เวลาประมาณสี่ทุ่ม
รถฉุกเฉินจากโรงพยาบาลเอมเมอร์ราจ โรงพยาบาลเอกชนที่ทันสมัยที่สุดของประเทศ เข้ามาจอดรอเพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ไอยดายังสวมชุดนักศึกษายืนรอดูแม่กำลังจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลประจำตระกูลกิตติรัตนสุวรรณ หลายความรู้สึกผสมปนเปอยู่ในห้วงความรู้สึกของเธอ
นายแพทย์เธียรไทย ยืนอยู่ข้างร่างแม่เธอในห้องไอซียู เขาเขียนชาร์ทยื่นให้พยาบาลด้วยท่าทางสุขุม หน้าหล่อคม ผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนพวกดาราเกาหลีขวัญใจวัยรุ่น แววตามุ่งมั่นมีสมาธิภายใต้ชุดกาวน์สีขาวดุจมีวงแหวนแห่งความดีอยู่บนหัวคุณหมอ ภาพเขาทำงานง่วนงุ่นกำลังตรวจรักษาอาการแม่ของเธอด้วยความตั้งใจ ภาพนั้นทำให้ไอยดารู้สึกซาบซึ้ง
แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ในห้องทำงาน ปากร้อนชื้นฉ่ำพาลิ้นสากรุกรานโพรงปากเธอ สัมผัสเคล้นคลึงแข็งกร้าวเต็มไปด้วยแรงปรารถนาเมื่อมือใหญ่นวดเฟ้นบนหน้าอกอวบอิ่ม เสียงแหบพร่าเจือความกระเส่าลามก กล่าวด้วยเสียงกระด้าง
“ไม่จับแหกขากระแทกในห้องทำงานก็บุญแล้ว”
เธอนึกถึงท่วงท่าเขากระดกวิสกี้เข้าปาก ทุกสัมผัสลูบไล้เรือนกาย รุกล้ำรังแกกลางกลีบชุ่มฉ่ำ มือนั้นทั้งร้ายกาจและช่ำชอง
ภาพลามกที่หมอเธียรฝากไว้ในรอยจำกลับผุดขึ้นในห้วงความนึกคิด
คุณหมอหันมามองหน้าเด็กสาวที่เอาแต่ก้มหน้าใบหน้าร้อนผ่าวแดงก่ำ เธอมองรองเท้าผ้าใบสีขาวมอมแมมของตัวเอง
"เป็นอะไรสไมล์" เขาเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเธอ ระหว่างรอบุรุษพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถ
"ปละ เปล่าค่ะ"
"คิดถึงผมอยู่รึเปล่า"
"ไม่ใช่นะคะ..คือว่า..." เสียงหวานแผ่วเบาเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก สมองไม่สั่งการเมื่อถูกหมอหนุ่มจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ
"เรากำลังจะพาแม่คุณไปรักษาที่โรงพยาบาลเอมเมอร์ราจ ไม่ต้องห่วง"
"ขอบคุณค่ะ"
"ตามผมมาที่รถ เราจะขับรถตามไป"
หมอเธียรเดินนำไปที่รถยุโรปหรูราคาหลายล้านบาท เขาถอดชุดกาวน์โยนไปที่เบาะหลัง ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงสามเม็ด เธอเปิดประตูเข้ามานั่งคู่คนขับ รู้สึกถึงความอึดอัดเมื่อต้องอยู่สองต่อสองในที่แคบ
"ผมตั้งใจรักษาแม่คุณ ส่งตัวไปรักษาอย่างเร็วที่สุด จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอ"
"รางวัลอะไรคะ" ไอยดาหันหน้ามามองหมอเธียร เธอหันซ้ายหันขวา ที่จอดรถด้านในสุดของโรงพยาบาลตอนดึกขนาดนี้ทั้งมืดทั้งเงียบ
เขาไม่ตอบ โน้มกายเข้าใกล้ จับท้ายทอยคนตัวเล็กไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ปากสีระเรื่อบดจูบไปบนกลีบปากเธอ สอดลิ้นเข้ารัดลิ้นเรียวเกี่ยวกระหวัดดูดดึง กลิ่นวิสกี้จางๆ ที่เขาดื่มไปตั้งแต่ตอนเย็นผสมกับกลิ่นน้ำหอมของเธียรไทยผสานลมหายใจร้อนผ่าว
มือทั้งสองข้างขืนยันไว้บนหน้าอกเขา มือเล็กนุ่มนิ่มสัมผัสแผงอกแกร่งแน่นใต้สาบเสื้อที่ปลดกระดุมลงหลายเม็ด ใจเธอเต้นเร็วแทบทะลุออกมาข้างนอก
"อื๊ออออ" เสียงเด็กสาวในชุดนิสิตครางในลำคอ
"อื้มมมม" หมอเธียรครางเช่นกัน แสดงความพึงพอใจกับจูบหวามไหวเมื่อเธอตอบสนองด้วยการสอดลิ้นเล็กเข้ารัดลิ้นเขา
เธียรไทยถอนปากออก ไล้นิ้วหัวแม่มือไปบนกลีบปากล่างของเธอเช็ดคราบน้ำลาย เขายิ้ม สบตาไอยดาอยู่ครู่หนึ่ง เธอใจเต้นยิ่งกว่าเดิมเมื่อมองตาคุณหมอเกินสามสิบวินาที
'ผู้ชายคนนี้เสน่ห์เหลือร้ายจริง ๆ '
เธอบีบมือเข้าหากัน มองคุณหมอมาดผู้ดีแต่การกระทำและทุกคำพูดเหมือนซาตานในคราบนักบุญ เธอเริ่มหวาดหวั่นถึงเหตุการณ์บนเตียงที่กำลังจะเกิดขึ้น
เธียรไทยสตาร์ทเครื่องยนต์ถอยรถออกจากที่จอดรถของโรงพยาบาล ไอยดาพยายามมองไปทางอื่น ไม่กล้ามองสบตากับหมอเธียรโดยตรง เขามองใบหน้าด้านข้างของเธอเป็นระยะ กลิ่นกายสาวหอมกรุ่นยังติดปลายจมูกเขาบาง ๆ ความนุ่มหยุ่นของโนมเนื้อที่ได้สัมผัสเมื่อยามเย็นใต้ชุดนักศึกษาช่างเร้าอารมณ์เหลือเกิน
เด็กสาวที่ดูเหมือนไม่น่าสนใจ แต่เมื่อใกล้ชิดเพียงได้จูบเธอเท่านั้น ทำให้เธียรไทยแทบรอถึงตอนได้ชิมเธอบนเตียงไม่ไหวแล้ว
รถเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลเอมเมอร์ราจ รถฉุกเฉินโรงพยาบาลรัฐกำลังนำผู้ป่วยเข้าไปข้างใน
เธอเปิดประตูออกจากรถ กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามบุรุษพยาบาลเข็นเตียงคนไข้ไปในห้องไอซียูซึ่งมีศัลแพทย์ระบบประสาทมือหนึ่งของประเทศสองคนยืนอยู่หน้าแผนกศัลยแพทย์ด้านระบบประสาทและไขสันหลัง คุณหมอวัยกลางคนทั้งสองยืนรอรับคนไข้พิเศษของคุณเธียรไทย พวกเขายืนรออยู่หน้าประตู
"สวัสดีครับอาจารย์หมอธีรทัศน์กับอาจารย์หมอเนศินทร์ ผมฝากคนไข้ด้วยนะครับ ขอโทษที่ต้องเรียกมากลางดึกสำหรับเคสฉุกเฉิน"
"ด้วยความยินดีครับ ผมจะช่วยสุดความสามารถ" ทั้งสองตอบ
อาจารย์หมอทั้งสองทำงานในโรงพยาบาลแห่งนี้ อยู่ใต้สัญญาการจ้างงานของโรงพยาบาลเอมเมอร์ราจ เมื่อถูกลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเรียกตัวมากลางดึก พร้อมยื่นเสนอค่าหัตการตอบแทนค่าผ่าตัดสองเท่า ถึงไม่อยากมาก็ต้องมา ทั้งจรรยาบรรณทางวิชาชีพค้ำคอ แถมข้อเสนอค่าผ่าตัดเพิ่มเป็นสองเท่าก็ล่อใจเป็นอย่างมาก
ไอยดายืนชะเง้อดูแม่ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด เธอเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้อง ท่าทางกระวนกระวาย
"ไม่ต้องห่วง อาจารย์หมอทั้งสองคนเก่งมาก เรียกได้ว่าเป็นศัลแพทย์ระบบประสาทมือหนึ่งของประเทศ"
"สไมล์เป็นห่วงแม่ค่ะ"
"ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องทำหน้าที่ของตัวเอง"
"หน้าที่อะไรคะ"
ร่างสูงของหมอเธียรไทยก้มกระซิบข้างหูไอยดา
"ขึ้นเตียง"
อีกครั้งที่ไอยดาใจเต้นแรง เขาดึงข้อมือเธอไปยังรถที่จอดอยู่ด้านนอก
รถสีดำเคลือบแก้วเงาวาววับแล่นออกจากโรงพยาบาลไปที่คอนโดของเธียรไทย เป็นครั้งแรกที่หมอหนุ่มรู้สึกประหม่า เขากำพวงมาลัยรถแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว