8 ผมจะไม่แพ้ท้องแทนเมีย

1209 คำ
“ถามจริงเถอะเฮีย แพ้หนักขนาดนั้นเลยเหรอ” โจเซฟขยับตัวเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร ได้แค่หลับตาแล้วซบลงกับไหล่ภรรยานิ่งๆ อลิชาจึงเป็นฝ่ายตอบแทน เสียงเบาดูเป็นห่วงสามีอย่างมาก “หนักค่ะ มากจนหมอต้องจ่ายยาลดอาการคลื่นไส้มาให้แล้วนะคะ แค่กลิ่นของหวานก็แทบจะอ้วกแล้ว ต้องกินอะไรเปรี้ยวๆทั้งวัน” โจฮันพยักหน้าเข้าใจ แต่ยังอดถามกวนไม่ได้ “แล้วคุณล่ะ ไม่แพ้บ้างเหรอ หรือเฮียรับหมดเลย” “ ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ ทานข้าวได้ตามปกติ แถมทานได้เยอะมากด้วยนะคะ” อลิชาหัวเราะเบาๆ พลางลูบหลังสามีไปด้วยอย่างเอ็นดู ไม่ทันสิ้นคำ เสียงฝีเท้าวิ่งกระหืดกระหอบก็ดังขึ้นหน้าประตู “คุณโจเซฟครับบบบ!” อาเฟยพุ่งเข้ามาทั้งที่ยังหอบแฮก ชุดสูทที่เคยเรียบเนี้ยบตอนเช้า ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยเปื้อนฝุ่น คราบดิน และเศษใบไม้ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนผ่านสงครามมา มือหนึ่งถือพวงมะขามสด อีกมือมีถุงพริกเกลือ “มะขามครับเจ้านาย!! สดๆจากต้นด้านหลังคฤหาสน์เลย ผมปีนเก็บมาเองเลยนะครับ กลัวคนอื่นจะหามาไม่ทัน!” ทุกคนในห้องชะงัก อลิชาตาโตทันที “หา! ไปปีนเก็บจากหลังบ้านเหรอคะ!” “ครับ! เพราะเมื่อคืนนายโจเซฟบ่นว่าอยากกินแบบที่เปรี้ยวจี๊ดจริงๆ ผมเลย เอ่อ ปีนเองเลยครับ ” เขายื่นพวงมะขามให้เจ้านายอย่างภาคภูมิใจ โจเซฟลืมตาช้าๆ พอเห็นพวงมะขามก็มีแรงนั่งหลังตรงขึ้นมาเล็กน้อย “เอาพริกเกลือมา” “จัดไว้เรียบร้อยแล้วครับเจ้านาย!” อาเฟยรีบแกะถุงออกอย่างคล่องแคล่ว วางถ้วยพริกเกลือข้างหน้า แล้วประคองพวงมะขามลงจานเหมือนถวายของศักดิ์สิทธิ์ โจฮันมองภาพนั้นแล้วส่ายหน้าช้าๆ พร้อมยกมือกุมขมับเล็กน้อย “นี่มัน อาเฟยเวอร์ชั่นทุ่มเทขั้นเทพ” “แหงล่ะครับ ลูกคนแรกของนาย ผมจะขาดตกบกพร่องได้ไง” โจฮันยิ้มขำในลำคอ ก่อนจะเหลือบตามองพี่ชายที่กำลังเคี้ยวมะขามไปตุ้ยๆ แววตาโล่งขึ้นเล็กน้อย “โอเค อย่างน้อยไอ้พวงมะขามนี่ก็ดูช่วยชีวิตเฮียได้เยอะ” โจเซฟพูดเสียงแหบเบาๆขณะเคี้ยว “ ไปเก็บมาอีก เอาให้เยอะๆเลย” อาเฟยสะดุ้งเล็กน้อย แต่รีบพยักหน้ารับ “ได้เลยครับ! เดี๋ยวผมจัดการให้” “นายทำดีมาก เดี๋ยวฉันจะมอบตำแหน่งใหม่ให้นาย” อาเฟยที่เพิ่งจัดพวงมะขามลงจานอย่างประณีตถึงกับชะงัก เขาหันไปเลิกคิ้วสูงใส่ฟาร์เลนที่ยืนอยู่ข้างๆ เหมือนจะบอกว่า เห็นมั้ย! ก่อนจะหันกลับมาหาเจ้านายด้วยท่าทีตื่นเต้นสุดขีด “พูดมาเลยครับเจ้านาย ผมพร้อมรับตำแหน่งใหม่!” ใบหน้ากลมของอาเฟยระริกระรี้ ยิ้มจนตาหยีอย่างภูมิใจ หัวใจพองโตเต็มอก โจเซฟมองเขานิ่งๆก่อนจะประกาศชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าลูกฉันเป็นผู้ชาย ฉันจะให้นายเป็นพี่เลี้ยง” “ห๊ะ!! พี่เลี้ยง!” เสียงอุทานของอาเฟยดังลั่นห้อง รอยยิ้มเมื่อครู่ชะงักค้างทันที “พี่เลี้ยงเลยเหรอครับ” เขาพึมพำอีกรอบ เหมือนกำลังประมวลผลว่าเจ้านายล้อเล่นรึเปล่า โจฮันที่นั่งพิงโซฟาอยู่อีกฝั่งหลุดหัวเราะพรืดออกมาทันที ส่วนคาลอสถึงกับยกมือปิดปากพยายามกลั้นขำ ฟาร์เลนน้องชายอาเฟยก็ไม่ต่าง เห็นหน้าเด๋อด๋าของพี่ชายแทบกลั้นขำไม่อยู่ อาเฟยค่อยๆขยับมายืนตรงกลางห้อง ท่าทางเหมือนคนกำลังจะอ้อนวอนขอยกเลิกคำสั่ง แต่ยังพยายามรักษามารยาทอยู่ “เอ่อ เจ้านายครับ ขนาดเจ้านายยังเอาแต่ใจขนาดนี้ แล้วถ้าลูกออกมาเป็นผู้ชาย ผมว่า เขาคง เอาแต่ใจกว่านายสิบเท่าแน่เลยครับ” ทันทีที่อาเฟยพูดจบ ต่างคนต่างก็เงียบ โจเซฟเงยหน้าขึ้นช้าๆ “อะไรนะ ใครเอาแต่ใจนะ” อาเฟยรีบยกมือปิดปากตัวเอง แทบจะกลืนคำพูดคืนเข้าไป “ม่ะ ไม่มีครับ! ผมหมายถึง เอ่อ หมายถึงเด็กๆส่วนใหญ่ก็นิสัยคล้ายพ่อ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปครับ บางคนอาจเหมือนแม่” อาเฟยได้แต่ยืนหน้าแหย ยิ้มเจื่อนๆแล้วพึมพำกับตัวเอง “นี่ผมควรดีใจรึร้องไห้กันแน่เนี่ย” โจเซฟเลิกคิ้วสูงทำหน้าดุ “คร้าบเจ้านาย เป็นเกียรติของอาเฟยอย่างยิ่ง อาเฟยจะดูแลนายน้อยเป็นอย่างดี ไม่ให้เอาแต่ใจเหมือนนาย เอ้ย!! ไม่ให้ขาดตกบกพร่องครับ” “ฮ่าๆ/ฮ่าๆๆ” ทุกคนหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง ที่อาเฟยกล้าพูดเพราะรู้ว่าวันนี้นายไม่มีแรง เลยได้ใจใหญ่ “ ว่าแต่นายมีอะไร ทำไมวันนี้ถึงกลับบ้านได้” โจเซฟถามเสียงแผ่ว ปกติโจฮันแทบไม่ได้กลับบ้าน เพราะยุ่งกับธุรกิจหลายอย่างวุ่นวายไปหมด เขาก็สภาพอย่างที่เห็น ขนาดจะไปทำงานที่คชากรุ๊ปยังไปไม่ไหว ยังต้องให้เลขาธวัชชัยเอาเอกสารมาให้เซ็นถึงบ้านเลย “ มีสิครับเฮีย อีกไม่กี่วันผมต้องไปคุยงานที่อิตาลี น่าจะอยู่ซักอาทิตย์ เลยจะให้เฮียแวะไปดูคาสิโนด้วย แต่เห็นสภาพแล้วคงไม่น่าไหว” เขายั้งพูดกลั้นขำ มองหน้าพี่ชายแล้วสงสารสุดขีด “ เฮียไม่น่าไหว ไปแค่อาทิตย์เดียวเดี๋ยวป๊าเข้าไปดูแลแทนก็ได้ ” แฟรงค์เฟิร์ตเดินลงมาได้ยินพอดีรีบอาสา “ คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วแหละครับ ดูจากสภาพเฮียแล้วไม่น่ารอด” โจฮันเห็นด้วยกับแฟรงค์เฟิร์ตผู้เป็นพ่อ หลังทานมื้อเย็นเสร็จ โจฮันก็ทำตัวลับๆล่อๆจนน่าสัย “ คุณโจฮันมีอะไรหรือเปล่าคะ ” อลิชาเลิกคิ้วสูงขึ้นถาม “ เอ่อ ผมมีเรื่องอยากรบกวนคุณหน่อย” “ พูดมาเลยค่ะ ไม่เห็นต้องเรียกว่าการรบกวนเลย เราเป็นคนในครอบครัวนะคะมีอะไรช่วยได้ก็ช่วย สำหรับฉันแล้วไม่ถือเป็นการรบกวนสักนิด” อลิชาตอบอย่างใจดี “ คือ ผมอยากได้ช่องทางการติดต่อพี่สาวคุณครับ” พูดจบเขาก็เบือนหน้าไปอีกทาง เพราะพี่ชายเขาซบไหล่อลิชา แล้วมองหน้าเขาพร้อมกระพริบตาปริบๆ “หืม คุณโจฮันอยากได้ช่องทางติดต่อพี่พิ้งเหรอคะ งั้นฉันขอถามพี่ก่อนได้ไหม” อลิชาถามอย่างไม่แน่นใจ “ ถ้าถามเธอคงไม่ให้หรอกครับ พอดีผมมีเรื่องเข้าใจผิดกับเธอนิดหน่อย ” อลิชาขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม สองคนแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แล้วจะไปเข้าใจกันผิดตอนไหน “ ก็ได้ค่ะ ” อลิชาหยิบมือถือขึ้นมาแล้วให้ช่องทางการติดต่อกับเขา โจฮันหยัดยิ้มมุมปากหลังเห็นช่องทางการติดต่อของเธอ “ งั้นผมกลับเลยนะเฮีย ป๊าผมกลับแล้วนะครับ ผมกลับนะครับคุณอลิชา พักผ่อนเยอะๆนะครับตัวเล็กจะได้แข็งแรง” “ ขอบคุณนะคะคุณโจฮัน” อลิชายิ้มรับ แต่สายตาเฮียเขานี่สิ เหมือนอยากบอกว่าควรบอกเขารึเปล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม