บำเรอลับ 7 | คนที่แคร์

1433 คำ
“ทำไมเธอต้องทำขนาดนี้ด้วยลิน” ศรันย์ถามออกไปด้วยท่าทางไม่พอใจ นี่ขนาดพึ่งกลับมายังไม่เข้าบ้านเลยนะยังโดนใช้แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าตอนอยู่ในบ้านเธอจะโดนใช้งานหนักขนาดไหน แค่คิดก็หงุดหงิดขึ้นมาแล้ว หากเป็นไปได้เขาอยากจะพาเธอไปอยู่ด้วยตอนนี้เลย “ก็แค่เปิดประตูเอง ไม่เห็นเป็นอะไรเลย นายก็กลับไปได้แล้ว” ไพลินยิ้มให้ศรันย์ก่อนจะหันหน้าเข้าบ้าน ทั้งที่ปกติต้องรอให้รถของศรันย์ออกไปก่อน แต่วันนี้เธอกลับดูรีบผิดปกติ เพราะอยากจะรีบเข้าไปอธิบายให้ทั้งสองคนที่พึ่งขับรถเข้าไปในบ้านได้เข้าใจว่าเธอกับศรันย์ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไพลินกลับเข้ามาในห้องพักแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรีบร้อน พอเปลี่ยนเสร็จก็รีบเข้ามาที่บ้านใหญ่ทันที สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือไปอธิบายให้วนิดาเข้าใจก่อนว่าเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับศรันย์ “คุณหนูคะ” ไพลินรีบร้องเรียกวนิดาทันที ที่เธอเดินลงมาจากบนห้องพอดี “ยังกล้าเสนอหน้ามาให้ฉันเห็นอีกหรอ” วนิดาพูดออกมาด้วยท่าทางชิงชัง เพราะปกติเธอก็ไม่ชอบขี้หน้าไพลินอยู่แล้ว แล้วยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ที่ไพลินไปสนิทกับศรันย์ “ฉันกับศรันย์เราไม่ได้มีอะไรมากกว่าเพื่อนจริงๆ นะคะ ที่คุณหนูเห็นวันนี้ มันก็แค่เรื่องบังเอิญ ศรันย์เขาแค่ผ่านมาทางนี้ เขาก็เลยให้ฉันติดรถมาด้วย” ไพลินอธิบายยาวเหยียด เธอจำใจต้องสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อให้วนิดาสบายใจ ทั้งๆ ที่เธอกับศรันย์เป็นแค่เพื่อนกัน “ตอแหลเก่งนักนะ แกคิดว่าฉันโง่นักหรือไง อ่อยเขาที่มหาลัยยังไม่พอ ยังใช้มารยาให้เขามาส่งที่บ้านอีก คิดจะจับคนรวยๆ เพื่อให้ตัวเองสบายเหมือนที่คุณแม่พูดจริงๆ สินะ” วนิดาเหยียดยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ จนไพลินถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี แต่ไพลินไม่ทันได้แก้ตัวต่อ บุคคลที่สามก็เดินมาจากห้องทำงานที่อยู่ด้านหลังของวนิดา “มีอะไรกัน” วรานนท์ถามออกไปเสียงเรียบ แล้วมองหน้าน้องสาวโดยที่ไม่สนใจอีกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เหมือนกัน ยิ่งเห็นเช่นนั้น ไพลินก็ยิ่งอึดอัดใจ อยากจะอธิบายออกไป แต่ก็ยังไม่มีโอกาส เพราะวนิดาพูดออกมาซะก่อน “ก็นังลินสิคะ ชอบอ่อยผู้ชายไปทั่ว พี่รู้ไหมว่ามันพาผู้ชายมาพอดรักถึงหน้าบ้าน” วนิดาพูดออกไปด้วยท่าทางชิงชัง นึกถึงตอนที่ศรันย์มาส่งไพลิน ความอิจฉาก็ปะทุขึ้นมาจนอยากไล่นางกาฝากออกไปให้พ้นๆ จากหน้าสักที ไม่รู้จะอยู่เป็นมารหัวใจถึงเมื่อไหร่ “จะทำอะไรมันก็เรื่องของเขา น้องจะไปยุ่งทำไม” วรานนท์พูดออกไปเสียงเรียบ เพื่อให้มันจบๆ ไป “พี่นนท์ไม่รู้อะไรหรอกค่ะ ดาไปบอกคุณแม่ดีกว่า” วนิดาเดินออกไปหาคุณหญิงวรมลทันทีเพื่อจะได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อวนิดาเดินออกไป จึงเหลือเพียงวรานนท์กับไพลินที่ยืนอยู่ วรานนท์มองคนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตานิ่งๆ แล้วหันหลังจะกลับเข้าห้องทำงาน แต่ไม่ทันก้าวไปไกล ร่างบางก็มายืนขวางไว้ซะก่อน “คุณนนท์คะ คือว่า...” ไพลินทำหน้าอำอึ้ง ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป แต่รู้แค่ว่าเธออยากจะอธิบายให้คนตรงหน้าได้รู้ “ศรันย์เป็นเพื่อนลินค่ะ” ไพลินก้มหน้าตอบไปเสียงเบา ถึงจะอายกับสิ่งที่ทำ แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งที่พูดออกไปให้คนที่เธอแคร์ได้รู้ “บอกฉันทำไม?” วรานนท์พูดออกไปเสียงเรียบ สายตาจ้องมองใบหน้าสวยตรงหน้า ก่อนจะลดสายตาลงมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบ “ลินแค่อยากให้คุณนนท์รู้ ว่าลินกับศรันย์เราเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ ลินไม่เคยคิดกับศรันย์เกินเพื่อน” ไพลินอธิบายไปตามความรู้สึกของตัวเอง มันมาจากใจจริงๆ ของเธอที่ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด “เธอไม่ได้คิดอะไร ก็ไม่ได้หมายความว่าหมอนั่นจะไม่คิดอะไรกับเธอ แต่ช่างเถอะ!! ไม่ว่าเธอกับหมอนั่นจะเป็นอะไรกันหรือไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน” ถึงจะบอกหญิงสาวออกไปว่าไม่สนใจ แต่ข้างในก็รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดของน้องสาว ที่บอกว่าเธอกับหมอนั่นแอบกุ๊กกิ๊กกันที่มหาลัย ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันเกินเลยเหมือนที่ทำกับเขาหรือเปล่า หากทำแบบนั้นจริงๆ คงจะต้องโดนสั่งสอนสักหน่อยที่กล้าให้ใครมาซ้ำรอยของเขา “เกี่ยวสิคะ” ไพลินรีบพูดออกไปทันที ถึงเขาจะไม่แคร์ความรู้สึกเธอ แต่เธอแคร์ความรู้สึกเขา “....” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้ฟังเหตุผลของเธอ หัวใจแกร่งก็เต้นแรงผิดปกติ ลุ้นในประโยคต่อไปที่เธอกำลังจะพูด “เพราะลินไม่อยากให้คุณนนท์เข้าใจผิด คิดว่าลินสนใจผู้ชายคนอื่น แล้วถ้าคุณนนท์ไม่ชอบ ลินจะไม่ให้ศรันย์มารับมาส่งลินอีกค่ะ” เธอพูดออกไปรัวๆ อย่างไร้เดียงสา คิดแค่เพียงว่ามันคือการแสดงความบริสุทธิ์ใจ “ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน เพราะฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน” คำพูดของวรานนท์ทำเอาไพลินใจเต้นแรงขึ้นมา แล้วเงยหน้ามองอย่างไม่เชื่อหู “ฉันหมายถึงผู้หญิงที่เป็นคู่นอนของฉัน เลิกทำหน้างงแล้วกลับไปทำการบ้านได้แล้ว” วรานนท์แก้ตัวไปเสียงเรียบ ตอนนี้เขารู้สึกขาดความมั่นใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย นับวันผู้หญิงตรงหน้าก็เริ่มมีอิทธิพลต่อหัวใจของเขา “ค่ะ...” ไพลินยิ้มหวานออกมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ แล้วพูดออกมาด้วยท่าทางเขินอาย “แล้วคืนนี้... ให้ลินขึ้นไปหามั้ยคะ...” “อืม” วรานนท์ตอบเสียงเข้ม ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ปล่อยให้หญิงสาวยืนยิ้มจนแก้มปริ เมื่อเขาไม่ปฏิเสธเธอ เพราะว่าวันนี้ถ้าเขาปฏิเสธ เธอต้องนอนไม่หลับแน่ๆ … ไพลินเดินวนไปวนมารอบห้อง รอเวลาที่ทุกคนในบ้านนอนหลับ พอไฟในตึกปิดหมด ร่างบางก็รีบก้าวออกมาจากห้องทันที เพราะตอนนี้มันเกินเวลานัดหมายมาหลายนาทีแล้ว เธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจ ไพลินแอบเข้ามาในบ้านใหญ่จากประตูด้านหลัง เหมือนที่เคยทำ ถึงแม้จะกลัวคุณหญิงจับได้ แต่เสียงเรียกร้องของหัวใจมันมีมากกว่าความกลัว หมับ!!! ขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นมาชั้นบน ร่างบางก็ถูกปิดปากเอาไว้ แล้วฉุดลากมาที่ห้องทำงานหรู “ฉันเอง” เสียงทุ่มต่ำกระซิบข้างหู เพื่อไม่ให้ร่างบางในอ้อมกอดตื่นตระหนกตกใจแล้วโวยวายเสียงดัง ไพลินเลิกดิ้นแล้วหันไปมองเจ้าของห้องที่กำลังเดินไปเปิดไฟห้อง แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาหรูกลางห้อง “จะยืนมองอีกนานมั้ย มาตรงนี้” วรานนท์สั่งหญิงสาวผ่านสายตา ไพลินเดินมานั่งลงข้างๆ เจ้าของห้องอย่างว่าง่าย แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าคุณนนท์ของเธอลงมาทำอะไรตอนนี้ “คุณนนท์ลงมาทำอะไรคะ” ไพลินถามออกไปด้วยความสงสัย “ถ้าไม่ลงมา เธอคงโดนคุณแม่ไล่ออกจากบ้านไปแล้ว” “คุณหญิงยังไม่นอนเหรอคะ” ไพลินถามไปเสียงสั่น ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเธอขึ้นไปเจอคุณหญิงตอนนี้ เธอจะเป็นยังไง คงจะโดนไล่ออกจากบ้านวันนี้แน่ๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เธอคงไม่กลัวที่จะโดนไล่ออก และอยากออกไปจากที่นี่ แต่ตอนนี้... เธอกลับไม่อยากไปจากที่นี่เลย “ใช่” วรานนท์ตอบไปก่อนจะจับไหล่มนให้นอนราบกับโซฟา แล้วบทรักก็เริ่มขึ้นทันที…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม