บทที่ 1คุณหนูนีน่า
วิทยาลัยเซนต์เทล (Sentel University)
บรรยากาศในรั้วมหาวิทยาลัยยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 1 จนตอนนี้ฉันอยู่ปี 4 ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม วุ่นวายเหมือนเดิม
ฉันชื่อนีน่าเป็นลูกสาวของท่านนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของประเทศไทย ถึงครอบครัวฉันจะมีชื่อเสียงแต่ตัวฉันกลับไม่อยากบอกใครว่าตัวเองเป็นใคร
ตอนปี 1 ฉันเข้ามาเรียนที่นี่ ฉันไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลยแถมยังโดนกลั่นแกล้งสารพัดแต่โชคดีที่ฉันมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลชื่อว่านาวา นาวาเป็นเพื่อนชายเพียงคนเดียวที่ฉันอยู่ด้วยแล้วสบายใจ
ถ้านาวาไม่ประกาศก้าวว่าฉันเป็นลูกของใคร ฉันก็คงจะถูกรังแกอยู่แบบนั้นแต่เชื่อไหม หลังจากที่ทั้งมหาวิทยาลัยนี้รู้ว่าพ่อฉันเป็นใครก็มีแต่คนอยากเข้าหา ฉันไม่เคยถูกกลั่นแกล้งอีกเลย นี่แหละที่มันทำให้ฉันรู้สึกถึงความไม่จริงใจของนักศึกษาที่นี่
"คุณหนูครับวันนี้เลิกเรียนกี่โมงครับเดี๋ยวผมจะมารับก่อนเวลาคุณหนูจะได้ไม่ต้องรอนาน"
"14:00 น ค่ะ"
"งั้นวันนี้คุณหนูตั้งใจเรียนนะครับ มีอะไรโทรหาผม ผมจะรีบส่งบอดี้การ์ดมาดูแล"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้ายอดกลับไปช่วยงานป้าอิ่มเถอะ"
"ครับคุณหนู"
ฉันเดินลงมาจากรถเหล่านักศึกษาต่างพากันมองมาที่ฉัน บางคนก็ยิ้มทักทายบางคนก็โบกไม้โบกมือ ฉันยิ้มให้ทุกคนอย่างเหนื่อยใจแล้วถือกระเป๋าสะพายก้าวเดินเข้ามาด้านในด้วยรองเท้าส้นสูง
มหาวิทยาลัยเซนต์เทลเป็นมหาวิทยาลัยของครอบครัวนาวา ครอบครัวนี้สนิทกับครอบครัวฉันมาก ทุกเดือนทั้งสองบ้านต้องมาเจอกันแวะทานข้าวทำกิจกรรมร่วมกัน
นาวามีพี่ชายชื่อว่านาวินตอนนี้พี่นาวินเป็นรองผู้บริหารของมหาวิทยาลัยไม่ได้ลงมาสอนเพราะไม่ได้จบด้านนี้มาโดยตรง พี่นาวินจบบริหารนอกจากรับตำแหน่งเป็นรองอธิการบดีพี่นาวินก็ยังมีกิจการส่วนตัวหลายอย่าง
ส่วนนาวาก็เป็นเพลย์บอยที่ฉันสนิทมาก จนต้องช่วยคัดกรองผู้หญิงให้ทุกครั้งแต่ฉันไม่เคยเห็นนาวาจะตัดใจชอบใครเลยสักคน คุยๆ เลิกๆ บางครั้งแค่เดือนเดียวเปลี่ยนผู้หญิงไปแล้ว 7 คน
"นาวาทำไมวันนี้ไม่ไปรับฉันที่บ้าน?"
"คุณหนูนีน่าครับ เมื่อวานผมแจ้งคุณหนูไปแล้วนะครับว่าวันนี้ผมต้องไปรับเพื่อนของคุณหนู"
"เพื่อนฉัน?"
เมื่อวานฉันคงไม่ได้ฟังสิ่งที่นาวาพูดเพราะกำลังจดจ่อมองไปที่หน้าห้องเรียน ตอนที่พี่นาวินเดินมาตรวจความเรียบร้อยของมหาวิทยาลัย
"เมื่อวานน้ำชารถเสีย รถอีกคันพี่ชายก็ต้องเอาไปทำงาน ฉันก็เลยต้องไปรับไงอย่าบอกว่าเมื่อวานเธอไม่ได้ฟัง"
"เหรอ.... สงสัยฉันจะลืม ช่างมันเถอะแล้วนี่น้ำชาไปไหนล่ะ"
น้ำชาก็เป็นเพื่อนของฉันอีกหนึ่งคน ฉันรู้จักกับน้ำชาผ่านนาวาอีกที นาวากับน้ำชาค่อนข้างสนิทกันเพราะเจอกันที่เรียนพิเศษแต่ฉันกับน้ำชาเพิ่งมารู้จักกันตอนปี 1 ถ้านาวาไม่แนะนำให้ฉันรู้จัก ฉันก็คงไม่กล้าคุยด้วย
ในขณะที่ฉันกับนาวามองซ้ายมองขวา น้ำชาก็รีบวิ่งมาพร้อมกับน้ำส้มคันของโปรดของเธอ
"พวกแกฉันซื้อน้ำส้มมาฝากชื่นใจมากอ่ะ นี่ของนาวากับของแกนีน่า"
"ขอบใจนะน้ำชา"
"เออนี่วันนี้ 14:00 น เรียนเสร็จพวกแกไปไหนกันไหม ฉันอยากจะชวนไปกินข้าวด้วยกันหน่อย พักหลังที่บ้านฉันทำแต่งานกลับบ้านไปฉันก็เหงา"
"ฉันว่างไปกับฉันก็ได้นะ ไปด้วยกันไหมนีน่า"
ฉันส่ายหน้าให้นาวาช่วงนี้ไม่อยากออกไปไหนเลยเหมือนจะเป็นประจำเดือนมันเพลียๆ อยากจะนอนอย่างเดียว
"งั้นไม่เป็นไรแกไม่ไปก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปกับนาวาก็ได้ นาวามันมีร้านชาบูเปิดใหม่เราลองไปกันไหมหัวละ 399 บาทเอง"
"ได้สิ"
ทั้งสองเดินนำหน้าขึ้นบันไดพร้อมพูดคุยกันสนุกสนานส่วนฉันได้แต่เดินกุมท้องอยู่ด้านหลัง วันนี้วิชาแรกพวกฉันต้องขึ้นไปเรียนชั้นบนสุดของตึกนี้ ในขณะที่ฉันกำลังเดินขึ้นบันไดฉันก็รู้สึกถึงอาการปวดท้องจนต้องหยุดเดินสงสัยประจำเดือนฉันจะมาแล้วแน่ๆ
"นาวา...."
ฉันเอ่ยปากเรียกแต่นาวาไม่ได้ยิน เขากำลังคุยและเปิดดูรูปรีวิวร้านชาบูกับน้ำชาจนกระทั่งมีมือของใครบางคนจับแขนฉันเอาไว้
เมื่อฉันหันไปมองคนด้านหลังก็ต้องตกใจเพราะใครคนนั้นที่ช่วยฉันไว้เป็นพี่นาวินที่เดินตามขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
"พี่นาวิน!"
"ท่านรอง"
เขาพูดเสียงเรียบสายตาแน่นิ่งเหมือนคนไม่รู้สึกรู้สากับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ เขามองมาที่ท้องฉันเพราะมือของฉันกำลังกุมท้องตัวเองอยู่
"ไม่กินข้าวมาอีกแล้วใช่ไหม?"
"ไม่ใช่นะคะ ฉันแค่ปวดท้องเป็นประจำเดือน"
"เรียนไหวไหมถ้าไม่ไหวก็ไปนอนห้องพยาบาลก่อน"
"ห้องพยาบาลอยู่ชั้นล่าง ตอนนี้ฉันเดินไปไม่ไหวหรอกค่ะท่านรอง"
"งั้นไปพักที่ห้องฉันก่อนเดินไหวใช่ไหม"
ฉันพยักหน้าช้าๆ ห้องของท่านรองอยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง เขาพยุงฉันเข้ามานั่งที่โซฟาแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมของตัวเองที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กออกมาให้ฉันคลุมขาไว้
"ไม่เข้าใจว่าทำไมนักศึกษาผู้หญิงที่นี่ชอบใส่กระโปรงสั้น จะลุกจะนั่งก็ลำบาก"
"มหาวิทยาลัยเอกชนก็แบบนี้แหละค่ะ อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ต่างจากมหาวิทยาลัยนานาชาติ ทุกคนเลยใช้ชีวิตกันแบบอิสระอยากจะทำอะไรก็ได้"
"ไอ้นาวาไปไหนทำไมปล่อยให้เธอเดินอยู่คนเดียว"
"ป่านนี้คงยังไม่รู้ว่าฉันหายไปแล้ว น้องชายของท่านรองใช้ไม่ได้เลยค่ะ"
ครืดดด
พูดไม่ทันขาดคำนาวาก็โทรมาคงจะเห็นฉันหายไปถึงได้รีบโทรตาม ฉันกดรับสายแล้วบอกเขาว่าตอนนี้ฉันป่วยกะทันหันปวดท้องนั่งพักอยู่ที่ห้องของพี่ชายเขา เรียนเสร็จเดี๋ยวนาวาก็คงจะเดินมาหาฉันที่ห้องทำงานของพี่ชายเขาเอง