9
[PUNPANG]
ตัดสินใจดีแล้ว
"แล้วเพื่อน... ยังเป็นเพื่อนอยู่ไหม"
คำถามของคุณภาคิณทำให้น้ำตาฉันไหลลงมา ฉันไม่มองหน้าเขาเลย มองแค่ปลายเท้าตัวเองอย่างเหม่อลอย ถ้าฉันมองหน้าใครสักคนฉันคงไม่กล้าเล่าให้ฟังละเอียดขนาดนี้
เพราะฉันกลัวว่าใครจะเอาเปรียบ หาผลประโยชน์จากความยากลำบากของฉันอีก ถือว่าเล่าให้อากาศ หรือผีในห้องฟังก็แล้วกัน
"หนูเสียเพื่อนไปตั้งแต่วันนั้น เจอพูดจาแรงๆเหมือนตัดขั้วหัวใจ เจอแกล้งสารพัด หนำซ้ำ... พวกที่แม่กับพ่อขายให้ยังมีมากขึ้นเรื่อยๆ แรกๆ... กดกริ่งทิ้งนามบัตรให้โทรกลับ หลังๆมีกุญแจเปิดเข้ามาในบ้าน หนูต้องปีนตู้เปิดฝ้าแล้วขึ้นไปแอบข้างบนนั้น"
"ได้ถามเพื่อนไหมว่าค้นโต๊ะเราทำไม"
ฉันพยักหน้า
"ถามค่ะ แต่คำตอบทำให้หนูทำอะไรไม่ถูก วันนั้นน้ำฝนเดินหนีหนูไป หนูก็ไม่ได้ขึ้นเรียนเลือกกลับบ้านไปทำแผลให้ตัวเอง เราเจอกันอีกทีวันจันทร์ สภาพแวดล้อมในโรงเรียนเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ หนูโดนปลดลงจากตำแหน่งดาวโรงเรียน เพราะนักเรียนพูดปากต่อปากว่าหนูคือเด็กครูนนท์ และพ่อแม่ค้ายา"
•••
สองอาทิตย์ก่อนหน้า...
เช้าวันจันทร์ดาดฟ้าโรงเรียนเอกกรุณ
กว่าจะเดินขึ้นมาตรงนี้ได้ผ่านสายตาที่ดูถูกและคำนินทานับไม่ถ้วนเลย ข่าวพวกนั้นถูกกระจายในโรงเรียนอย่างรวดเร็วและใครก็พูดกันสนุกปาก ฉันตัวคนเดียวร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครเคียงข้าง
แม้แต่เพื่อนสนิทก็แทบจะไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำ ฉันจึงไลน์หาน้ำฝนนัดเคลียร์เรื่องนี้กับเธออย่างจริงจัง
"ทำไมแกไม่บอกฉันว่าพ่อแม่แกค้ายา?" น้ำฝนถามขณะที่กอดอกมองไปทางอื่น
"ฉันยังไม่พร้อมจะบอก"
"เหอะ แล้วแกก็ปล่อยให้ฉันคบกับคนแบบแกเนี่ยนะ"
คำพูดน้ำฝนพาฉันอึ้งจนตาเบิกกว้าง นี่คือเพื่อนฉันจริงๆเหรอ?
"คนแบบฉันแล้วทำไมเหรอ? ฉันทำอะไรผิด"
"ผิดที่แกจนลง และพัวพันกับยาเสพติดไง และที่สำคัญนะกับครูนนท์แกก็นอนกับเขา ครูนนท์บอกแกจะแย่งทุนฉัน ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อหรอกจนลูกปลาพูด คงเป็นฉันคนเดียวสินะที่โง่คบคนแบบแก"
"ฉันไม่ได้นอนกับใครทั้งนั้น อ๋อที่แกค้นใต้โต๊ะและล็อกเกอร์ฉัน เพราะครูนนท์เป่าหูแกใช่ไหม"
"เขาแค่บอกให้หาหลักฐานใบสมัครทุน ตอนนั้นฉันไม่เจอก็เลยไม่เชื่อเท่าไหร่"
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆสงบสติอารมณ์ตัวเอง น้ำฝนอาจจะฟังคนอื่นมากไป ฉันจะอธิบายให้ฟังเอง
"ฉันไม่ได้นอนกับครูนนท์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ ครูนนท์พยายามบังคับแต่ฉันหนีออกมาได้ แต่แกนอนกับครูใช่ไหมน้ำฝน แกโดนล่วงเกินอ่ะ ฉันไม่รู้ว่าแกหัวเสียทำไม? แกคงจะเครียดที่โดนครูนนท์บังคับให้ทำแบบนั้นใช่ไหม งั้นเราไปบอกผอ.ด้วยกันนะ ครูนนท์จะได้โดนไล่ออก ครูแบบนั้นไม่ควรเป็นครู ครูที่ทำลายชีวิตคนอื่น"
น้ำฝนตวัดตามองฉันขวับ
"หยุดนะ! ฉันเต็มใจนอนกับครูนนท์ เพราะฉันชอบครูมานานแล้ว"
"ฮะ?"
"แล้วที่แกรู้เนี่ย เมื่อวานเป็นแกใช่ไหมที่ไปแอบดู บ้าฉิบ! แกทำให้ครูนนท์กับฉันหมดอารมณ์"
"นะ น้ำฝน..."
ใช่ คำพูดพวกนั้นมันน่าเกลียดมาก แต่มีอะไรที่น่าเกลียดกว่านั้น จนความรู้สึกฉันที่มีให้เพื่อนคนนี้พังทลายลง
"ที่ฉันคบกับแกนึกว่าแกจะทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น คนอื่นได้มองเห็นฉันเพราะฉันมีเพื่อนรวย เด่น และเป็นดาว ตอนนี้แกตกต่ำแล้ว เฮ้อ... ฉันไม่ยอมให้แกฉุดฉันลงไปด้วยหรอกนะ บาย"
น้ำฝนเดินผ่านฉันไปโดยทิ้งคำพูดพวกนั้นให้ทิ่มแทง ถามหน่อยเถอะ... ตอนนี้ชีวิตฉันมีอะไรดีบ้าง สักน้อยนิดก็ได้ช่วยทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่ที พอคิดแบบนั้นฉันก็เดินไปขอบตึกมองลงไปข้างล่าง ความคิดหลายอย่างตบตีกันในหัว
ถ้ากระโดดลงไปมันจะจบใช่ไหม
แล้วถ้าไม่จบจะทำยังไง? พิการทรมานบนเตียงรึเปล่า? ไม่ฉันจะไม่เป็นแบบนั้น
ฉันก้าวถอยหลังแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ก่อนจะไปเข้าห้องเรียนท่ามกลางสายตาเหยียดๆและมีแต่คำถาม น้ำฝนเลื่อนโต๊ะไปนั่งที่อื่นแล้วติดกับลูกปลา ฉันนั่งคนเดียวโดดเดี่ยวกลางห้อง แต่ไม่เป็นไรหรอกจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แล้วกัน
รู้สึกอีกทีก็รู้ว่าไม่มีเพื่อนก็ไม่ตาย ฉันตัดขาดโลกภายนอกได้เพียงแค่ก้มลงอ่านหนังสือ ช่วงเวลานั้นฉันอ่านหนังสือหนักมากๆ พยายามทำการบ้านทุกวิชาทันทีที่ครูสั่ง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เดินผ่านคำด่าของลูกปลาและทุกสิ่งทุกอย่างที่ดึงให้ฉันดาวน์ กินข้าวโรงอาหารก็ใส่แอร์พอดฟังเนื้อหาที่ตัวเองอ่าน
ปัญหาที่โรงเรียนแก้มันด้วยวิธีนี้
ส่วนที่บ้านที่แม่กับพ่อเร่เอาฉันไปขายฉันก็แก้ปัญหาอีกวิธี ทุบกระปุกออมสินที่พึ่งหาเจอขอให้ลุงจินช่วยใส่กลอนด้านในให้อย่างแน่นหนา เข้าบ้านฉันจะล็อกจากด้านในและปิดไฟทุกดวงทำเหมือนไม่มีใครอยู่
ฉันไม่เหลือความรักให้ใครอีกแล้วนอกจากตัวเอง
แต่เมื่อทำแบบนั้นทุกอย่างกลับแย่ลง หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้นพวกคนที่ซื้อฉันจากพ่อกับแม่ตามไปที่โรงเรียน แถมยังแย่งไมค์ห้องประชาสัมพันธ์ประกาศเรียกฉันเสียงดังก้อง
'ประกาศจากประชาสัมพันธ์ นางสาวปัณณรา สุทธิโกศล พบ...'
'อะแฮ่ม! น้องปั้นแป้ง...พี่รอที่ห้องประชาสัมพันธ์นะจ๊ะ!'
เสียงผู้ชายมีอายุประกาศแทรกอย่างไร้มารยาท และใช่ค่ะ... คนมองฉันทั้งห้อง แถมลูกปลายังเดินมาเบ้ปากซ้ำเติม พร้อมให้ฉายาใหม่ที่น่าอับอายที่สุด
"โอ้โห พออดอยากหน่อยก็ไปเป็นเด็กเสี่ยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่านางฟ้าเอกกรุณจะตกต่ำคิดตื้นได้ขนาดนี้"
ฉันกำปากกาในมือแน่น
"ลงไปหาผัวแก่ของแกสิปั้นแป้ง" มีคนพูดขึ้นมา
"อุ๊ย ปั้นแป้งเป็นเด็กเสี่ยเหรอ?"
"คงหาเสี่ยเลี้ยง พ่อแม่ทิ้งแล้วไง"
"ปั้นแป้งรีวิวการเป็นเด็กเสี่ยหน่อยสิ อึดป่ะ อิอิ~"
กลุ่มลูกปลาสลับกันพูดทิ่มแทงฉัน แต่เมื่อฉันหันมองน้ำฝนเธอแค่นั่งเท้าคางมองหน้าฉันนิ่งๆ ไม่มีอะไรแสดงออกผ่านสีหน้าของเธอ สายตาด้านชาราวกับเราไม่รู้จักกันยังไงอย่างงั้น
จนเสียงประกาศดังซ้ำเติมฉันขึ้นมาอีก
'ประกาศจากประชาสัมพันธ์ นางสาวปัณณรา สุทธิโกศลนักเรียนชั้นม.5/1 มีคนรอพบที่ประชาสัมพันธ์ค่ะ'
"ไปสิปั้นแป้ง รีบไปรับงานเร็วววววว"
"ลงไปดูหน้าแฟนเสี่ยของปั้นแป้งดีไหมพวกเรา"
"เออๆ คาบว่างพอดี ป่ะๆ"
ฉันทนไม่ไหวแล้ว!
ในที่สุดฉันตัดสินใจเก็บหนังสือแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะหยิบแอร์พอดมาใส่เปิดเพลงให้ดังที่สุดแล้วเดินหนีออกไปจากห้องเรียน ฉันเดินผ่านนักเรียนคนไหนใครก็หันมอง เพราะที่ประกาศก้องใครก็รู้ว่าคือฉัน
อยากหนีให้ไกลจากที่นี่ หนีทุกคน บางครั้งก็อยากตาย บางครั้งก็อยากเผาโรงเรียนให้สิ้นเรื่อง
แต่ตอนนี้ทำได้แค่เดินออกทางประตูหลังอ้อมไปรอรถเมล์แล้วกลับบ้าน จากนั้นล็อกประตูทุกบานขังตัวเองอยู่ข้างในนั้น
'ฟุบ!'
ฉันทิ้งตัวนอนที่โซฟา แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูไลน์ที่ส่งไปหาแม่ทุกวัน
LINE | MOM
PUNPANG : แม่รู้ไหมว่าวันนี้หนูเจออะไร คนที่แม่ขายหนูให้ไปหาหนูที่โรงเรียน ในโลกนี้ไม่มีเซฟโซนสำหรับหนูอีกแล้ว แม่กับพ่อจะกลับมารับหนูวันไหนคะ เคลียร์ปัญหาได้บ้างรึยัง หนูจะไม่โกรธไม่ถามอะไรทั้งนั้น แต่อย่าลืมกลับมารับหนูนะ หนูกลัวมาก
(Read)
หัวใจฉันเต้นแรงทันทีเมื่อเห็นว่าแม่อ่าน รีบลุกขึ้นนั่งแล้วรัวนิ้วพิมพ์ต่ออย่างรวดเร็ว
PUNPANG : แม่อ่านแล้ว แม่จะกลับมาแล้วใช่ไหม
MOM : ทำไมไม่ยอมเสี่ยพวกนั้น รู้ตัวรึเปล่าว่าทำให้แม่เดือดร้อนต้องหนีพวกมันอีก
อะไรนะ...
PUNPANG : แม่... แม่พูดแบบนี้ได้ไงคะ?
MOM : ยอมเสี่ยๆพวกนั้นซะจะลำบากไปทำไม ตอนนี้ใช้ความสวยตัวเองให้เป็นประโยชน์บ้างสิ แม่เลี้ยงมาอย่างดีเพื่อให้เราได้ดี หาเงินดูแลแม่
PUNPANG : แม่ขายหนูให้ใครกี่คน แม่จะให้หนูขายตัวเหรอคะ?!
MOM : หลายคน และจะมีเรื่อยๆหนีไปก็เหนื่อยเปล่าๆ ขายไปเถอะ ถ้าแป้งไม่ขายพ่อกับแม่ตายแน่ๆ จะไม่ช่วยพ่อกับแม่เลยเหรอ? พ่อกับแม่จะได้ใช้หนี้พวกเจ้าพ่อค้ายาแล้วกลับไปหาลูกเร็วๆไง
บ้าเถอะ!
ฉันล็อกหน้าจอโทรศัพท์แล้ววางไว้บนโต๊ะกลาง ยอมขายตัวงั้นเหรอ? ไม่ ฉันไม่ยอมแน่ๆ ฉันรักพ่อแม่ก็จริง แต่ฉันก็รักตัวเองเหมือนที่พ่อกับแม่รักตัวเองเหมือนกัน
หลังจากนั้นฉันก็ไม่สนใจไลน์ของแม่อีกเลย ความศรัทธาที่ค่อยๆลดลงตอนนี้แทบไม่หลงเหลืออีกแล้ว ฉันหมกตัวอยู่ในบ้านไม่ไปโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์ ไปแค่ช่วยป้าเล็กขายของช่วงเย็นก็กลับมาอ่านหนังสือและเข้านอน
ตัดเรื่องขอทุนออก ฉันพอแล้ว ถ้าฉันเรียนไม่ได้ฉันคงต้องออก ไว้ไปเรียนการศึกษานอกโรงเรียนเอาก็ได้ คนที่ได้ดิบได้ดีมีถมเถไป
แต่แล้ววันนี้ก็มาถึง... วันที่ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว ป้าเล็กมาเรียกฉันเสียงดังจนสะดุ้งตื่น เสียงป้าสะอื้นสั่นเหมือนคนผวาและหวาดกลัว
"ปั้นแป้งๆ ปั้นแป้งๆ! ฮือออออ"
"คะ ป้าเล็กมีอะไรคะ"
ป้าเล็กชี้ไปที่บ้านของป้า ฉันจึงไม่รอช้ารีบใส่รองเท้าวิ่งข้ามถนนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะชะงักกับภาพที่เห็น ยับเยินไม่มีชิ้นดี ของป้าเล็กพัง บ้านถูกรื้อ กระจกแตก และที่สำคัญลุงจินนอนหมดสติจมกองเลือด
"ลุงจิน ลุงจิน ฮือๆ ใครทำคะป้าเล็ก!"
"พวกนั้นไงที่ฝากนามบัตรไว้ เข้ามาทำร้ายลุงและหาตัวปั้นแป้งเมื่อคืน"
ฉันแทบทรุด... นี่ฉันกำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อนงั้นเหรอ... ป้าเล็กจับมือฉันดึงให้หันไปมองตัวเอง น้ำตาของป้าไหลอาบแก้ม ยิ่งเห็นฉันพยายามจะหันไปมองและช่วยลุงป้ายิ่งสะอื้นหนัก
"ป้าเล็กเราต้องพาลุงไปหาหมอนะคะ ปล่อยไว้ไม่ได้นะลุงเลือดออกเยอะมาก"
"ปั้นแป้ง ฮือๆ ลุงจินเสียแล้ว ป้าจับดูไม่มีชีพจรแล้วพวกมันแทงลุงหลายแผล... และป้าขอพูดตรงๆ ป้าคงช่วยเหลือปั้นแป้งแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วนะ"
โลกของฉันแตกสลาย ฉันไม่เพียงแค่ทำให้ลุงกับป้าเดือดร้อน แต่ฉัน... ทำให้ลุงจินต้องตาย ฉันทรุดลงนั่งกับพื้นร้องไห้สะอื้น ยกมือสองข้างกุมหัวที่จะระเบิดของตัวเอง คล้ายกับคนสติแตก
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด"
"ปั้นแป้ง ฮือๆ เข้าใจป้านะลูก"
ฉันเข้าใจทุกอย่าง เสียใจมากที่สุดในชีวิต และเพื่อความปลอดภัยของป้าเล็ก ฉันเข้าไปเหยียบบ้านป้าไม่ได้อีกแล้ว ฉันเดินออกมาอย่างเหม่อลอย เคว้งคว้าง ไร้จุดหมาย ขนาดอยู่ช่วยป้าและจัดงานศพยังทำไม่ได้ และอยู่บ้านก็อันตรายกับตัวเอง
ค่ำคืนที่แสนเวิ้งว้างโดดเดี่ยวทำให้ฉันเลือกทำแบบนั้น
ฉันเปลี่ยนชุดนักเรียนเพื่อให้คนพบศพรู้ว่าเป็นนักเรียน เขียนจดหมายจากความรู้สึกตัวเองตั้งแต่อยู่ที่บ้านว่าฉันไม่มีญาติให้ติดต่อ ก่อนจะเดินไปที่สะพานพระรามแปด ยืนมองผืนน้ำที่ไหลเชี่ยวและลึกหลายสิบเมตร
ใครบอกว่าคนฆ่าตัวตายคิดสั้น แต่ผ่านการคิดและสู้มามากแล้วต่างหาก ให้ทุกอย่างมันจบวันนี้เถอะ... ให้ฉันขายตัวฉันทำไม่ได้ ให้ฉันกลับบ้านเห็นบ้านที่ลุงจินตายฉันก็ทำไม่ได้ ยิ่งไปโรงเรียนยิ่งแล้วใหญ่ทุกคนรุมทึ้งหัวฉันราวกับฉันไปฆ่าใครตาย
ฉันวางกระดาษที่เขียนลงพื้นแล้วถอดรองเท้านักเรียนทับไว้ ก่อนจะตัดสินใจปีนขึ้นไปนั่งขอบสะพานมองลงไปที่น้ำด้านล่าง
'เอี๊ยด'
เสียงรถเบรกกะทันหัน และเสียงรองเท้าหนักๆหลายคู่ทำให้ฉันหันไปทันที พวกไหนอีก? พวกมีอิทธิพลที่แม่ขายฉันให้อีกแล้วใช่ไหม
มาก็ดี
จะได้เลิกตามรังควานฉันสักที ฉันจะตายให้ดู!
ฉันมองหน้าใครไม่ชัดเพราะตาพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตา แต่แค่เห็นรางๆว่าร่างสูงโปร่งสูทดำหลายคนวิ่งมาหา ฉันก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าฉันต้องกระโดดลงไปตอนนี้
"ฮึกๆ ถะ... ถ้าอยากได้หนูมาก ก็เอาศพไปแล้วกัน"
"เดี๋ยว!"