งานเลี้ยงที่ใหญ่โตถูกจัดขึ้นบนชั้นเก้าของตึกคิงส์ โดยผู้มาร่วมงานนั้นมีเฉพาะผู้เกี่ยวข้องกับการรวมอำนาจ เดิมทีไม่ได้มีเยอะมาก แต่พออาณาจักรเริ่มขยาย ก็เริ่มมีนักลงทุนเข้ามาร่วมจนกลายเป็นที่นิยมทั่วประเทศและต่างประเทศ
บางคนอยากมางานแทบตายแต่ไม่มีสิทธิ์ได้มา เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือไม่ก็มีสิทธิ์ไม่มากพอ แต่กับบางคนหน้างอที่จะเข้างาน แต่ก็ถูกลากเข้ามาร่วมวงอย่างเสียไม่ได้
“ใกล้แล้วค่ะพี่ฟีนิกซ์ อีกไม่ถึงสิบนาทีค่ะ ไว้เจอกันนะ”
เสียงราบเรียบกรอกลงบนมือถือ เจ้าของชุดราตรีสีแดงประดับสร้อยเพชรระยิบระยับนั่งไขว่ห้างกดวางสายจากพี่ชาย โดยข้างกันมีไทเกอร์ในชุดสูทสีดำสนิทกำลังนั่งหน้าตึงเครียด และเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เธอกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว
“วันนี้แคลกลับไวนะคะ ต้องเตรียมงานส่งอาจารย์พรุ่งนี้”
เธออึดอัดเล็กน้อยที่ต้องเงยหน้าขึ้นพูดกับสามี เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีเรื่องเครียดและอึดอัดใจอยู่ก่อนหน้าแล้ว
“ไวสุดเที่ยงคืน กลับพร้อมกัน”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ คนอื่นก็มีงานกันทั้งนั้น ยังกลับหลังเที่ยงคืนกันได้”
ไทเกอร์ปรายตามองสาวร่างบางที่นั่งอยู่ข้างตัว ก่อนจะหันไปมองหน้าตรงเช่นเดิม
“แต่คนอื่นทำงานกันหมดแล้ว แคลยังเรียนอยู่”
“ก็ลาออกซะสิ แล้วมาทำงานด้วยกัน”
อีกฝ่ายตอบกลับหน้าตาย ราวกับจงใจหาเรื่องกัน
“นี่พี่กำลังพาลนะคะ โมโหอะไรก็อย่าเอามาลงใส่แคล แคลไม่ใช่สนามอารมณ์”
คราวนี้แคลเริ่มหันหน้ามามองอย่างจริงจัง พร้อมปะทะอารมณ์กับไทเกอร์ขั้นสุด
“ฉันพูดจริง ถ้าไม่อยากเรียนก็ลาออก ฉันสามารถอนุมัติให้เธอจบได้โดยไม่ต้องเข้าเรียนด้วยซ้ำ เธอก็รู้ เว้นเสียแต่...”
ไทเกอร์มองมาที่แคลด้วยสายตาจริงจังยิ่งขึ้น ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ทำให้อึดอัดใจมาทั้งวัน
“เธออยากไปเรียน เพื่อจะได้เห็นหน้าไอ้หมอนั่นทุกวัน”
“หมอนั่น? หมอนั่นไหน”
แคลแสดงสีหน้างุนงงขึ้นมาทันที เมื่อจู่ ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยใส่ร้ายและหาเรื่องเธออย่างไม่มีมูล
“ก็ไอ้ที่เธอจูงมือมันขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตาผัวตัวเองยังไงล่ะ”
“ฮะ”
คราวนี้ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ จนแคลต้องใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเสียงดัง
“เต็งหนึ่งน่ะเหรอ พี่ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่ขับรถเร็วปานจรวด จนพาฉันเข้าห้องสอบเก็บคะแนนได้ทัน เพราะถ้ามัวนั่งรถช้า ๆ อืด ๆ ของพี่ ป่านนี้คงโดนเช็กว่าขาดสอบไปแล้ว”
“แคล!”
คนเจ้าอารมณ์ขึ้นเสียงทันที ก่อนที่จะยอมสงบเพราะนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันลำพัง ยังมีไททัน ลูกน้องคนสนิทที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถให้อยู่
“ทำไมคะ พูดความจริงแล้วรับไม่ได้หรือไง พี่รู้ไหมว่าพี่ทำตัวแก่กว่าพ่อแคลอีก”
“ถ้าเธอยังไม่หยุดพูด ฉันจะปิดปากเธอเดี๋ยวนี้ ต้องให้ฉันบอกไหมว่าด้วยวิธีการไหน”
คนตัวเล็กที่กำลังเดือดได้ระดับยอมระงับอารมณ์ลงอย่างเชื่องช้า ก่อนจะหันไปมองที่นอกหน้าต่างให้สถานการณ์ค่อย ๆ สงบลง
ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันต่อจากนี้ ประจวบเหมาะกับที่รถแล่นมาจอดเทียบตึกแล้ว เลยต้องแสร้งทำเป็นยิ้มแย้ม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น
“สวัสดีค่ะท่านพญา สบายดีนะคะ”
แคลรู้หน้าที่ดี รีบยกมือขึ้นไหว้แขกคนสำคัญ อีกฝ่ายก็รีบยกมือขึ้นรับ ก่อนจะทักทายกลับไปตามมารยาท พูดคุยกันได้เพียงครู่เดียว ไหล่บาง ๆ ของแคลก็ถูกโอบไว้ด้วยมือของใครบางคน ทำเอาเธอสะดุ้งรีบหันขวับไปจ้องหน้า แต่พอเห็นว่าเป็นฟีนิกซ์ก็รีบโผเข้ากอดทันที
“อะไรฮะ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันทำเหมือนไม่เจอกันมาเป็นปี”
เจ้าของร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีแดงเลือดหมูทับด้านนอกโยกหัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู
“ไม่กี่วัน แต่เหมือนตกนรกมาแล้วชาติหนึ่งน่ะค่ะ”
แคลเอ่ยเหน็บแนม เพราะกำลังถูกจ้องมองด้วยสายตาราบเรียบของผู้เป็นสามี ฟีนิกซ์ได้ยินแบบนี้ก็หลุดขำออกมาเล็กน้อย
“ไงวะไอ้ไททัน สถานการณ์ที่บ้านปกติสุขดีไหม?”
ฟีนิกซ์ไม่หันไปถามเพื่อนหรือน้องสาว แต่เลือกที่จะหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของไทเกอร์แทน
“เอ่อ... ครับ”
ไททันตอบรับเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนจะผงกหัวให้เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พร้อมจะโกหกตอนนี้
“ก็คิดไว้แล้วว่าต้องปกติ กูถึงมั่นใจฝากน้องไว้กับมึงไง เพื่อน”
ฟีนิกซ์ว่ายิ้ม ๆ ทว่าสายตากลับจริงจังจนแยกอารมณ์ไม่ออก ก่อนที่เขาจะคล้องคอไทเกอร์เดินกลับเข้าโต๊ะ ปล่อยให้แคลเดินต้อย ๆ ตามมา
“กาสิโนฝั่งมึงเป็นยังไงบ้างวะ”
“มีปัญหานิดหน่อย แต่กูใช้เงินแก้ปัญหาได้แล้ว”
ฟีนิกซ์ไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนทั้งคู่จะชวนกันคุยเรื่องธุรกิจ โดยมีแคลที่นั่งทำหน้าเซ็งร่วมวงด้วย
เพราะเธอรู้ดีว่าถ้ามีงานเลี้ยงที่ตึกคิงส์ ก็มักจะคุยกันแค่เรื่องงานจนทำให้บรรยากาศน่าเบื่อ ดีหน่อยที่อาหารและเครื่องดื่มคัดสรรมาอย่างคุณภาพ
“หืมม อันนี้อะไรเหรอพี่ไททัน อร่อยยกนิ้วให้เลย”
หลังจากชิมไวน์เข้าไป แคลก็ถึงกับตาโต รีบยกแก้วขึ้นจ่อจมูกพลางดมกลิ่นอย่างหลงใหล เพราะถูกพ่อสอนให้ชื่นชอบในกลิ่นไวน์ตั้งแต่เริ่มหัดดื่มแอลกอฮอล์
“ไวน์มาใหม่ครับคุณหนู คุณมังกรเพิ่งดีลกับฝั่งจีนได้ เลยเอาสินค้าใหม่มาให้ทดลอง”
เขากำลังหมายถึงผู้มีอิทธิพลฝั่งภาคเหนือ ที่มีเชื้อสายจีน และยังเป็นญาติกับฝั่งของแคลอีกด้วย เพียงแค่ช่วงหนึ่งเคยแตกหักเพราะแย่งชิงอำนาจ เลยห่างหายออกไปจากกัน จนกระทั่งได้กลับมารวมอำนาจอีกครั้ง ถึงได้เริ่มสนิทกันอีกรอบ
“ขอแบบนี้เพิ่มอีกห้าแก้ว”
“รสชาติดี และแรงใช้ได้เลยนะครับคุณแคล”
“จัดมาเถอะน่า แอลกอฮอล์แค่นี้ล้มฉันไม่ได้หรอก”
พูดพร้อมกับยกนิ้วขึ้นดีดที่ลำคอ เพื่อบ่งบอกว่าตนนั้นคอแข็งเอาเรื่อง โดยหารู้ไม่ว่านี่คือสิ่งที่ผิดมหันต์ เพราะไวน์ชนิดนี้มันแรงชนิดล้มควายอย่างที่ไททันเตือนมาจริง ๆ