ตอนที่ 2 ต่อให้เธอทองเราก็จะหย่ากันอยู่ดี

1208 คำ
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ให้เธอคุมฝ่ายเดียวแน่นอน เพราะฉันเองก็จะใช้ถุงยางทุกครั้งที่นอนกับเธอ ฉันไม่คิดว่าลูกๆของฉันจะแข็งแรงถึงขั้นทะลุถุงยางออกมาแล้วฝ่าด่านยาคุมกำเนิดของเธอไปได้หรอกนะ” มนนัทธ์ธรหน้าแดงก่ำ หลุบตามองต่ำ ก่อนจะเงยหน้ามองคนพูด “แล้ว...ถ้ามันเกิดขึ้นล่ะคะ” “หึ ฉันก็จะคิดว่าเธอจงใจปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อที่จะจับฉัน ถ้าคิดที่จะทำแบบนั้นก็หยุดซะ ต่อให้เธอท้องเราก็จะหย่ากันอยู่ดี อีกอย่าง...” คำว่าอีกอย่างของเขาทำให้มนนัทธ์ธรตั้งใจฟัง และคำพูดต่อมาของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามีหมาดๆก็ทำให้เธอเย็นยะเยือกไปทั้งตัว หนาวไปถึงขั้วหัวใจ “...เธอจะไม่มีวันได้เห็นหน้าเด็กคนนั้นไปตลอดชีวิต ฉันสัญญา” “คุณจะทำอะไร?” “มันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องรู้ รู้แค่ว่าเธอห้ามท้องก็พอ” “ค่ะ มนจะจำไว้ มนจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองท้องเด็ดขาด” มันไม่ใช่แค่คำพูดที่ต้องการยืนยันกับเขา ทว่ามันคือคำพูดที่เธอให้สัญญากับตัวเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอจะไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองท้องกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด “จำคำพูดของเธอเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน แล้วจะมาบอกว่าฉันใจร้ายทีหลังไม่ได้” แม้จะนั่งนิ่ง ทว่าทุกถ้อยคำของเขาที่เอื้อนเอ่ยก็ถูกเมมโมรี่ไว้ไม่มีตกหล่น “ไปอาบน้ำสิ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะนอนกับเธอทั้งสภาพนี้หรอกนะ” ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งเห็นเธอนิ่งเขาก็ยิ่งหงุดหงิด ใบหน้าซีดเผือด แววตาตื่นตระหนก นั่งตัวสั่นงกๆหวาดกลัวกับสิ่งรอบข้าง คือสิ่งที่เขาอยากเห็นจากผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่การนิ่งเงียบเหมือนทองไม่รู้ร้อนทำเหมือนว่าเธอไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งที่เขาโคตรหงุดหงิดกับการแต่งงานครั้งนี้ มนนัทธ์ธรยื่นมือหยิบแผงยาคุมที่กระจายอยู่บนเตียงใส่ไว้ในถุง ขยับขาเพื่อที่จะก้าวลงจากเตียง แต่ก็ต้องนิ่วหน้าให้กับความเจ็บแปลบจนเผลอร้องออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วทั้งขาข้างซ้ายที่เหมือนว่าเธอจะถูกตะคริวเล่นงานเข้าให้ “อุ๊ย!...” ร่างบางที่ชวนเซจวนล้มรีบนั่งลงดังเดิม ไม่กล้าที่จะขยับตัวแรงเพราะความเจ็บแปลบที่พุ่งปริ๊ด ความเจ็บทำให้เธออยากร้องไห้ ทว่าเจ้าบ่าวของเธอทำเพียงหรี่ตามองก่อนจะเดินไปที่โต๊ะหัวเตียง เปิดลิ้นชักหยิบเอาซองบุหรี่แล้วเดินออกไปที่ระเบียงห้องโดยไม่คิดที่จะหันกลับมามองซ้ำ หรือเอ่ยถามว่าเธอเจ็บป่วยหรือไม่สบายตรงไหน มนนัทธ์ธรก้มมองดูขาตัวเองตาปรอย เบ้ปากน้อยๆ ก่อนจะขยับขาออกเหยียบตรง บีบนวดท่อนขาที่ปวดอย่างแผ่วเบาเพื่อคลายความทรมาน เกือบสิบนาทีกว่าที่ขาข้างซ้ายของเธอจะหายเจ็บและกลับมาขยับได้โดยไม่รู้สึกอะไร ดวงตาสวยเศร้ามองไปยังระเบียงห้อง อยากจะขอให้คนตัวสูงที่ยืนสูบบุหรี่เข้ามาช่วยรูดซิปชุดแต่งงานราคาแพงที่ตัวซิปอยู่ด้านหลังให้ ทว่าก็ต้องเปลี่ยนใจ มันอาจจะไร้ประโยชน์ ต่อให้เอ่ยปากก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยอมช่วยเหลือหรือเปล่า นอกจากจะไม่ช่วย เธออาจจะเห็นสายตาดูแคลนมองกลับมาแทน แม้จะเคยเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ใช่ว่าเธอจะคุ้นชิน เลือกได้ก็ขอที่จะไม่เห็นมันดีกว่า สายตาคมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการดูแคลน มีใครบ้างที่อยากเห็นมัน... เกือบสองชั่วโมงที่มนนัทธ์ธรใช้เวลาจัดการตัวเองในห้องน้ำ เธอใช้เวลายี่สิบนาทีสำหรับการถอดชุดเจ้าสาวแสนสวยราคาแพงอย่างระมัดระวังไม่ให้ขาดชำรุดเสียหาย ยี่สิบห้านาทีสำหรับการเช็ดล้างเครื่องสำอางตามใบหน้า สามสิบนาทีสำหรับการคลายเส้นผมที่ถูกจัดเป็นทรงสวยให้คืนสภาพเดิม และอีกสี่สิบนาทีสำหรับการอาบน้ำสระผมเพื่อให้ตัวเองสดชื่น อาบน้ำเสร็จก็จัดการสวมใส่ชุดนอนที่ถือเข้ามาด้วย ก่อนออกจากห้องน้ำก็ไม่ลืมที่จะจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้คนที่จะเข้ามาใช้ห้องน้ำต่อ เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาสิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงของสามีหมาดๆที่อยู่ในสภาพกึ่งเปลือย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันเอวสอบเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ นั่งเหยียดขายาวบนเตียงกว้าง มีโน้ตบุ๊กเครื่องเล็กวางอยู่บนหน้าขาแข็งแรง สายตาคมจดจ่ออยู่กับหน้าจอ นิ้วมือเรียวเขี่ยไปมาบนทัชแพด เหมือนพิชญุตม์จะรู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมองจึงได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสายตานิ่ง กลายเป็นเธอกับเขามองสบตากัน ก่อนจะเป็นเธอที่เป็นฝ่ายหันหน้าหนีแล้วพาตัวเองไปที่โต๊ะเครื่องแป้งด้วยใบหน้าเห่อร้อนที่ถูกจับได้ มนนัทธ์ธรใช้เวลาทาครีมบำรุงและหวีผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งอย่างอ้อยอิ่ง จากที่เคยแตะๆปาดๆไปตามใบหน้าและลำคอไม่ถึงครึ่งนาทีก็เปลี่ยนมาเป็นค่อยๆบรรจงแตะแต้มอย่างประณีตละเมียดละไมไม่ต่างจากการสรรสร้างประติมากรรมชั้นเลิศ ทั้งที่ความจริงเธอแค่ซื้อเวลา แม้จะไม่ได้มอง ทว่าเธอก็รับรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคนร่วมห้อง อิริยาบถจริงจังที่เขาจดจ่ออยู่กับหน้าจอ การเอื้อมตัวไปวางโน้ตบุ๊กไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ขยับขายาวลงจากเตียง ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ จวบจนประตูห้องน้ำปิดลง นั่นจึงเป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกว่าตัวเองหายใจได้เต็มปอด แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ทว่าเธอก็ไม่ปล่อยให้มันสูญเปล่ารีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ตักตวงสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดให้เต็มอิ่ม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกว่าสามสิบนาทีมันสั้น ทั้งที่เมื่อก่อนเธอสามารถตักกับข้าวใส่ถุงได้เป็นหม้อ จนกระทั่งตอนนี้... ทันทีที่ประตูห้องน้ำถูกเปิดและปิดในเวลาเดียวกัน มนนัทธ์ธรที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างก็รู้ได้ทันทีว่าเวลาของเธอได้หมดลงแล้ว พิชญุตม์ที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำมองชุดนอนที่วางอยู่ปลายเตียงด้วยสายตานิ่ง มุมปากยกขึ้น ก่อนจะหยิบมันโยนไปที่ตระกร้าผ้ามุมห้อง ไม่สนใจว่ามันจะตกหล่นกลางทางหรือตกลงในตระกร้าผ้าหรือเปล่า ทว่าคนจัดเตรียมก็ทำแค่มองตามก่อนจะหยิบยาคุมที่เตรียมไว้ขึ้นทานทันทีที่เจ้าของห้องเดินเข้ามาใกล้ แก้วน้ำเปล่าถูกวางบนโต๊ะในจังหวะเดียวกับเสียงเข้มที่เอ่ยถาม “เคยหรือเปล่า?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม