แม่เลี้ยงไม่ใจร้าย

1144 คำ
การสอบวิชาสุดท้ายของนักเรียนสาขาวิชาการบัญชีจบลงในเวลาเที่ยง นักเรียนต่างพากันทยอยออกจากห้อง บางคนยิ้มแย้มเพราะตัวเองทำข้อสอบได้ดี บางคนก็หน้าตาห่อเหี่ยวเพราะทำข้อสอบได้ไม่ดีพอ นักเรียนที่ออกมาจากห้องแล้วก็พากันจับกลุ่มคุยถึงเรื่องข้อสอบรวมถึงการเรียนต่อในระดับปวส.หรือบางคนก็อยากจะไปต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยและก็มีบางคนที่หยุดเรียนเพียงแค่นี้ ตอนนี้ในห้องสอบเหลือนักเรียนอีกไม่กี่คนและหนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวที่ชื่อชมจันทร์ซึ่งกำลังทำข้อสอบข้อสุดท้ายอย่างตั้งใจ ก่อนจะเก็บดินสอและยางลบบนโต๊ะลงถุงซิปสีใสแล้วลุกขึ้นเพื่อเดินไปส่งกระดาษคำตอบที่อาจารย์คุมสอบหน้าห้อง ชมจันทร์มักจะออกห้องสอบเป็นคนสุดท้ายแบบนี้เสมอ เธออยากทำคะแนนดีๆ เพราะมันจะมีผลกับการขอทุนการศึกษา “ขอโทษนะบิว ปัท” ชมจันทร์บอกเพื่อนทั้งสองคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องสอบทั้งที่ออกมาก่อนหน้าแล้วเกือบ 20 นาที “ไม่เป็นไรเราสองคนชินแล้ว จันทร์ก็ออกห้องสอบคนสุดท้ายตลอดอยู่แล้ว” บิวหรือบุหลันตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง “เราจะไม่ไปฉลองด้วยกันหน่อยเหรอจันทร์อีกนานเลยกว่าจะได้เจอกันอีก” ปัทมาพรหรือปัทถามด้วยความเสียดายเพราะชมจันทร์บอกตั้งแต่เช้าแล้วว่าสอบเสร็จก็จะรีบกลับบ้านทันที “ขอโทษจริงๆ จันทร์ต้องรีบกลับ น้าพิกุลบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับเรา บางทีอาจเป็นเรื่องแม่” “นี่ยังไม่เลิกคิดตามหาแม่อีกเหรอ” ชมจันทร์ส่ายหน้า เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะตามหาแม่ให้เจอเพราะตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่รู้ว่าแม่ตัวเองเป็นใครและอยู่ที่ไหน หญิงสาวเคยถามบิดาแล้วแต่ท่านก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบจนกระทั่งท่านเสียชีวิตไปเมื่อหนึ่งปีก่อน “พวกเราจะได้เจอกันอีกทีตอนไหนล่ะ” “วันประกาศผลสอบดีไหม อาจารย์บอกให้พวกเรามาเตรียมตัวซ้อมรับประกาศนียบัตรด้วย” “จันทร์ไม่รู้ว่าจะมาได้หรือเปล่า” “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ ถ้าไม่มารับผลสอบบิวไม่ว่าอะไรหรอกแต่จันทร์ต้องมารับประกาศนียบัตรและก็ต้องมาถ่ายรูปด้วยกันนะ” “นั่นสิวันสำคัญแบบนั้นใครๆ ก็ต้องมา มาให้ได้นะจันทร์” “อือ” “แล้วเรื่องเรียนต่อล่ะเอายังไงกันดีเราจะเรียนต่อที่เดิมไหม” “จันทร์ว่าก็น่าจะเรียนต่อที่เดิมแหละแต่ต้องไปถามน้าพิกุลก่อนไม่รู้ว่าน้าพิกุลจะมีเงินส่งให้เรียนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องทำงานพิเศษและขอทุนจากโรงเรียน” “เงินที่ได้จากพ่อล่ะจันทร์หมดแล้วเหรอ” ปัทมาพรหมายถึงเงินที่ได้จากอุบัติเหตุซึ่งมันก็น่าจะมากพอสำหรับเป็นค่าเทอมของเพื่อน “น้าพิกุลบอกว่าก่อนตายพ่อสร้างนี่ไว้เยอะก็เลยไม่เหลือเงินเลย” “ตอนพ่ออยู่จันทร์ไม่เคยรู้เรื่องเป็นหนี้เลยเหรอ” “ไม่เลยเพราะพ่อไม่เคยบอกอะไรเราเลย แต่ก็อย่างว่าแหละพ่อป่วยตั้งสองสามเดือนค่าใช้จ่ายมันก็มาก” “แต่ตอนนั้นพ่อนอนโรงพยาบาลรัฐไม่ใช่เหรอจันทร์” “นอนโรงพยาบาลรัฐก็จริงแต่ค่ากินค่าอยู่เวลามาเฝ้าพ่อก็เยอะอยู่” “นั่นสินะ” บุหลันพยักหน้าแม้จะไม่ค่อยเห็นด้วยก็ตาม “จันทร์รีบไปก่อนนะเดี๋ยวจะไม่ทันรถเที่ยวบ่ายสาม” “แล้วของที่อยู่ที่หอล่ะป้าเจ้าของหอบอกว่าจันทร์ขนออกหมดแล้ว” “อือ จันทร์ขนออกหมดแต่ฝากไว้ที่ห้องเก็บของก่อน” “เอาของไปฝากไว้ที่บ้านปัทดีไหม เพราะเดี๋ยวพ่อปัทก็เอารถมาขนของกลับอยู่ดี พอเปิดเทอมก็ค่อยขนมาพร้อมกัน” “แต่จันทร์เกรงใจ” “ไม่ต้องเกรงใจเลย ของเราสองคนใส่หลังรถกระบะไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ” “เดี๋ยวบิวจะช่วยปัทเอาขึ้นรถเอง จันทร์ไม่ต้องห่วงนะ” “ขอบใจทั้งสองคนมากนะ” “เดินทางปลอดภัยนะจันทร์ถึงแล้วอย่าลืมไลน์มาบอกแล้วก็ห้ามขาดการติดต่อเด็ดขาด” “อือ แล้วเราจะติดต่อมาบ่อยๆ บ๊ายบายนะ ปัท บิว” ชมจันทร์โบกมือให้เพื่อนก่อนจะเดินกลับมาที่หอพักหลังโรงเรียน เธอขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นอีกส่วนหนึ่งลงกระเป๋าเป้ก่อนจะกระโดดขึ้นรถสองแถวและตรงไปยังท่ารถซึ่งเธอมาได้ทันเวลารถออกพอดี บ้านของชมจันทร์อยู่อีกอำเภอหนึ่งใช้ระยะเวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมงก็ถึงบ้านหลังเล็กที่เธอเคยอาศัยอยู่กับบิดาตั้งแต่จำความ แต่ตอนนี้เหลือแค่เธอกับน้าพิกุลแม่เลี้ยงเท่านั้น “อ้าว มาแล้วเหรอจันทร์” “สวัสดีค่ะน้าพิกุล วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” “น้าไปทำกับข้าวให้คนงานมาแล้วพอเสร็จก็รีบกลับมาทำกับข้าวรอจันทร์นี่แหละ กินอะไรมาหรือยัง” “จันทร์กินขนมปังมาบ้างแล้วค่ะ น้าพิกุลทำอะไรกินคะ” “น้าทำแกงไตปลากับขนมจีน” “ขอบคุณนะคะ ของชอบของจันทร์เลยค่ะ” “ไปล้างหน้าล้างตัวให้เรียบร้อยแล้วค่อยมานั่งกินด้วยกันนะ” “ค่ะน้า” ชมจันทร์รีบเอากระเป๋าเก็บก่อนจะอาบน้ำล้างหน้าและออกมาทานขนมจีนแกงไตปลาของโปรดที่น้าพิกุลทำไว้รอ “ขอบคุณค่ะ แกงไตปลาของน้าพิกุลอร่อยที่สุดเลยค่ะ จันทร์กินฝีมือใครก็ไม่อร่อยเท่าน้าพิกุลทำเลยค่ะ” ชมจันทร์ทานไปยิ้มไปด้วยความเอร็ดอร่อย แม้ว่าน้าพิกุลจะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่เขาก็ดีกับเธอในระดับหนึ่งไม่เหมือนกับแม่เลี้ยงใจร้ายที่เคยเห็นในทีวีและเวลาที่บิดาเธอป่วยน้าพิกุลก็ดูแลท่านอย่างดีจนถึงวาระสุดท้าย ทำให้ชมจันทร์รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ในวาระสุดท้ายของบิดาท่านไม่ได้เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว “อร่อยก็ต้องกินเยอะๆ น้าว่าเราผอมไปนิด” “ก็กับข้าวในเมืองไม่ค่อยอร่อยนี่คะแล้วก็แพงมากด้วยสู้ฝีมือน้าพิกุลไม่ได้สักนิด” “กลับมาอยู่บ้านครั้งนี้น้าจะทำของโปรดกินบ่อยๆ เลยดีไหม” “ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ น้าพิกุลใจดีที่สุดเลยค่ะ” ชมจันทร์ยิ้มจนตาหยี ตั้งแต่บิดาจากไปเธอก็มีน้าพิกุลคอยดูแลมาตลอดหนึ่งปี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม