานนท์คิดตาม สำหรับเขาแล้วรู้สึกและอยากจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าบิดามารดาจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเขาหรือเปล่า เพราะท่านเป็นคนมีหน้ามีตาและมีฐานะในสังคม ท่านเคยเปรยอยู่หลายครั้งว่าอยากจะให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่เหมาะสมผู้หญิงที่เข้ามาในครอบครัวแล้วช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันแต่ สำหรับเขากลับคิดว่าไม่จำเป็นเลยผู้หญิงที่จะเข้ามาใช้ชีวิตด้วยต้องเป็นผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจคอยอยู่ให้กำลังใจเวลาที่เขาเหนื่อย คุณานนท์คิดว่าตนเองมีความสามารถในการทำงานมากพอเขาไม่จำเป็นที่จะให้ผู้หญิงมาคอยช่วยเรื่องงานนั้นก็เป็นเพราะชายหนุ่มอยู่กับย่ามาตั้งแต่เด็กทำให้ความคิดค่อนข้างจะหัวโบราณไปสักนิดว่าผู้หญิงต้องมีหน้าที่ดูแลบ้านดูแลครอบครัวเธอไม่จำเป็นต้องออกมาทำงานนอกบ้านหรือทำงานเก่ง “ทำไมเงียบไปล่ะคะ” “ผมกำลังสับสน เพราะจริงๆ แล้วผมรู้สึกและอยากจะทำอย่างที่พูดนะ แต่ไม่รู้ว่าครอบครัวของผมจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมทำหรือเปล่า” “ขอโทษนะคุณอายุเท่าไหร่แล้วคะคุณนนท์” “ก็เยอะพอประมาณแล้วล่ะ น่าจะพอมีครอบครัวได้แล้ว ว่าแต่คุณถามทำไมเหรอวิว” “ก็ถ้าคุณอายุมากพอจะมีครอบครัวได้แล้ว ฉันก็คิดว่าคุณน่าจะมีสิทธิ์ตัดสินใจชีวิตของตัวเองได้นะ แต่ฉันไม่ได้บอกให้คุณต่อต้านพ่อกับแม่ของคุณหรอกเพียงแต่คุณต้องทำให้ท่านเห็นว่าผู้หญิงที่คุณรักจะทำให้คุณมีความสุขจริงๆ พ่อแม่ทุกคนน่ะอยากเห็นลูกมีความสุขทั้งนั้นแหละ” หญิงสาวพูดแล้วก็นึกถึงบิดาของตนเองที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนจะเสียชีวิตว่าถ้าหากเธอจะแต่งงานกับใครสักคนก็ขอให้เลือกผู้ชายที่รักเธอเพราะเธอเป็นเธออย่าเลือกผู้ชายที่ฐานะหรือหน้าตา “ทำไมคนเราเกิดมาจะต้องแต่งงานด้วยก็ไม่รู้เนอะ ผมว่าใช้ชีวิตเป็นโสดแบบนี้มันก็สบายดีออกคุณคิดแบบนั้นหรือเปล่า” “ถ้าทุกคนคิดแบบคุณอีกหน่อยมนุษย์บนโลกก็คงจะสูญพันธุ์แน่” “แล้วคุณล่ะอายุเท่าไหร่ ผมเดานะว่าน่าจะเพิ่งเรียนจบและเริ่มทำงานใช่ไหมแล้วคิดหรือเปล่าว่าจะแต่งงานมีครอบครัวตอนอายุเท่าไหร่” “ฉันเรียนจบมาเกือบสองปีแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงานหรือมีครอบครัว ฉันยังไม่คิดหรอกนะเพราะฉันยังเข็ดกับความรักอยู่น่ะ ก็เหมือนที่คุณพูดไง การใช้ชีวิตอยู่คนเดียวการอยู่เป็นโสดแบบนี้มันก็สบายดีมากๆ จะไปไหนจะทำอะไรไม่ต้องคอยรายงานใคร มันอิสระดี แต่บางครั้งมันก็เหงาบ้างแค่นั้นเอง” “เหมือนอย่างวันนี้ใช่ไหมล่ะ คุณมาเที่ยวกับเพื่อนแต่เพื่อนมากับแฟนมันก็เลยทำให้คุณเหงาและรีบออกมาจากงาน” “ก็ประมาณนั้นแหล่ะค่ะ จริงๆ แล้วเรานัดกันมาเที่ยวสี่คนฉันจะต้องค้างกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งแต่บังเอิญเธอไม่สบายน่ะ ทำให้ฉันต้องมาพักคนเดียวแบบนี้” “แล้วเพื่อนคุณพักที่ไหนล่ะไม่ได้พักบ้านเดียวกันเหรอ” “เขาพักบ้านอีกหลังนะอยู่ห่างออกไป ฉันเข้าใจว่าเขาน่าจะต้องการความเป็นส่วนตัว จริงๆ ฉันก็อยากจะยกเลิกการมาเที่ยวครั้งนี้หรอกนะ แต่คิดไปคิดมาก็เสียดายเงินน่ะและโอกาสที่ฉันจะ มาเที่ยวที่นี่มันก็คงมีไม่บ่อยหรอก” “แปลกจังที่พ่อแม่คุณปล่อยให้คุณมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ตามลำพังท่านฉันไม่ห่วงคุณเลยเหรอ ขอโทษนะที่ผมต้องถามแบบนี้เพราะปกติแล้วไม่ค่อยมีผู้หญิงมาเที่ยวตามลำพังเหมือนคุณหรอกนะ” “ฉันก็อยากให้เป็นเหมือนที่คุณพูดนะ อยากให้พ่อกับแม่ห่วงฉัน แต่มันเป็นไปไม่ได้พ่อฉันตายแล้วนะ ส่วนแม่ก็แต่งงานใหม่แม่ไม่สนใจหรอกว่าฉันจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหนฉันหรอก แม่ก็รอแค่วันที่ฉันเงินเดือนออกแค่นั้นแหละ” “ผมไม่ได้ดูถูกคุณนะแต่คุณเพิ่งบอกว่าเรียนจบ แล้วเงินเดือนจะมากแค่ไหนกันเชียวไหนจะต้องแบ่งให้แม่ด้วย คุณไม่คิดว่ามันเป็นภาระเหรอ” “ฉันคิดว่ามันเป็นหน้าที่ค่ะ ถึงแม้ท่านจะแต่งงานไปมีครอบครัวใหม่ มีลูกใหม่แต่ฉันก็ถือว่าตอนเด็กๆ ท่านเคยเลี้ยงมาและท่านก็อุ้มท้องฉันมาเงินที่ฉันให้แม่ก็ไม่มากเท่าไหร่หรอกค่ะ สำหรับบางคนมันอาจจะเป็นแค่เศษเงินด้วยซ้ำ แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มทำงานมันก็ค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน คุณรู้มั้ยทำไมฉันถึงได้มาเที่ยวที่นี่ทั้งที่ค่าใช้จ่ายค่าโรงแรมช่วงนี้มันแพงมากๆ” “ทำไมล่ะ มีคนจ่ายให้คุณเหรอ” “เปล่าหรอกค่ะ ฉันจะบอกความลับให้ก็ได้ฉันถูกหวยน่ะ” “ถูกหวยเหรอ ผมไม่รู้ว่าถูกครั้งหนึ่งมันได้เท่าไหร่ แต่เท่าที่เห็นในข่าวก็น่าจะหลายล้าน คุณเป็นคนโชคดีมากๆ เลยนะวิว” “ฉันไม่ได้ถูกหลายล้านหรอกค่ะถูกแค่สี่แสนเองแต่มันก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับฉัน” “คุณพูดเหมือนถ้าไม่ถูกหวยคุณจะไม่มาเที่ยวที่นี่ค่ะ” “ก็ใช่ค่ะ ค่าโรงแรมช่วงนี้มันแพงนะคะ ไหนในจะค่าตั๋วเครื่องบินอีก ลำพังแค่เงินเดือนฉันคงไม่พอมาเที่ยวหรอกค่ะ” หญิงสาวเล่าออกมาอย่างไม่มีปิดบง “ผมดีใจด้วยนะที่คุณถูกหวยเลยทำให้คุณได้มาเที่ยวที่นี่ ทำให้เรามาเจอกันได้คุยกัน” “ฉันก็ดีใจมากๆ ที่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ แต่ตอนนี้ฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ” “ง่วงแล้วเหรอ” “ไม่ง่วงหรอก แต่ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันเมามากๆ คุณจะนั่งดื่มต่ออยู่ตรงนี้ไหม” “ผมว่าจะนั่งดื่มอยู่อีกสักพัก ยินดีที่ได้รู้จักนะวิวให้ผมเดินไปส่งหน้าบ้านพักนะ” “ไม่เป็นไรค่ะ เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะคุณนนท์” เมื่อวิรัลพัชรเดินกลับไปแล้วคุณานนท์ก็ยังนั่งดื่มต่ออยู่บริเวณหน้าบ้านเขารู้สึกแปลกใจกับตนเองมากที่นั่งคุยกับคนเพิ่งรู้จักกันได้นานมากขนาดนี้ หญิงสาวเป็นคนที่มีอะไรน่าสนใจมากจริงๆ เธอเป็นคนพูดตรงมากๆ เล่าเรื่องทุกอย่างออกมาอย่างไม่อายเลยสักนิด ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็คงไม่กล้าเล่าว่าตัวเองเอาเงินถูกหวยมาเที่ยวหรือไม่ก็เล่าเรื่องครอบครัวของตัวเอง แต่ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่คิดแบบนั้นเธอเป็นคนค่อนข้างเปิดเผยเขาไม่รู้ว่าที่เธอพูดออกมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องโกหกกันแน่แต่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง เขาดื่มต่อจนเครื่องดื่มขวดที่สองหมดก็กำลังจะเดินกลับบ้านแต่ยังไม่ทันลุกก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังมาจากในบ้านพักของหญิงสาว คุณานนท์รีบวิ่งตรงไปยังหน้าบ้านและนับว่าโชคดีมากที่เธอไม่ได้ล็อกประตู “คุณเป็นอะไร” เขาตะโกนถามเข้าไป “คุณช่วยฉันด้วยในห้องฉันมีแมลงสาบ” “คุณอยู่ตรงไหน” “ฉันอยู่ในห้องนอน” เสียงตะโกนตอบกลับ เขาเปิดไฟจนสว่างบ้านก่อนจะเดินไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวกระโดดอยู่บนเตียง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม