เริ่มงานอย่างเเรก

1225 คำ
หลังจากรับประทานอาหารในห้องครัวร่วมกับคนงานในบ้านเสร็จ ลูกส้มก็เดินกลับมายังห้องนอนของตัวเอง เพราะเสี่ยอำนาจบอกว่าวันนี้ให้เธอพักผ่อนเสียก่อน ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เปิดประตูห้องเข้าไป เสียงเข้มก็สั่งออกมา “ไปอาบน้ำให้ฉันด้วย” คนถูกสั่งหันขวับไปยังทิศทางของเสียง ก็พบว่าเจ้าของเสียงกำลังเข็นวีลแชร์ของตัวเองเข้าไปในห้อง “คนบ้านนี้นี่ยังไงนะ พูดจบก็ไปไม่คิดจะรอฟังคนอื่นพูดบ้างเลยหรือไง” บ่นกระปอดกระแปดออกมา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ยอมเดินไปยังห้องที่เปิดประตูรอเสียเมื่อไหร่ “เอ่อ อาบน้ำยังไงคะ” เอ่ยถามออกไปไม่เต็มเสียงนัก เมื่อคนที่บอกว่าให้มาอาบน้ำ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาหลังจากที่เธอเดินเข้ามายืนหมุนซ้ายหมุนขวาอยู่กลางห้องนานหลายนาที ใบหน้าคมคายที่มีไรหนวดขึ้นประปรายถมึงทึงแทบจะลุกจากวีลแชร์เข้ามากัดคอเธอ สายตาคมที่หากได้เผลอสบตายามใด ก็ทำให้ลูกส้มแทบขาดใจตายทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ “ไม่เคยอาบน้ำหรือไง เข็นฉันไปเข้าห้องน้ำสิ ยัยอ้วน” เอ้า! คำก็อ้วน สองคำก็อ้วน อ้วนแล้วมันผิดตรงไหนล่ะ สงสัยจะชอบผู้หญิงรูปร่างผอมบางพิมพ์นิยมสินะ ถึงได้ว่าเธออ้วนดีจัง ไม่รู้หรือไงยะ ว่าคนเจ้าเนื้ออย่างเธอนี่แหละน่ารักจะตาย จับตรงไหนก็มีแต่เนื้อไม่ใช่กระดูก “ค่ะ เข็นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ร้องรับออกไปอย่างหมั่นไส้อยู่ในที กำลังจะเดินเข้าไปเข็นวีลแชร์ ทว่าคนเจ้าอารมณ์กดปุ่มพาวีลแชร์ไปยังหน้าห้องน้ำหน้าตาเฉย “มาเปิดประตูสิ จะยืนนิ่งเป็นหลักกิโลอยู่นั่นหรือไง นี่ป๊าคิดถูกหรือผิดนะที่เอาคนซื่อบื้ออย่างเธอมาดูแลฉัน ดีไม่ดีฉันจะได้ดูแลเธอมากกว่า ภาระชัดๆ” คำนี้ควรเป็นเธอที่พูดหรือเปล่านะ ที่บอกว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ต้องมาดูแลคนอย่างเขา และใครกันที่เป็นภาระ ไม่ใช่เธอแน่นอน จะมาดูแลเธอ ดูแลตัวเองด้วยการอาบน้ำให้ได้ก่อนเถอะย่ะ ปกติเธอจะรู้สึกสงสารและเห็นใจอยากช่วยเหลือคนที่เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่พอเป็นผู้ชายปากร้ายคนนี้ เธออยากจะเอามือผลักให้ตกรถเลยด้วยซ้ำ ยิ่งคิดยิ่งพานหงุดหงิดแต่ต้องพยายามข่มอารมณ์ไว้ เดินมาเปิดประตูห้องน้ำให้คนเจ้าอารมณ์ที่นั่งหน้าบึ้งรออยู่ อัทธ์บังคับให้วีลแชร์เข้าไปในห้องน้ำอย่างคล่องแคล่ว หมุนให้วีลแชร์หันหน้าออกทางประตู และจอดเทียบข้างกับเก้าอี้ทำขึ้นพิเศษ ไว้สำหรับนั่งอาบน้ำ “เธอมาปลดล็อกด้านข้างนี้ลง” “ค่ะ” ลูกส้มทำตามที่อีกคนบอกด้วยความเร็ว หากช้ากลัวชายหนุ่มจะอาละวาดใส่ “จับเท้าฉันวางลงกับพื้น” อัทธ์บอกวิธีการให้หญิงสาวอีกครั้ง ลูกส้มก็รีบทำตามเช่นกัน “มายืนตรงหน้าฉันนี่” ขยับตามไปเว้นระยะไว้พอสมควร “เข้ามาอีก ไกลขนาดนั้นเธอจะพยุงฉันได้ยังไง” “ค่ะ” ขยับเข้าใกล้อีกนิด แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ดั่งใจ อัทธ์จึงกระชากมือลูกส้มเข้ามาเสียเอง ทำให้ลูกส้มถึงกับเซไปเพราะไม่ทันได้ระวังตัว ร่างอวบอิ่มเสียหลักล้มทับลงบนตัวของอัทธ์ ริมฝีปากของคนทั้งคู่สัมผัสกันและกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ วงแขนแกร่งโอบรัดหญิงสาวไว้ตามสัญชาตญาณ ลูกส้มถึงกับตาเบิกกว้างเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้เกิดขึ้น ใบหน้าของหญิงสาวเห่อร้อนตัวแข็งทื่อราวกับถูกไฟซ็อตจนขยับไม่ได้ อัทธ์ที่มีสติครบถ้วนไม่ได้ตื่นตระหนกดั่งหญิงสาว ถึงกับแอบคิดในใจว่าลูกส้มกำลังยั่วเขาอย่างสุดชีวิต คงอยากได้เขาจนตัวสั่นสินะ ถึงได้ลงทุนทำถึงขนาดนี้ ไหนๆ เธอก็ยอมลงทุนทำขนาดนี้แล้ว เขาจะใจร้ายได้อย่างไรกัน ลิ้นสากที่ซุกซ่อนในโพรงปากหนา เริ่มซุกไซ้ควานหารสชาติแปลกใหม่ สอดแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่นชื้นที่เผยอขึ้นเพราะตกใจ ความหวานเมื่อได้สัมผัสปลายลิ้นเล็กของหญิงสาว ติดตรึงอยู่ปลายลิ้นจนอยากชิมมากขึ้นอีกสักหน่อย จึงเริ่มจู่โจมโรมรันลิ้นเล็กของหญิงสาวราวกับจะดูดกลืนวิญญาณของอีกคน ส่วนคนที่ถูกขโมยจูบแรกไปแบบหน้าด้านๆ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นกระดอนออกมาเสียอย่างนั้น อยากจะผลักไสหรือขยับตัวออกห่าง แต่เหมือนร่างกายจะหนักอึ้งจนขยับไม่ได้ แม้แต่มือจะผลักชายหนุ่มออกไกลยังยกไม่ขึ้น ได้แต่รับสัมผัสแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบพานมาก่อน ความร้อนรุ่มแผ่กระจายไปทั่วร่างชวนวาบหวาม ขนอ่อนในร่างกายลุกชูชันกับสิ่งที่เพิ่งเจอ อุณหภูมิร่างกายเหมือนกำลังทำงานผิดปกติร้อนๆ หนาวๆ จนสั่นสะท้านในบางครั้ง สมองก็เหมือนจะหยุดทำงาน คิดอะไรไม่ออก มีแต่สีขาวอยู่เต็มไปหมด ได้แต่ยินยอมให้ชายแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันเพียงหนึ่งวัน ตักตวงความหวานอย่างดูดดื่ม มิหนำซ้ำเธอยังใจกล้าจูบตอบกลับไปเสียด้วยซ้ำ บ้าจริง นี่ร่างกายของเธอเป็นอะไรกัน อัทธ์คงปฏิเสธได้ไม่เต็มปากว่าหญิงสาวที่ตัวเองเรียกว่าอ้วนและแก้มซาลาเปาคนนี้ไม่ได้เรื่อง เพราะเธอซ่อนความหวานไว้ภายใต้จุมพิตที่เขามอบให้ ความหวานที่ติดอยู่ปลายลิ้นจนไม่อยากถอดถอนริมฝีปากออกห่าง อยากตักตวงความหวานจากโพรงปากชื้นอยู่อย่างนี้ และอยากจะทำมากกว่าจูบเสียด้วยซ้ำ เพราะบางสิ่งบางอย่างที่หลับใหลอยู่ภายใต้กางเกงขายาวเนื้อดี กำลังตื่นตัวขึ้นมา “อื้อ...” ลูกส้มที่ถูกจูบเอาจูบเอา ร้องประท้วงออกมา เหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ มือบางที่เคยหนักอึ้งตีลงบนบ่าแกร่งลงไป สุดท้ายอัทธ์ก็ต้องยอมผละริมฝีปากออก แม้ใจจริงจะไม่อยากหยุดก็ตาม เมื่อเป็นอิสระลูกส้มจึงรีบผละตัวออกห่าง พลางสูดเอาอากาศที่อีกคนสูบออกไปจากร่างกายเข้าไปทั้งทางปากและจมูกพร้อมกัน “ถูกจูบแค่นี้ทำเหมือนจะตาย” แม้รสชาติจุมพิตจะหวานหอมเพียงใด แต่เมื่อเห็นแก้มยุ้ยสองข้างดั่งซาลาเปาที่มีสีแดงพาดผ่านก็อดไม่ได้ที่จะพูดเหน็บออกไป เพื่อกลบเกลื่อนคำว่าเอ็นดูที่อยู่ดีๆ ก็ผุดขึ้นมา “ก็ฉันไม่...คุณฉวยโอกาส” อยากจะบอกว่าไม่เคยก็กลัวจะถูกล้อเข้าให้ เลยเปลี่ยนเป็นต่อว่าออกไป แต่คนถูกต่อว่ากลับไม่ได้ยี่หระในคำพูดนั้น “มาถอดเสื้อผ้าให้ฉัน ฉันจะอาบน้ำ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม