ไม่คู่ควร

1511 คำ
เธอไม่ได้โกรธเขาแต่เธออายที่เธอมาอยู่จุดนี้ต่างหากล่ะ ม่านฟ้านอนฟุบลงบนเตียงนุ่มก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลออกมาโดยไร้เสียงสะอึกสะอื้นใดๆ เธอเสียใจที่อนาคตของเธอมาถึงจุดที่ผู้คนเหยียบย่ำ ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี เธอมั่นใจแน่วแน่แล้วว่าชีวิตนี้จะไม่มีความรักเด็ดขาด เธอกลัวที่จะตกหลุมรักขุนพล แน่นอนว่าตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกดีกับเขาไปแล้ว และนั่นเอง...เธอถึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม! "ลืมเขาไปซะม่านฟ้า เขาไม่มีทางมารักคนแบบเธอได้" ม่านฟ้าปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆก่อนจะลุกขึ้นอาบน้ำเข้านอน เธอข่มตาเพื่อให้หลับไปโดยที่ไม่มีอะไรมาก่อกวนใจเธออีก หลายวันต่อมา... ม่านฟ้ายังคงอยู่ที่นี่โดยมีแม่บ้านส่วนกลางส่งข้าวส่งน้ำทุกๆ3เวลา เธอยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร ทำความคุ้นชินกับทุกคน ตั้งแต่วันนั้นเธอกับขุนพลก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีก แต่เธอก็ยังเจอเพื่อนของเขาบ้างตามตลาดหรือเวลาที่เธอออกไปวิ่งออกกำลังกาย และตั้งแต่เริ่มต้นที่เธอมาที่นี่จนถึงวันนี้ม่านฟ้าก็ยังไม่เคยได้รับแขกเลยสักครั้ง เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ก็ไม่ได้ถามใครออกไป เธอกลับจากไปออกกำลังกายก่อนจะเดินผ่านบ้านพักของขุนพลและเพื่อนๆ หญิงสาวสวมชุดเข้ารูปเพื่อความสะดวกในการวิ่ง เสื้อที่รัดกุมและโชกไปด้วยเหงื่อ ผ้าพาดไหล่สีขาวถูกหยิบมาเช็ดหน้าเป็นระยะ จนเธอวิ่งมาถึงหน้าบ้านของสามหนุ่ม "อ้าวน้องม่านฟ้า" "สวัสดีค่ะ" เธอหยุดสวัสดีทุกคน รวมถึงขุนพลด้วย เขามองมายังเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก หรือจะเป็นเพราะวันนั้นที่เธอไล่เขากลับแถมยังทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอีกด้วย "ไปวิ่งมาหรอครับ" กันตะโกนถาม "วันหลังชวนพี่ไปด้วยสิครับ" ทศเสริม "ได้สิคะ" ม่านฟ้ามองไปยังขุนทัพที่มองเธอนิ่งๆโดยไม่พูดอะไร "ขี้เก๊กชะมัด" "ว่าอะไรนะครับ" "อ๋อเปล่าค่ะ ม่านฟ้าไปก่อนนะคะ บายค่ะพี่ๆ" ม่านฟ้าโบกมือลาทุกคนก่อนจะวิ่งกลับไปยังบ้านพัก สายตาแบบนั้นมันคืออะไรกันแน่นะ สายตาที่มองมาราวกับว่าเขากำลังตำหนิเธออยู่ในใจ เขาจะมาว่าเธอได้ยังไงกัน คงไม่ใช่หรอก ม่านฟ้าไล่สะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวก่อนจะเข้าบ้านไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น เธอเปลือยกายเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนจะจ้องมองตัวเองในกระจก อกอวบๆที่เกินวัยและสะโพกที่กำลังพอดี โชว์ตะหง่านอยู่เบื้องหน้า ม่านฟ้ามองตัวเองสะท้อนในกระจกและมองตัวเองด้วยความหลงใหล ผิวขาวจนแทบจะซีดนั้น แต่ยังคงมีความอวบอิ่มไม่น่าเกลียดไปเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับคนทั่วไปม่านฟ้าจัดฟ้าเป็นหญิงสาวที่สวยครบเครื่องเลยก็ว่าได้ "เธอจะไปฝันอะไรยัยม่านฟ้า เขาไม่มีทางมองเธอหรอก" เธอไล่ความคิดออกจากหัวอีกครั้งก่อนจะรีบอาบน้ำ เธอสวมชุดเดรสสีขาวผ้าพริ้วบางก่อนจะมานั่งเล่นที่โซฟาเล็กๆในบ้าน ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก เธอมองจ้องไปยังประตูก่อนจะตะโกนถามออกไปว่า "ใครคะ" " " เงียบ "ถามว่าใครคะ" " " เงียบ "ถ้าไม่บอกม่านฟ้าไม่เปิดนะคะ" เธอเด็ดขาด ขืนเปิดออกไปแล้วเจอพวกบ้ากามจะทำยังไง ถึงตอนนั้นจะโทรหาท่านนายพลก็คงไม่ทันแล้ว "พี่เอง" เสียงที่คุ้นหู เป็นขุนพลที่มาหาเธอจริงๆ "พะ พี่มาทำไมคะ" "เปิดประตูหน่อยสิ" "มีธุระอะไรไหมคะ ม่านฟ้าเพลียอยากพักค่ะ" "พี่คุยแป๊บเดียว ไม่นานครับ" "งั้นก็ได้ค่ะ" แอด... "เข้ามาข้างในก่อนค่ะ" " " ร่างสูงเข้ามาด้านในแล้วม่านฟ้าจึงปิดประตูลง "มีอะไรก็ว่ามาค่ะ" "ทำไมกลางวันแสกๆแบบนี้กลัวว่าพี่จะทำอะไรครับ" "ไม่กลัวค่ะ" "อย่างนี้สินะ ถ้ากลัวก็คงไม่แต่งตัวแบบนั้นออกไปสินะครับ" "คะ? แบบไหน" "ก็แบบที่หนูใส่ออกไปวิ่งเมื่อเช้าไง" ชายหนุ่มยืนกอดอกมองคนตรงหน้านิ่งๆอย่างรอคำตอบ "ปกติคนออกกำลังกายก็ใส่แบบนี้นี่คะ" เธอเถียงต่อ ไม่เห็นว่ามันจะไม่เหมาะสมตรงไหนเพราะเธอก็ไม่ได้ใส่สั้นอะไรขนาดนั้น "ไม่ปกติครับ เพื่อนพี่มันมองเราตาเป็นมัน...หนูชอบหรอที่มีคนมองด้วยสายตาแทะโลมแบบนั้น" "ก็ไม่ชอบค่ะ" "งั้นก็อย่าแต่งตัวแบบนั้นอีก ที่นี่ไม่เหมือนที่บ้านที่หนูเคยจากมานะ" "ค่ะ ไม่เหมือนจริงๆ" เธอถอนหายใจก่อนจะผลักอกเขาเบาๆให้เขาออกไป "ดะ เดี๋ยวสิ" หมับ เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวเอาไว้แล้วดันให้อีกฝ่ายชิดผนังอีกฝั่ง "พี่จะทำอะไรคะ" "พี่เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ แค่อยากจะบอกว่าที่นี่อันตรายมาก อย่าแต่งตัวแบบนั้นออกไปอีก" "ค่ะ หมดธุระแล้วใช่ไหมคะ" "ครับ" "ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปได้แล้วค่ะ" "ก็ได้ๆ พี่ไปก็ได้ครับ" เขาก็ยอมออกไปแต่โดยดี "ไอ้คนบ้า ใครจะไปฟังคนแบบนี้กัน" เธอบ่นอุบอิบตามหลังไป แต่เขาก็คงไม่ได้ยิน หลายเดือนผ่านไป... ม่านฟ้ายังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่สิ่งที่กำลังจะไม่ปกติก็คือเธอรู้สึกว่ามีคนแอบมองเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเธอคิดไปเองแต่ความรู้สึกมันเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอพยายามสังเกตอยู่หลายครั้งแต่พอเธอหันไปมองก็ไม่มีอะไร จนพักหลังๆเธอไม่กล้าที่จะออกมาข้างนอกตอนดึกๆเลย ดึกคืนหนึ่ง ในขณะที่ม่านฟ้ากำลังนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นมีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก ก๊อก ก๊อก เธองัวเงียตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดก่อนจะลุกเปิดไฟที่หัวเตียง หญิงสาวมองนาฬิกาก็พบว่าปาเข้าไปเที่ยงคืนครึ่งแล้ว เธอคิดอยู่ในใจว่าใครกันนะที่มากวนเธอในยามวิกาลเช่นนี้ หญิงสาวไม่ได้ลุกไปเปิดประตูทันที เธอค่อยๆลุกไปเปิดไฟแล้วรอดูปฏิกิริยาด้านนอก ม่านฟ้าในชุดเดรสสีชมพูผ้าบางพริ้วปล่อยผมสบายตกถึงกลางหลัง เธอยังไม่ทันจะได้เดินไปเปิดประตู แต่เสียงนั่นก็ดังขึ้นอีก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะซ้ำดังขึ้น ม่านฟ้าจึงคิดว่าอาจจะเป็นใครที่มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า เธอจึงไม่ได้ถามก่อนทุกที แต่เปิดประตูออกไปเลย อุบบบบ "อื้อออ" เธอร้องอู้อี้ในลำคอแต่เสียงไม่สามารถเล็ดรอดออกมาได้ มือปริศนาปิดปากเธอเอาไว้ก่อนที่สติของเธอจะค่อยๆเลือนลาง... ห้องมืดสนิท... ม่านฟ้าถูกมัดมือไคว่หลังอยู่บนเตียง เธอไร้สิ้นสติ บุคคลลึกลับนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอกเหมือนรออะไรสักอย่าง Rrrrrrrr. เสียงโทรศัพท์ของบุคคลปริศนาดังขึ้น "ครับนายน้อย" " " "ได้ครับ" " " ปลายสายไม่รู้ว่าพูดอะไรบุคคลปริศนากดวางโทรศัพท์ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องที่มีม่านฟ้าถูกมัดอยู่ด้านใน "ตื่นๆ" "อื้ออออ" ม่านฟ้างัวเงียขึ้น เธอลืมตาก่อนจะพบว่ามีชายปริศนาใส่ผ้าคลุมหน้ากำลังยืนมองเธออยู่ "แกเป็นใคร" "ไม่ต้องรู้หรอกแม่สาวน้อย เดี๋ยวจะมีคนพาเธอไปขึ้นสวรรค์" "ไปไหน ฉันไม่ไป!" "เธอมาทำงานที่นี่เพื่อเป็นนางบำเรอไม่ใช่หรอ" "ก็ใช่ แต่ฉันไม่ไปกับพวกแกเด็ดขาด" "เล่นตัวซะด้วย" "ปล่อยฉันนะ!" "ถ้าเจ้านายฉันมา เธอจะเปลี่ยนใจแทบไม่ทันเลยล่ะ" "ถุ้ยยย" ม่านฟ้าพ่นน้ำลายใส่หน้าผู้ชายคนนั้นก่อนที่มันจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้า "แก!" เพลี๊ยะ!!! เสียงฝ่ามือฟาดลงที่แก้มนุ่มจนเป็นรอยสีแดงก่ำ "ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฮือออ" "เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย" "ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะแกอยากได้อะไรจะให้หมดเลย นะๆ" เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น "ไม่ต้องกลัวสาวน้อย" "ฮือออ" บรื้นนน!!! เสียงรถเเล่นเข้ามายังลานจอดรถ ชายชุดสีดำก้าวขาลงจากรถด้วยท่าทางที่องอาจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม