ภูษิตยังคงก้าวเดินอย่างมั่นคง ตอนนี้เขาแบกร่างบางเข้ามาภายในห้องเรียบร้อยแล้ว และวีกิจก็จัดการนำรถไปเก็บ และกลับไปจากที่คอนโดแห่งนี้เช่นกัน
“มาถึงขั้นนี้แล้วอย่าพยายามเสียให้ยากเลย” ภูษิตเอ่ยราวกับว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันเป็นเรื่องที่คนปกติทั่วไปเขาทำกัน
“นี่คุณเสียสติไปแล้วหรือไง ฉันไม่ได้เต็มใจที่จะให้คุณย่ำยีเล่นนะ” ปาลิดาเอ่ยออกมาด้วยความเหลืออด
“ถึงคุณจะไม่เต็มใจ แต่ถ้าผมอยากได้คุณ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” ภูษิตเอ่ยออกมาหน้าตาเฉย ทำให้หญิงสาวรู้สึกโมโหชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
หลังจากเดินเข้ามาถึงภายในห้องนอน ตอนนี้หญิงสาวอยู่ภายในอ้อมแขนของชายหนุ่ม เขาวางเธอลงที่โซฟาข้างเตียง แต่เพียงแค่เขาปล่อยมือจากเธอเท่านั้น หญิงสาวก็รีบขยับตัวเตรียมวิ่งออกไป ชายหนุ่มรีบคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้แน่น
“จะหนีไปไหน ผมว่าเรามาตกลงกันดีกว่านะ” ภูษิตเอ่ยขึ้นอย่างเหนือกว่าชัดเจน
“ฉันไม่มีอะไรที่จะต้องตกลงกับคุณ” ปาลิดากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยอง
“มันจะดีกว่ามั้ย ถ้าคุณต้องเสียตัวให้ผมแล้วกำจัดคนที่คิดร้ายกับคุณได้” ภูษิตเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกแทบอยากจะฆ่าเขา
“ฉันมีศักดิ์ศรีมากกว่าที่จะยอมนอนกับคุณอย่างผู้หญิงไร้ยางอาย” ปาลิดาจ้องชายหนุ่มด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความคับแค้นใจ และรังเกียจการกระทำของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
“ศักดิ์ศรีมันช่วยให้คุณรอดจากเหตุการณ์นี้ไม่ได้หรอกนะ ไม่ว่าคุณจะเต็มใจหรือไม่ ผมก็ไม่มีวันปล่อยคนที่กล้าตบหน้าผมให้ออกไปจากที่นี่ โดยไม่ได้รับการลงทัณฑ์อะไรจากผมหรอกนะ” ภูษิตเอ่ยด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยพลัง มันช่างน่ากลัวเหลือเกินสำหรับผู้หญิงอย่างปาลิดา ที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“ถ้าฉันล่วงเกินคุณ ฉันก็ขอโทษ ได้โปรดปล่อยฉันออกไปจากที่นี่เถอะค่ะ” ปาลิดาขอร้องชายหนุ่มด้วยความหวังว่าเขาจะยอมใจอ่อน เพราะดูท่าทีแล้วว่าเขาคงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรมากนัก
“มันสายไปแล้วล่ะ ผมรู้สึกว่าผมชอบคุณ ถ้าจะให้ผมปล่อยคุณไปผมก็คงทำไม่ได้หรอก” ภูษิตเอ่ยออกมาตามที่คิด ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาคงปล่อยเธอกลับไปไม่ได้จริงๆ เพราะความต้องการของเขาที่มีต่อเธอมันมากขึ้นเรื่อยๆ
“คุณจะชอบคนที่เพิ่งจะเจอครั้งแรกได้ยังไง” ปาลิดารู้สึกตกใจกับคำพูดของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนพูดจาแบบนี้กับเธอ