เธอไม่ได้โกรธเขาแต่เธออายที่เธอมาอยู่จุดนี้ต่างหากล่ะ ม่านฟ้านอนฟุบลงบนเตียงนุ่มก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลออกมาโดยไร้เสียงสะอึกสะอื้นใดๆ เธอเสียใจที่อนาคตของเธอมาถึงจุดที่ผู้คนเหยียบย่ำ ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี เธอมั่นใจแน่วแน่แล้วว่าชีวิตนี้จะไม่มีความรักเด็ดขาด เธอกลัวที่จะตกหลุมรักขุนพล แน่นอนว่าตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกดีกับเขาไปแล้ว และนั่นเอง...เธอถึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม!
"ลืมเขาไปซะม่านฟ้า เขาไม่มีทางมารักคนแบบเธอได้"
ม่านฟ้าปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆก่อนจะลุกขึ้นอาบน้ำเข้านอน เธอข่มตาเพื่อให้หลับไปโดยที่ไม่มีอะไรมาก่อกวนใจเธออีก
หลายวันต่อมา...
ม่านฟ้ายังคงอยู่ที่นี่โดยมีแม่บ้านส่วนกลางส่งข้าวส่งน้ำทุกๆ3เวลา เธอยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร ทำความคุ้นชินกับทุกคน ตั้งแต่วันนั้นเธอกับขุนพลก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีก แต่เธอก็ยังเจอเพื่อนของเขาบ้างตามตลาดหรือเวลาที่เธอออกไปวิ่งออกกำลังกาย และตั้งแต่เริ่มต้นที่เธอมาที่นี่จนถึงวันนี้ม่านฟ้าก็ยังไม่เคยได้รับแขกเลยสักครั้ง เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ก็ไม่ได้ถามใครออกไป
เธอกลับจากไปออกกำลังกายก่อนจะเดินผ่านบ้านพักของขุนพลและเพื่อนๆ หญิงสาวสวมชุดเข้ารูปเพื่อความสะดวกในการวิ่ง เสื้อที่รัดกุมและโชกไปด้วยเหงื่อ ผ้าพาดไหล่สีขาวถูกหยิบมาเช็ดหน้าเป็นระยะ จนเธอวิ่งมาถึงหน้าบ้านของสามหนุ่ม
"อ้าวน้องม่านฟ้า"
"สวัสดีค่ะ"
เธอหยุดสวัสดีทุกคน รวมถึงขุนพลด้วย เขามองมายังเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก หรือจะเป็นเพราะวันนั้นที่เธอไล่เขากลับแถมยังทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอีกด้วย
"ไปวิ่งมาหรอครับ" กันตะโกนถาม
"วันหลังชวนพี่ไปด้วยสิครับ" ทศเสริม
"ได้สิคะ"
ม่านฟ้ามองไปยังขุนทัพที่มองเธอนิ่งๆโดยไม่พูดอะไร
"ขี้เก๊กชะมัด"
"ว่าอะไรนะครับ"
"อ๋อเปล่าค่ะ ม่านฟ้าไปก่อนนะคะ บายค่ะพี่ๆ"
ม่านฟ้าโบกมือลาทุกคนก่อนจะวิ่งกลับไปยังบ้านพัก
สายตาแบบนั้นมันคืออะไรกันแน่นะ สายตาที่มองมาราวกับว่าเขากำลังตำหนิเธออยู่ในใจ เขาจะมาว่าเธอได้ยังไงกัน คงไม่ใช่หรอก ม่านฟ้าไล่สะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวก่อนจะเข้าบ้านไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น เธอเปลือยกายเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนจะจ้องมองตัวเองในกระจก อกอวบๆที่เกินวัยและสะโพกที่กำลังพอดี โชว์ตะหง่านอยู่เบื้องหน้า ม่านฟ้ามองตัวเองสะท้อนในกระจกและมองตัวเองด้วยความหลงใหล ผิวขาวจนแทบจะซีดนั้น แต่ยังคงมีความอวบอิ่มไม่น่าเกลียดไปเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับคนทั่วไปม่านฟ้าจัดฟ้าเป็นหญิงสาวที่สวยครบเครื่องเลยก็ว่าได้
"เธอจะไปฝันอะไรยัยม่านฟ้า เขาไม่มีทางมองเธอหรอก"
เธอไล่ความคิดออกจากหัวอีกครั้งก่อนจะรีบอาบน้ำ เธอสวมชุดเดรสสีขาวผ้าพริ้วบางก่อนจะมานั่งเล่นที่โซฟาเล็กๆในบ้าน ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก เธอมองจ้องไปยังประตูก่อนจะตะโกนถามออกไปว่า
"ใครคะ"
" " เงียบ
"ถามว่าใครคะ"
" " เงียบ
"ถ้าไม่บอกม่านฟ้าไม่เปิดนะคะ"
เธอเด็ดขาด ขืนเปิดออกไปแล้วเจอพวกบ้ากามจะทำยังไง ถึงตอนนั้นจะโทรหาท่านนายพลก็คงไม่ทันแล้ว
"พี่เอง" เสียงที่คุ้นหู เป็นขุนพลที่มาหาเธอจริงๆ
"พะ พี่มาทำไมคะ"
"เปิดประตูหน่อยสิ"
"มีธุระอะไรไหมคะ ม่านฟ้าเพลียอยากพักค่ะ"
"พี่คุยแป๊บเดียว ไม่นานครับ"
"งั้นก็ได้ค่ะ"
แอด...
"เข้ามาข้างในก่อนค่ะ"
" " ร่างสูงเข้ามาด้านในแล้วม่านฟ้าจึงปิดประตูลง
"มีอะไรก็ว่ามาค่ะ"
"ทำไมกลางวันแสกๆแบบนี้กลัวว่าพี่จะทำอะไรครับ"
"ไม่กลัวค่ะ"
"อย่างนี้สินะ ถ้ากลัวก็คงไม่แต่งตัวแบบนั้นออกไปสินะครับ"
"คะ? แบบไหน"
"ก็แบบที่หนูใส่ออกไปวิ่งเมื่อเช้าไง"
ชายหนุ่มยืนกอดอกมองคนตรงหน้านิ่งๆอย่างรอคำตอบ
"ปกติคนออกกำลังกายก็ใส่แบบนี้นี่คะ"
เธอเถียงต่อ ไม่เห็นว่ามันจะไม่เหมาะสมตรงไหนเพราะเธอก็ไม่ได้ใส่สั้นอะไรขนาดนั้น
"ไม่ปกติครับ เพื่อนพี่มันมองเราตาเป็นมัน...หนูชอบหรอที่มีคนมองด้วยสายตาแทะโลมแบบนั้น"
"ก็ไม่ชอบค่ะ"
"งั้นก็อย่าแต่งตัวแบบนั้นอีก ที่นี่ไม่เหมือนที่บ้านที่หนูเคยจากมานะ"
"ค่ะ ไม่เหมือนจริงๆ" เธอถอนหายใจก่อนจะผลักอกเขาเบาๆให้เขาออกไป
"ดะ เดี๋ยวสิ"
หมับ
เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวเอาไว้แล้วดันให้อีกฝ่ายชิดผนังอีกฝั่ง
"พี่จะทำอะไรคะ"
"พี่เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ แค่อยากจะบอกว่าที่นี่อันตรายมาก อย่าแต่งตัวแบบนั้นออกไปอีก"
"ค่ะ หมดธุระแล้วใช่ไหมคะ"
"ครับ"
"ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปได้แล้วค่ะ"
"ก็ได้ๆ พี่ไปก็ได้ครับ"
เขาก็ยอมออกไปแต่โดยดี
"ไอ้คนบ้า ใครจะไปฟังคนแบบนี้กัน"
เธอบ่นอุบอิบตามหลังไป แต่เขาก็คงไม่ได้ยิน
หลายเดือนผ่านไป...
ม่านฟ้ายังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่สิ่งที่กำลังจะไม่ปกติก็คือเธอรู้สึกว่ามีคนแอบมองเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเธอคิดไปเองแต่ความรู้สึกมันเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอพยายามสังเกตอยู่หลายครั้งแต่พอเธอหันไปมองก็ไม่มีอะไร จนพักหลังๆเธอไม่กล้าที่จะออกมาข้างนอกตอนดึกๆเลย
ดึกคืนหนึ่ง
ในขณะที่ม่านฟ้ากำลังนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นมีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก
ก๊อก ก๊อก
เธองัวเงียตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดก่อนจะลุกเปิดไฟที่หัวเตียง หญิงสาวมองนาฬิกาก็พบว่าปาเข้าไปเที่ยงคืนครึ่งแล้ว เธอคิดอยู่ในใจว่าใครกันนะที่มากวนเธอในยามวิกาลเช่นนี้ หญิงสาวไม่ได้ลุกไปเปิดประตูทันที เธอค่อยๆลุกไปเปิดไฟแล้วรอดูปฏิกิริยาด้านนอก ม่านฟ้าในชุดเดรสสีชมพูผ้าบางพริ้วปล่อยผมสบายตกถึงกลางหลัง เธอยังไม่ทันจะได้เดินไปเปิดประตู แต่เสียงนั่นก็ดังขึ้นอีก
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะซ้ำดังขึ้น ม่านฟ้าจึงคิดว่าอาจจะเป็นใครที่มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า เธอจึงไม่ได้ถามก่อนทุกที แต่เปิดประตูออกไปเลย
อุบบบบ
"อื้อออ"
เธอร้องอู้อี้ในลำคอแต่เสียงไม่สามารถเล็ดรอดออกมาได้ มือปริศนาปิดปากเธอเอาไว้ก่อนที่สติของเธอจะค่อยๆเลือนลาง...
ห้องมืดสนิท...
ม่านฟ้าถูกมัดมือไคว่หลังอยู่บนเตียง เธอไร้สิ้นสติ บุคคลลึกลับนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอกเหมือนรออะไรสักอย่าง
Rrrrrrrr.
เสียงโทรศัพท์ของบุคคลปริศนาดังขึ้น
"ครับนายน้อย"
" "
"ได้ครับ"
" "
ปลายสายไม่รู้ว่าพูดอะไรบุคคลปริศนากดวางโทรศัพท์ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องที่มีม่านฟ้าถูกมัดอยู่ด้านใน
"ตื่นๆ"
"อื้ออออ"
ม่านฟ้างัวเงียขึ้น เธอลืมตาก่อนจะพบว่ามีชายปริศนาใส่ผ้าคลุมหน้ากำลังยืนมองเธออยู่
"แกเป็นใคร"
"ไม่ต้องรู้หรอกแม่สาวน้อย เดี๋ยวจะมีคนพาเธอไปขึ้นสวรรค์"
"ไปไหน ฉันไม่ไป!"
"เธอมาทำงานที่นี่เพื่อเป็นนางบำเรอไม่ใช่หรอ"
"ก็ใช่ แต่ฉันไม่ไปกับพวกแกเด็ดขาด"
"เล่นตัวซะด้วย"
"ปล่อยฉันนะ!"
"ถ้าเจ้านายฉันมา เธอจะเปลี่ยนใจแทบไม่ทันเลยล่ะ"
"ถุ้ยยย"
ม่านฟ้าพ่นน้ำลายใส่หน้าผู้ชายคนนั้นก่อนที่มันจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
"แก!"
เพลี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือฟาดลงที่แก้มนุ่มจนเป็นรอยสีแดงก่ำ
"ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฮือออ"
"เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย"
"ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะแกอยากได้อะไรจะให้หมดเลย นะๆ" เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น
"ไม่ต้องกลัวสาวน้อย"
"ฮือออ"
บรื้นนน!!!
เสียงรถเเล่นเข้ามายังลานจอดรถ ชายชุดสีดำก้าวขาลงจากรถด้วยท่าทางที่องอาจ