“พี่ภูชอบกินพิซซ่าเหรอคะ” กัญญ์วราถามชายหนุ่มขณะที่รอให้พนักงานนำพิซซ่ามาเสิร์ฟ
“กินแล้วมันทำให้พี่คิดถึงวัยเด็ก”
“มีคนบอกว่าคนที่ชอบพูดถึงเรื่องอดีตจะเป็นคนแก่ แต่พี่ภูยังไม่แก่เลยนะคะ”
“พี่อายุ 35 แล้วนะใบตอง”
“35 แล้วไงอาจารย์ของใบตอง 40 กว่ายังบอกว่าตัวเองวัยรุ่นอยู่เลย ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจค่ะ ถ้าใจเราไม่แก่เราก็จะไม่แก่”
“เข้าใจพูดนะ” ภูเมฆายิ้มอย่างผ่อนคลาย
เมื่อพนักงานนำพิซซ่ามาเสิร์ฟภูเมฆาก็ได้แต่นั่งจ้องจนกัญญ์วราไม่กล้าหยิบขึ้นมาทานเพราะเห็นเขาจ้องเหมือนกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
“พี่ภูเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่าๆ” เขารีบปฏิเสธก่อนแล้วหยิบพิซซ่าขึ้นมาทานไปสองชิ้นก็รู้สึกอิ่มขณะที่กัญญ์วรายังคงนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ใบตองรู้ไหม ตอนเด็กๆ กว่าพี่จะได้กินพิซซ่าต้องรอแล้วรออีก” ภูเมฆาพูดเรื่องในอดีตขึ้นทั้งที่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อน อาจเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมานั่งทานพิซซ่าในร้านกับเขาเนื่องจากที่ผ่านมาเขามักจะสั่งไปทานที่ห้องคนเดียว
“ใบตองก็เหมือนกันค่ะ พ่อบอกว่ามันแพงถ้าเราเอาเงินค่าพิซซ่าไปซื้อกับข้าวก็จะได้หลายมื้อ ที่บ้านพี่ภูก็เป็นเหมือนกันเหรอคะ”
“พี่ไม่มีบ้านหรอก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่คนฟังกลับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด
“ใบตองขอโทษ”
“ไม่เป็นไร นั่นมันผ่านมานานแล้ว”
“อยากเล่าไหมคะ”
ภูเมฆาลังเลว่าจะเล่าเรื่องในอดีตให้กับคนพี่เพิ่งเจอกันเพียงสองครั้งฟังดีไหม เขามองหน้ากัญญ์วราเมื่อเห็นแววตาที่สดใสกับรอยยิ้มที่จริงใจก็เริ่มคิดหนัก
“ใบตองไม่เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังหรอกค่ะ แต่ถ้าพี่ภูไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่านะคะ เก็บไว้คนเดียวอกแตกตายอย่าหาว่าใบตองไม่เตือนนะ”
แล้วภูเมฆาก็ใจอ่อนยอมเล่าเรื่องราวในอดีตของตนให้กับกัญญ์วราฟังเริ่มตั้งแต่สมัยที่เขายังเด็กจนกระทั่งเรียนจบและกลับมาเปิดบริษัท
“สุดยอดเลยค่ะพี่ภู พี่เก่งมากๆ ถ้าเป็นคนอื่นอาจท้อไปแล้วนะคะ”
“พี่ก็เคยท้อมากเหมือนกัน กว่าจะผ่านมาได้ก็เกือบแย่เหมือนกันนะใบตอง” มีหลายครั้งที่ภูเมฆาท้อจนร้องไห้ ร้องเองแล้วก็หยุดเองเพราะมีใครคอยปลอบ ตอนเรียนปีอยู่ปี 1 เขายังมีหลวงตาเป็นที่พึ่ง แต่พอขึ้นปีสองหลวงตาก็จากเขาไป จากนั้นภูเมฆาก็ดิ้นรนคนเดียวมาตลอด
แต่มันก็ไม่แย่เท่าไหร่เพราะผลการเรียนที่ดีของเขาทำให้เขาได้ทุกเรียนดีจากทางมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ทำงานพิเศษเพราะยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งค่ากินค่าหอ ตอนนั้นเขาทำงานทุกอย่างที่ได้เงิน
“เพราะแบบนี้พี่ถึงช่วยใบตองใช่ไหม”
“อือ พี่รู้ว่าความลำบากเป็นยังไง”
“ขอบคุณนะคะพี่ภู”
“พี่ไม่มีครอบครัวที่ไหน พอเห็นใบตองก็เลยนึกถึงตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าพี่จะซื้ออะไรให้หรือให้เงินใบตองก็รับๆ ไปเถอะ ถือว่าช่วยพี่แก้ปมในใจก็ได้นะ”
“อ๋อ ใบตองเข้าใจแล้ว ต่อไปถ้าพี่ให้อะไรใบตองก็จะรับไว้ก็แล้วกันค่ะ”
“เข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้ก็ดี”
“งั้นกินต่อนะ เหลืออีกตั้งเยอะเสียดายค่ะ”
เมื่อได้พูดออกมาแล้วภูเมฆาก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เขานั่งทานต่อจนอิ่มจากนั้นก็ตรงกับคอนโดเพราะใบตองต้องรีบเอาผ้าปูที่นอนไปซัก ทั้งที่เขาบอกว่าให้แม่บ้านของคอนโดทำก็ได้แต่หญิงสาวก็ยืนยันจะทำเอง
“พี่ภู พรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไร” กัญญ์วราถามเขาหลังจากเอาผ้าปูที่นอนเข้าเครื่องแล้ว
“ใบตองทำอะไรได้บ้างล่ะ”
“ก็หลายอย่างพี่ภูบอกมาสิว่าจะกินอะไร”
“พรุ่งนี้เอาง่ายๆ ก่อนก็ได้ ในตู้มีไส้กรอก ไข่ แล้วก็แฮม”
“ได้ค่ะ สบายมากแล้วพี่ภูเอาไข่กี่ฟองสุกไหม”
“2 ฟองสุกปานกลาง”
“ต้องชงกาแฟด้วยไหม ใบตองใช้เครื่องไม่เป็น”
“ใช้ไม่ยากเลยแค่เอาแคปซูลใส่แค่นั้น เอาไว้พรุ่งนี้เช้าพี่จะสอนละกันนะ”
“ค่ะ”
“พี่ขอตัวก่อน เราทำตัวตามสบายนะ”
“พี่ภูจะให้ใบตองทำอาหารเสร็จตอนกี่โมงคะ”
“ไม่เกินแปดโมงครึ่ง”
“ได้ค่ะ”
ภูเมฆากลับเข้ามาในห้องทำงานของตนเองจากนั้นก็นั่งทำงานจนเที่ยงคืน พอเปิดประตูห้องออกก็หันไปมองทางห้องนอนของกัญญ์วราแล้วก็กลับมายังห้องของตัวเอง
เป็นคืนแรกที่มีคนอื่นเข้ามาอยู่ด้วยในคอนโดแห่งนี้ มันออกจะแปลกไปหน่อยที่เขายอมให้คนที่เพิ่งรู้จักเข้ามาอยู่ด้วย แต่ก็เชื่อในสายตาของตัวเองว่ากัญญ์วราเป็นคนที่ไว้ใจได้คนหนึ่งและเท่าที่ฟังจากน้าสุชาติมาชีวิตของเธอก็น่างสงสาร อะไรที่พอจะช่วยได้เขาก็อยากจะช่วย
กัญญ์วราตื่นอนมาทำอาหารเช้าให้กับภูเมฆาเสร็จก่อนเวลาที่ชายหนุ่มบอก แต่เธอไม่รอทานอาหารพร้อมเขาเพราะวันนี้ตั้งใจว่าจะลองเดินทางทางที่นี่ไปยังบริษัทที่ตนเองฝึกงานพอถึงวันที่ต้องไปฝึกงานจริงๆ จะได้ไม่ไปสาย
เธอเดินออกมาจากคอนโดที่อยู่ห่างจากถนนใหญ่เพียง 300 เมตร จากนั้นก็เดินมาขึ้นรถไฟฟ้า เพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนผู้โดยสารจึงค่อนข้างมาก แต่หญิงสาวก็สามารถแทรกตัวขึ้นมาบนรถได้
จากที่นี่ไปจนถึงบริษัทก็ผ่านแค่สามสถานี จากนั้นก็ลงจากสถานีแล้วเดินต่อไปอีกไม่ถึง 10 นาทีทีก็ถึงบริษัทที่จะมาฝึกงาน รวมเวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที
กัญญ์วรามองตึกสูงบริษัทที่เธอจะมาฝึกงานนั้นตั้งอยู่บนชั้นที่ 14 ซึ่งชั้นล่างของตึกนั้นมีทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟอยู่หลายร้าน หญิงสาวไม่ได้เดินเข้าไปในตึกเพราะวันนี้ตั้งใจจะเดินดูบริเวณรอบๆ เพราะมีรุ่นพี่ที่เคยมาฝึกงานที่นี่บอกว่าอาหารที่ขายอยู่ใต้ดึกนั้นราคาค่อนข้างสูงกว่าร้านข้างนอก
เธอเดินเลยมายังอีกด้านของบริษัทก็เห็นว่ายังมีร้านหารตามสั่งอยู่อีกลายร้าน หญิงสาวเดินผ่านแล้วแอบชำเลืองดูก็เห็นว่าราคาไม่สูงเท่าไหร่ อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีรถผลเข็นที่ขายผลไม้ และขายกาแฟอยู่อีกหลายเจ้า เธอกับเพื่อคงต้องมาใช้บริการร้านเหล่านี้มากกว่าร้านใต้ตึกแน่ๆ
แล้วกัญญ์วราก็นึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่เมื่อวานเธอยังไม่ได้โทรหาธิชากรเลยซึ่งปกติแล้วจะโทรคุยกันทุกวัน แต่จะคุยที่นี่คงไม่สะดวกเพราะเสียงรถค่อนข้างดังเธอจึงรีบเดินสำรวจต่ออีกนิดก่อนจะเดินกลับไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพื่อกลับไปที่คอนโดของภูเมฆา
พอกลับมาถึงห้องเขาก็ไปทำงานแล้วพร้อมกับทิ้งโน้ตไว้ว่าวันนี้ตอนเย็นเขาอยากกินหมี่ขาวราดหน้าทะเล