ปริ๊น! ปริ๊น!
เสียงแตรรถทำให้คนที่กำลังอุ้มกัญญ์วราอยู่ตกใจและไม่ทันระวังหญิงสาวจึงดิ้นจนตัวเองหลุดออกมาได้ เธอรีบวิ่งไปขวางรถคันนั้นพร้อมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ พวกนั้นกำลังจะจับฉัน” เธอวิ่งมาเคาะกระจกฝั่งคนขับรัวๆ
คนที่นั่งอยู่ด้านในที่เห็นว่าเมื่อครู่หญิงสาวกำลังจะถูกอุ้มขึ้นรถก็รีบเปิดประตูลงมาเพราะถ้าปล่อยให้เธอถูกจับไปเขาก็คงรู้สึกผิดมาก
“อ้าว เธอนั้นเอง” ภูเมฆาตกใจไม่น้อยที่เปิดประตูรถออกมาแล้วเห็นว่าผู้หญิงที่กำลังจะถูกจับไปนั้นคือกัญญ์วรา
“คุณภู คุณภูช่วยใบตองด้วยพวกนั้นจะจับใบตองใบ”
“ผมว่าคุณอย่ายุ่งเลย ปล่อยเธอมาดีกว่า” ชายร่างกำยำเดินตรงเข้ามาขณะที่กัญญ์วรานั้นไปหลบอยู่หลังภูเมฆาอย่างต้องการที่พึ่ง"
“ไม่นะคุณภู” หญิงสาวเกาะแขนเขาแน่น
“ในเมื่อเธอไม่เต็มใจไปด้วยฉันว่าพวกนายปล่อยเธอไปดีกว่านะ”
“ไม่จำเป็นหรอกว่าจะเต็มใจไหม ในเมื่อน้าเธอรับเงินไปแล้ว ยังไงวันนี้ใบตองก็ต้องไปกับฉัน”
“ก็บอกแล้วไงว่าใครรับเงินก็เอาคนนั้นไปสิ เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” กัญญ์วราเถียง
“เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ใบตอง เธอรับเงินเขามาหรือเปล่า” ภูเมฆาถามเพราะถ้าเป็นแบบนั้นเก็บช่วยอะไรเธอไม่ได้วันนี้ชายหนุ่มตั้งใจจะมาขอบคุณเธอตามที่ซินแสแนะนำแต่ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบ
“แม่เลี้ยงของใบตองติดหนี้พวกมันก็อยู่”
“มันใช่แต่ติดหนี้นะใบตอง แม่เลี้ยงเธอขายเธอให้กับฉันแล้ว”
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่สิ่งของจะมาขายได้ยังไง แบบนี้มันเข้าข่ายค้ามนุษย์ชัดๆ”
“อย่าเอากฎหมายมาอ้างหน่อยเลย วันนี้เธอต้องไปกับฉัน”
“เท่าไหร่” ภูเมฆาถามออกไป
“ที่ถามนี่อยากจะจ่ายหนี้ให้เหรอ” เสี่ยสมานมองชายหนุ่มด้วยสายตาเหยียดๆ
“ผมถามว่าเท่าไหร่”
“สองแสน”
“ใบตองเปิดลิ้นชักหน้ารถเอาสมุดเช็คออกมาให้หน่อย”
“ไม่นะคะคุณภู อย่าจ่ายนะ”
“ถ้าไม่จ่ายเรื่องมันจะจบไหม”
“แต่ใบตองไม่ได้เอาเงินเขามานี่ เราแจ้งตำรวจก็ได้”
“ก็แจ้งสิ ถ้าฉันไม่ใหญ่พอเธอคิดว่าฉันจะเปิดบ่อนได้เหรอใบตอง” เสี่ยสมานท้า
“ทำตามที่ผมบอก”
“แต่ใบตองไม่มีเงินมาคืนคุณหรอกนะ”
“บอกให้หยิบก็หยิบมาก่อนสิใบตอง”
กัญญ์วราเดินอ้อมไปหยิบสมุดเช็คมาส่งให้กับภูเมฆาจากนั้นเขาก็เซ็นเช็คแล้วยืนให้เสี่ยสมาน
“ไม่เด้งแน่นะ”
“ถ้ากลัวขนาดนั้นก็ลองเอาไปเข้าธนาคารสิ จะได้รู้ว่าเด้งไหม”
“เฮ้ย พวกแกเฝ้ามันไว้นะ ฉันจะไปธนาคาร” เสี่ยสมานพูดจบก็รีบขึ้นรถออกไป
“คุณภูไม่น่าต้องเสียเงินเยอะขนาดนั้นเลย แล้วใบตองจะเอาปัญญาที่ไหนมาใช้คืนล่ะ”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ใบตองควรย้ายออกจากที่นี่ก่อน”
“ก็คุณภูให้เงินมันไปแล้วมันคงไม่ทำอะไรแล้วมั้งคะ” กัญญ์วราไม่รู้จะย้ายออกไปอยู่ที่ไหน
“แล้วถ้าแม่เลี้ยงของใบตองเอาไปขายให้คนอีกล่ะ”
“แต่ถ้าย้ายออก ใบตองก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน” เธอบอกเขาไปตามตรง
“ไม่มีญาติคนอื่นเหรอ”
“ไม่มีเลย แต่ใบตองไปขออยู่ที่บ้านเพื่อนก่อนก็ได้ค่ะ”
“งั้นก็ไปเก็บของ เอาที่จำเป็นก่อนนะเดี๋ยวผมไปส่ง”
ภูเมฆาเดินตามเข้ามาในบ้านซึ่งตอนนี้นภาวรรณแม่เลี้ยงของกัญญ์วราไม่อยู่ที่นี่แล้วเธอเผ่นแนบไปตั้งแต่ได้เงินจากเสี่ยสมาน
“อยู่กันสองเหรอ”
“ค่ะ”
ชายหนุ่มเดินสำรวจไปทั่วระหว่างที่กัญญ์วราเก็บของอยู่ในห้องนอน เขาค่อนข้างพอใจกับความสะอาดและความเป็นระเบียบมาก
“ใบตองคิดจะอยู่กับเพื่อนนานไหม” ภูเมฆายืนพิงขอบประตูห้องนอนแล้วสายตาก็สำรวจไปให้ห้องนอนที่ดูสะอาดและเรียบร้อยไม่ต่างจากห้องรับแขก
“ก็จนกว่าจะหาห้องพักได้ล่ะค่ะ” เธอตอบเขาทั้งที่ตนเองก็ยังไม่รู่ว่ามันจะนานแค่ไหนเพราะการหาห้องพักที่ถูกใจ ถูกเงินและอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วตอนนี้ก็เพิ่งจะเปิดเทอมไม่นานหอพักก็คงจะเต็มหมดแล้ว
ภูเมฆากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ถ้าเขาแบ่งกำไรที่จะได้จากการทำงานให้เจ้าสัวเรวัฒน์สักนิดกัญญ์วราอาจจะไม่ต้องลำบาก แต่ถ้าทำแบบนั้นแล้วแม่เลี้ยงของเธอรู้ก็คงตามไปขอเงินอีกแน่ๆ
“ไปอยู่ด้วยกันไหม” ภูเมฆาตัดสินใจพูดออกไปเพราะนึกถึงคำของซินแสที่บอกว่าอย่าทิ้งให้เธอลำบาก แม้จะไม่เชื่อเรื่องดวงหรือโชคลางเท่าไหร่แต่เมื่อเหรียญนำโชคของเธอทำให้เขาได้งานก็เลยอยากจะตอบแทนเธอ
“อยู่กับคุณเหรอคะ”
“ใช่สิ”
“ไม่ล่ะค่ะ ใบตองเกรงใจ”
“ใบตอง ที่ผมมาวันนี้ก็อยากจะมาขอบคุณใบตองเพราะเหรียญของเธอทำให้ฉันได้งาน”
“ถ้าอย่างนั้นก็หายก็แล้วที่คุณจ่ายหนี้ให้”
“แต่มันยังน้อยไปนะ”
“แค่นี้มันก็มากมายแล้วล่ะค่ะ ใบตองไม่อยากรบกวนคุณภูหรอก”
“แต่เธอกำลังจะไปรบกวนคนอื่นนะ”
“แต่เขาเป็นเพื่อนใบตอง”
“ผมจะไม่เอาเปรียบเธอหรอกนะ ผมจะให้เงินเธอสักก้อน แล้วไปหาที่อยู่ใหม่ดีไหมล่ะ”
“ใบตองบอกแล้วว่าไม่เอาเงิน”
“ทำไม่ดื้อย่างนี้นะใบตอง”
“ใบตองไม่เคยดื้อ”
“ก็นี่ไงเธอกำลังดื้อ”
“ถ้าคุณภูอยากช่วยจริงๆ ก็ช่วยใบตองหางานพิเศษแล้วกันค่ะ เพราะใบตองคงไปทำงานที่ตลาดกับที่ร้านเหล้าไม่ได้แล้วเพราะมันเป็นของเสี่ยสมาน
“เธอทำความสะอาดบ้านนี้เองใช่ไหม” จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องทำเอากัญญ์วราตามไม่ทัน
“ค่ะ”
“แล้วทำอาหารเป็นไหม”
“พอได้บ้างเมนูง่ายๆ แค่พอกินได้นะคะ”
“งั้นไปทำงานกับฉันไหมล่ะ ทำความสะอาดบ้านกับทำอาหารเป็นบางมื้อ”
“คุณภูจะจ้างใบตองเหรอคะ”
“ใช้สิ ปกติเธอได้เงินจากทำงานเท่าไหร่”
“ที่ตลาดวันละสองร้อย ร้านเหล้าอีกสองร้อยไม่รวมทิป รวมๆ แล้วเดือนหนึ่งไม่เกินหมื่นสองหรอกค่ะ” หญิงสาวบอกรายได้ของตนไปตามตรง
“ถ้างั้นฉันให้เธอสองหมื่น”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ ที่พักฟรี กินอยู่ฟรี แค่ทำความสะอาดกับทำกับข้าว ไม่ต้องซักผ้าเพราะฉันจ้างซักรายเดือนแล้ว”
“ถ้าคุณภูให้กินฟรีอยู่ฟรีด้วย ใบตองเอาค่าจ้างแค่หมื่นเดียวก็ได้ค่ะ งานไม่ได้เยอะอะไรเลย”
“สองหมื่นห้ามต่อรองไปเก็บของได้แล้ว เอาที่จำเป็นก็พอ”
“แต่มันเยอะเกินไปนะคะ”
“ถ้าไม่รับฉันก็จะไปจ้างคนอื่น”
“รับก็ได้ค่ะ” แม้จะเกรงใจที่เขาให้เงินเดือนมากกว่าที่เธอเคยได้อีกทั้งยังให้อยู่ฟรีกินฟรีแต่ถ้าไม่รับงานนี้ก็ไม่รู้จะไปทำงานที่ไหน
“ว่าง่ายๆ แบบนี้ค่อยดีหน่อย ฉันรอข้างนอกนะเก็บของต่อเถอะ”
“ค่ะคุณภู”