ฉันเริ่มปวดกบาลเพราะสองพี่น้องเอาแต่โต้เถียงกันไปมา สุดท้ายฉันก็ต้องตบโต๊ะแรงๆ ให้เสียงฝ่ามือกระทบผิวไม้หยุดการสนทนาของพวกเขาสักที
"จะเถียงกันให้มันได้อะไรขึ้นมา ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ตกลงว่าจะหมั้นกับใครทั้งนั้น ดูแต่ละคนสิมีแต่อะไรก็ไม่รู้"
"พี่จริงใจกับเรามากกว่าไอ้นาวาเสียอีกนะ"
"งั้นกูถามหน่อยก่อนหน้านี้มึงนั่งแดกเหล้าอยู่กับใคร?"
ฉันหันไปมองหน้าพี่นาวินเหมือนพี่นาวินจะไม่กล้าสู้หน้าฉัน เขาก้มหน้าลงแล้วเดินเข้ามาหาดึงมือฉันไปกอบกุมเอาไว้
"ถ้าเกิดพี่นาวินมีผู้หญิงของพี่อยู่แล้ว เรื่องหมั้นฉันจะไปคุยกับที่บ้านเองค่ะ พวกเราจะได้กลับมาอยู่ในสถานะเดิมฉันเป็นน้องพี่และก็เป็นเพื่อนของนาวา"
"พี่ไม่ได้อยากเป็นพี่เธอ"
"ฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนเธอ"
"แต่เราสามคนไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้นะ ลองคิดดูดีๆ"
"ก็ใช่ฉันไม่มีทางใช้เมียร่วมกับใครเด็ดขาด"
"มึงคิดว่ากูอยากมีเมียคนเดียวกับมึงหรือไงไอ้นาวิน!"
"นาวาทำไมนายพูดจากับพี่นาวินไม่ดีเลย ยังไงพี่นาวินก็เป็นพี่ของนายนะ"
"หึ!"
"เรื่องผู้หญิงคนนั้นพี่ก็เคยคุยๆ แต่บังเอิญมาเจอกันที่ผับ พี่รู้สึกเซ็งๆ แล้วก็เบื่อๆ ด้วยช่วงนี้มีแต่งานมีแต่เรื่องยุ่งๆ พี่ไม่ได้ไปต่อกับใครไม่เหมือนใครบางคน"
"มึงพูดเหมือนกูไปทำอะไรผิดมา?"
"มึงยังไม่รู้ตัวอีกหรือไงวะ คืนนั้นที่มึงมาเมาหัวราน้ำที่ผับ มึงโทรให้น้ำชามารับมึงไป หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นมึงจำไม่ได้เลยเหรอ"
ฉันหันไปมองหน้านาวาดูเหมือนว่าเขาจะสับสนและสุดท้ายนาวาก็ส่ายหน้าเหมือนเขาจะเริ่มจำเรื่องราวในคืนนั้นได้แล้ว
"เรื่องคืนนั้นกูอธิบายได้กูยอมรับว่ากูเมาแต่ไม่ถึงขั้นขาดสติ กูกดเบอร์ผิดกูคิดว่าคนที่กูโทรหาคือนีน่า สุดท้ายคนที่มาหากูกลับเป็นน้ำชาแต่น้ำชาบอกกับกูว่านีน่าเป็นคนโทรหาให้เธอมารับกู"
"ไม่จริงฉันไม่เคยพูดแบบนั้นแล้วนายก็ไม่ได้โทรหาฉันในคืนนั้น"
"ฉันโมโหมากฉันคิดว่าเธอน่าจะปฏิเสธฉันแล้ว และเธอก็คงจะเลือกไอ้นาวิน ตอนฉันไปเข้าห้องน้ำน้ำชาก็เป็นคนพาฉันไปฉันโมโหอารมณ์เสียเลยดึงน้ำชาเข้ามา รอยนั้นฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนทำแต่มันแค่นั้นพอฉันสติกลับมาฉันก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ"
"มึงคิดว่าเหตุผลแค่นี้จะทำให้นีน่าเปลี่ยนใจไปเลือกมึงเหรอ?"
"ไม่ต้องเลือกก็ได้แต่ขอแค่อย่าเกลียดกันก็พอ..."
"หยุดกันทั้งหมดนี่แหละพี่นาวินพี่พานาวากลับไปด้วยส่วนฉันจะกลับบ้านแล้ว วันนี้คุยกันไม่รู้เรื่องพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะคะ"
"งั้นพรุ่งนี้พี่ไปรับพี่อยากพาไปดูหนังไปไหม"
"ถ้าเลิกกัดกันเป็นหมาค่อยมารับฉันนะคะ"
ฉันหยิบกระเป๋ารีบเดินออกมาจากห้อง สักพักทั้งสองคนก็เดินตามลงมาดูทั้งสองจะสงบเสงี่ยมไม่พูดจาโต้เถียงอะไรกันแล้ว พี่นาวินยังคงขับรถตามฉันจนรถของฉันขับเข้ามาในหมู่บ้านเขาก็แยกไปอีกทางเพื่อกลับไปบ้านของเขา
เช้าวันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาในช่วงเช้า รู้สึกมึนๆ หัวคงเป็นเพราะเมื่อคืนเจอแต่เรื่องวุ่นวาย เสียงแม่บ้านเดินมาเรียกฉันอยู่หน้าห้องตอนนี้พี่นาวินกับนาวาเดินทางมาบ้านฉันแต่เช้าไม่รู้จะรีบอะไรนักหนา
ฉันเดินลงมาจากชั้นสองใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเกือบครึ่งชั่วโมง พอลงมาก็เห็นทั้งสองกำลังนั่งคุยกันเหมือนอยากจะเคลียร์ปัญหาที่มันค้างคาใจอยู่
"ทำไมมากันแต่เช้าเลยคะ"
"จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ ไงพี่รู้สึกว่าช่วงนี้อยากลองใช้ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นดูบ้าง"
"เหอะ"
"นายเป็นอะไรนาวา"
"เปล่าไม่ได้เป็นอะไร วันนี้ฉันตั้งใจจะชดเชยให้เธอเองที่ผ่านมาฉันรู้แล้วว่าฉันบกพร่องเรื่องอะไรไป เมื่อก่อนเธอเป็น number one ของฉันแต่พอพักหลังน้ำชาเริ่มมามีบทบาทกับฉันมากขึ้น มันเลยทำให้ฉันห่างเหินกับเธอแต่ฉันก็ไม่ได้ปันใจให้น้ำชาเลยนะ"
"แต่ดูแล้วน้ำชาน่าจะชอบนายมาก"
"ก็เรื่องของน้ำชา ผู้หญิงที่ชอบคิดไปเอง ชอบทำให้คนอื่นทะเลาะกันอยู่กับใครก็เปลี่ยนสภาพเหมือนพวกกิ้งก่าเปลี่ยนสี ฉันไม่เอาผู้หญิงแบบนั้นมาทำพันธุ์หรอก"
"ฉันก็ไม่ได้อยากเอานายมาทำพันธุ์เหมือนกันนะ"
"เจ็บ! แต่ไม่เป็นไรของแบบนี้มันต้องลองก่อนบางทีถึงเวลาเธออาจจะติดใจจนลืมใครบางคนไปเลยก็ได้"
"49 มีสิทธิ์พูดด้วยเหรอวะ?"
"ของมึงใหญ่เท่าโลกเลยมั้ง!"
"จะกัดกันตลอดไปเลยใช่ไหม ฉันจะได้กลับขึ้นไปนอน!"
พอเจอเสียงฉันตวาดลั่น ทั้งสองก็รีบหันหน้าหนีไปคนละทาง วันนี้แม่บ้านทำข้าวต้มเอาไว้แต่ฉันไม่ทันอยู่ทานเพราะถูกทั้งสองพาขึ้นรถก่อนจะขับออกมาที่ห้างสรรพสินค้า
ช่วงเช้าๆ แบบนี้คนยังไม่ค่อยเยอะที่นาวินพาฉันมาทานข้าวที่ร้านอาหารของเพื่อนเขา ส่วนนาวากำลังดูรายชื่อหนังที่เข้าโรงวันนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาไปตกลงอะไรกันมาหรือเปล่าทำไมจู่ๆ ถึงได้ดูร่วมแรงร่วมใจกันแปลกๆ
"กินข้าวดูหนังเที่ยวเล่นเสร็จแล้วจะไปไหนกันต่อเหรอ?"
"พี่จะพาไปดูคอนโดครับ"