ไม่ทันที่ธาราจะพูดอะไรออกมา เทวินทร์ก็อุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตักอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีเธอก็รู้สึกเหมือนลอยตัว พอรู้สึกตัวอีกที หัวของเธอก็ถูกกดแนบกับอกของเขาแล้ว
เสียงหัวใจเต้นที่ดังอยู่ข้างหูทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอได้รับการปกป้องอย่างใส่ใจจากเขา แม้ว่าในใจเธอจะรู้ดีว่าทั้งคู่กำลังจะหย่ากัน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตกหลุมกับความรู้สึกที่ถูกเขากอดแน่นแบบนี้ มันต่างจากการกอดกันตามหน้าที่ในฐานะสามีภรรยาอย่างสิ้นเชิง ใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา
ธาราเตือนตัวเองว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ยอมให้ตัวเองหลงอยู่ในความรู้สึกนี้
ผู้ช่วยดนัยของเทวินทร์พยายามขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อให้รถเคลื่อนไปได้อย่างราบรื่นที่สุด แต่แม้จะเป็นอย่างงั้นธาราก็ยังอาเจียนเป็นระยะ ๆ เธอรู้สึกแสบในท้องจนแยกไม่ออกว่ามันเป็นเพราะความหิวหรือเพราะอาการเมารถกันแน่
เมื่อมาถึงอพาร์ตเมนต์ไดมอนด์ เรสซิเดนซ์ เทวินทร์ลงจากรถแล้วเดินอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ธาราที่ยังคงป่วยและเหนื่อยล้าอยู่ในรถกับผู้ช่วยดนัย
ลมเย็นจากนอกหน้าต่างที่ถูกเปิดออกทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง โดยเฉพาะเมื่อคนที่ทำให้เธอเครียดไม่อยู่ใกล้ ๆ
“ผู้ช่วยดนัยคุณมีแฟนหรือยัง?”
ผู้ช่วยดนัยตกใจนึกว่าคุณผู้หญิงจะช่วยหาแฟนให้ เลยรีบตอบเรื่องสถานะความสัมพันธ์ของเขา
“ช่วงนี้ผมเพิ่งจะคุยกับคนที่ไปดูตัวมา เราได้เจอพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายแล้ว และกำลังวางแผนจดใบสมรสกันครับ”
ธาราพยักหน้ารับ “งั้นก็ดีเลย ยินดีด้วยนะ เอาสร้อยเส้นนี้ไปให้คู่หมั้นของคุณสิ น่าจะถูกใจเธอ มันเป็นสร้อยทับทิมที่สวยมาก ผู้หญิงทุกคนน่าจะชอบ”
ผู้ช่วยดนัยตกใจจนเหงื่อแตก เมื่อเห็นเธอยื่นกล่องเล็ก ๆ ที่ใส่สร้อยเส้นนั้นมาให้
“คุณผู้หญิงครับ ในโลกนี้สร้อยเส้นนี้โลกมีแค่สองเส้นเท่านั้น เส้นหนึ่งเอาไว้สำหรับเปิดตัวในงานแถลงข่าว อีกเส้นก็อยู่ในมือคุณ นี่เป็นของขวัญแทนใจที่ท่านประธานมอบให้คุณเลยนะครับ!”
ผู้ช่วยดนัยไม่กล้ารับมันไว้แน่นอน ไม่ใช่เพียงเพราะราคาที่สูง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของสถานะที่ เทวินทร์มอบให้เธออีกด้วย ถ้าเทวินทร์รู้เข้า เขาคงไม่รอดแน่
สินค้าชิ้นแรกทุกไตรมาสของบริษัทพันธกิจกรุ๊ปต้องให้คุณผู้หญิงก่อน คนอื่นจะมีโชคดีแบบนี้ได้อย่างไร
“คุณผู้หญิงครับ คุณเก็บไว้เถอะครับ เดี๋ยวท่านประธานออกมาแล้วเห็นคุณพูดแบบนี้ ผมโดนเล่นงานแน่”
ผู้ช่วยดนัยเหลือบมองข้างนอกเพื่อเช็คว่าไม่มีเทวินทร์ ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
เมื่อเห็นผู้ช่วยดนัยไม่กล้ารับของธาราก็ไม่ได้เซ้าซี้อีก ได้แค่ยัดของลงกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ
“โอเค ถ้าคุณไม่รับ ฉันจะเอาไปให้คนอื่น”
ของสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อคิดว่าเขาขึ้นไปนานแล้ว และไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรกันอยู่
บางทีอาจจะกำลังมีความสัมพันธ์กัน ส่วนเธอที่เป็นภรรยาตัวจริงกลับมาส่งเขาถึงที่ แถมยังนั่งรอข้างล่างอย่างคนโง่อีก
ช่างน่าขำสิ้นดี
ด้านบน เทวินทร์ออกจากลิฟต์และสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดห้อง
ทันทีที่ประตูเปิด ลดาก็พุ่งเข้ามากอดเขา
“ลดา คุณไม่สบายตรงไหน เราไปโรงพยาบาลกันเถอะ”
ก่อนที่เขาจะมาถึง ลดาได้แต่งหน้าน่ารักและสวยเป็นพิเศษ ทำให้เธอดูงดงามราวกับดอกไม้ไร้วี่แววของคนป่วยเลยแม้แต่น้อย เธอโอบเอวของเทวินทร์อย่างแน่นและซุกกอดไปมา
“เทวินทร์เมื่อกี้ฉันรู้สึกใจสั่นมากเลย ไม่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจกำเริบหรือเปล่า คุณลองจับดูสิ”
ขณะที่เทวินทร์รีบร้อนมา เขายังรู้สึกสับสนอยู่ แต่เมื่อเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์ลง
“คุณปล่อยผมก่อน”
เขายกแขนขึ้นแต่ไม่กล้าวางลง ทำท่าเหมือนยอมจำนน เพราะเอวของเขาถูกลดากอดไว้แน่น ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
“ลดา ต่อไปอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ”
แม้ลดาจะยอมปล่อยเขาแล้ว แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังและเคร่งขรึมของเขา ก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
"คุณอย่าโกรธเลยนะ ฉันแค่คิดถึงคุณ วันนี้ไม่ไปได้ไหม ฉันทำซี่โครงหมูตุ๋นที่คุณชอบที่สุดไว้ด้วยนะ"
"วันนี้ผมติดธุระ เอาไว้วันหลังเถอะ"
พอเห็นเธอไม่เป็นอะไรมาก เทวินทร์ทำท่าจะไป เพราะเขายังห่วงอีกคนที่ไม่สบายอยู่ข้างล่าง
ลดาเห็นเขากำลังจะไป ก็รีบพูดขึ้นมา
"เทวินทร์ คุณอยู่กับฉันสักสองสามนาทีไม่ได้เหรอ? ฉันมีอะไรบางอย่างให้คุณดู"
ลดาไปที่ห้องทำงานแล้วหยิบผลงานที่เธอออกแบบมาเป็นเวลานานออกมาให้ดู
"เทวินทร์ คุณดูนี่สิ นี่คือแหวนคู่ที่ฉันออกแบบ มีความหมายถึงความซื่อสัตย์และคำมั่นสัญญา ใช้เป็นแหวนแต่งงานของเราดีไหม?"
เทวินทร์วันนี้หมดความอดทน อาจจะเป็นเพราะถูกธาราอาเจียนใส่ เขาตอบเธอแบบขอไปที "คุณตัดสินใจเองเถอะ เดี๋ยวผมจะให้ช่างทำให้"
ลดาดีใจอย่างมาก ในเมื่อเขาไม่ขัดข้องเกี่ยวกับแหวนแต่งงาน นั่นก็แปลว่าเขาอยากแต่งงานกับเธอ ความพยายามหลายปีของเธอกำลังจะสำเร็จแล้ว
ส่วนก้าวสุดท้ายที่เหลือ...…
เธอต้องพยายามมากขึ้นอีกหน่อยเพื่อเร่งให้มันเกิดขึ้นเร็วขึ้น
"เทวินทร์ คุณอยากลองกินซี่โครงหมูหน่อยไหม? ฉันตั้งใจทำให้คุณโดยเฉพาะ แล้วมันลวกมือฉันไปด้วย"
ลดาออดอ้อนพร้อมกับพาเทวินทร์ไปที่ห้องครัว ปากของเขาก็ถูกยัดซี่โครงหมูจนได้
เมื่อเขากลับมาที่รถธาราก็ได้กลิ่นเนื้อตุ๋นผสมกับกลิ่นน้ำหอมจากตัวเขา ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง
เทวินทร์สูดหายใจลึก มองเธอแวบหนึ่งแล้วพูดว่า
"ตอนฉันเดินมาตอนแรก เธอยังดูดีๆ อยู่เลย ทำไมพอฉันเข้ามา เธอถึงอาเจียนขึ้นมาอีก?"
ธารานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วหลุดขำออกมา
เกือบคิดว่าตัวเองหูฝาดไป
“คุณคิดว่าฉันแกล้งเหรอ? ฉันแกล้งทำเป็นป่วยเพื่อห้ามไม่ให้คุณไปหาคนรักเหรอ?”
คำพูดของเธอทำให้เทวินทร์โกรธ
“ระวังคำพูดของคุณหน่อย อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใครด้วย”
ธาราหัวเราะเบาๆ อย่างรู้สึกเจ็บใจ จากนั้นก็พิงไปที่หน้าต่างรถและไม่พูดอะไร
ตอนนี้เธอจะมีสิทธิ์อะไรไปเรียกลดาว่าเป็นคนรัก? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเขาเซ็นใบหย่ากันเลย แม้ว่าจะยังไม่ได้หย่า เธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรอยู่ดี
ท่าทางของเธอที่เหมือนลูกแกะน้อยดูอ่อนแอ ทำให้เทวินทร์เริ่มใจเย็นลง
เขาเหลือบมองไปที่ธารา ใบหน้าของเธอซีดขาว ก้มหน้าพิงหน้าต่าง ริมฝีปากที่เคยสดใสตอนนี้ไม่มีสีเลย บนคอรอยนิ้วจางๆยังเห็นได้จากตอนที่เขาบีบเธอตอนขึ้นรถ
ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอดูอ่อนแอและถูกกดขี่ง่าย
“มานี่สิ!”
เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ธารามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“คุณไม่สบายอยู่เหรอ? ยังอยากจะพิงอยู่ไหม?”
ธาราหันหน้าหนีด้วยท่าทางดื้อดึง แต่สุดท้ายก็ถูกเขาดึงตัวมานั่งบนตักอีกครั้ง และเธอได้เห็นรอยลิปสติกจาง ๆ บนหน้าอกเสื้อของเขา น้ำตาเธอก็เริ่มไหลออกมา
เธอทำผิดอะไร ถึงต้องมาทนดูเขาอวดแฟนต่อหน้าแบบนี้?
เมื่อเทวินทร์รู้สึกถึงความเปียกบนเสื้อของตัวเอง รถก็ได้จอดในลานบ้านของตระกูลแล้ว เขาอุ้มเธอขึ้นอย่างง่ายดาย และก้มลงมองเสื้อที่เปียกไปด้วยน้ำตาของเธอ และรู้สึกสงสัยขึ้นมา
หลังลงจากรถแล้ว เทวินทร์ก็เดินช้าลงเล็กน้อย ธารารีบวิ่งตามและเกาะแขนของเขาเข้าบ้าน นี่เป็นกิจวัตรประจำของพวกเขา ทั้งคู่แสดงจนชำนาญ
ห้องนั่งเล่นที่สูงกว่าสิบเมตรตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ ท่านเจ้าสั่วทรงศักดิ์นับถือศาสนาพุทธและไหว้พระเป็นประจำ เมื่อเดินเข้ามา กลิ่นธูปหอมจาง ๆ ของไม้จันทน์ช่วยให้กระเพาะของธารารู้สึกดีขึ้น
พ่อบ้านสมชาย ตะโกนเรียกเข้าไปในบ้าน “ท่านเจ้าสั่ว คุณชายและคุณผู้หญิงกลับมาแล้วครับ!”
จากนั้นเขาก็หันมายิ้มกับธารา“คุณผู้หญิง ถ้าช้ากว่านี้กุ้งอาจจะไม่เหลือแล้วนะ คุณหนูเทรินทร์เอาแต่พูดถึงกุ้งทั้งบ่าย แต่ท่านเจ้าสั่วไม่ให้กิน รอคุณกลับมานี่แหละครับ”
เทวินทร์ยิ้มอ่อนๆแล้วพูดว่า “กระเพาะเล็ก ๆ ของเธอ แค่กุ้งสิบตัวก็อิ่มทั้งวันแล้ว”
ท่านเจ้าสั่วทรงศักดิ์ออกมาจากห้องหนังสือ อารมณ์ดีมาก ชายชราที่เกือบแปดสิบปี แต่ดูแลตัวเองดีจนยังดูแข็งแรง มีคนเชื่อว่าเขาอายุแค่เจ็ดสิบปี
“คุยอะไรกันอยู่ สนุกกันเชียว?ธารา มานี่สิ!”
ธารายิ้มหวาน เรียกชายชราด้วยเสียงอ่อนหวาน "คุณปู่" และเดินไปยืนข้างเขาอย่างเชื่อฟัง