พอเลิกงานปุ๊บ เธอรีบออกจากบริษัทปั๊บ เพราะรู้สึกเหนื่อยเต็มที กับการต้องรับรู้พฤติกรรมมั่วผู้ชายของตัวเอง เมื่อเปิดประตูเข้าห้อง จากสีหน้าเซ็งๆ ก็กลายเป็นตื่นตระหนกแทน
“ห๊า...นี่นายยังอยู่เหรอ!!!”
ผีหนุ่มนั่งอยู่ที่โซฟา ทำราวกับเป็นบ้านของตัวเอง และกำลังดูทีวีอยู่อย่างนั้น ทั้งที่มันปิดอยู่
“โอ๊ย! ฉันจะทำยังไงกับนายดีเนี่ย????”
เช่นเคย เขาหันมามองเธอแล้วยิ้มให้นิดๆ แต่ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
“นายเป็นใคร? มาจากไหน? แล้วต้องการอะไรจากฉันกันแน่? บอกมาตรงๆเลยดีกว่า หรือว่าอยากให้ฉันทำบุญให้ ถ้าอยากก็พยักหน้าสิ นะ ได้โปรด อย่าทำให้ฉันปวดหัวไปมากกว่านี้เลย”
ผีบ้าของเธอลุกขึ้นยืน ด้วยสภาพล่อนจ้อนเหมือนเดิม หนอนยักษ์ชูล่อนไปมาอย่างน่าเกลียด ทำเธอหัวใจแทบวาย รีบหันไปทางอื่นแทบไม่ทัน
“สิ่งแรกที่นายอยากได้คงเป็นเสื้อผ้าสินะ ได้ๆ ฉันจะทำบุญไปให้นะ”
วินาทีนั้น เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง
“เอ๊ะ!....” ด้วยความตกใจปนสงสัย เธอก้มลงมองด้านล่าง ถึงได้เห็นว่าเจ้าผีบ้ากำลังจะทำหื่นกับเธออีกแล้ว “โอวววว...อย่านะ...อย่าซี”
ผีบ้านั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ กอดรัดสองขาของเธอไว้ ใบหน้านั้นพยายามมุดเข้าไปตรงเนินอิ่มกลางลำตัวของเธอ
“อุ๊ย! นายจะทำบ้าอะไรอีกแล้ว ไอ้ผีหื่น” เธอดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ ทว่า มันกลับยิ่งรัดกายเธอแน่นเข้าไปอีก “อร๊ายยยย นี่ ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้”
“อื้อ...” ยิ่งตวาด ยิ่งด่า เขากลับยิ่งมุดเข้าไป ชอนไชจมูกเข้าฝังส่วนซอกอย่างกระหาย ก่อนบดขยี้อย่างไม่ปราณี ทำเอาเธอเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว “อุ๊ย...อา....อื้อ อย่าน่า”
เขาไม่ฟัง กลับสอดมือเข้าไปในกระโปรงของหญิงสาว แล้วใช้ปลายนวดคลึงส่วนนั้นของเธออย่างชำนาญ เธอรู้สึกกับมันได้ราวกับเป็นของจริง มันช่างเป็นจินตนาการที่ล้ำเลิศอะไรเช่นนี้
“โอววว...” เธอหลับตาพริ้ม ยามนิ้วชี้สอดเข้าใต้กางเกงในลูกไม้สุดเซ็กซี่แล้วชอนไชขยี้จุดเสียวจนชุ่มโชก เธอรู้สึกเร่าร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผาในวินาทีนั้นเอง และเหมือนถูกผีสิง เธอจัดการถอดกางเกงในออกเสียเองโดยไม่ต้องให้ใครขอ “อืม...ฉัน...ฉัน...”
เจ้าผีบ้าลุกขึ้นยืน แล้วสวมกอดเธอแนบแน่น จากนั้นก็ประกบจูบเธออย่างดูดดื่ม เร่าร้อน ชอนไชลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากของเธอแล้วเคี้ยวลิ้นอุ่นของเธออย่างกระหาย เธอลืมทุกอย่าง ลืมว่ากำลังจะร่วมรักกับผีอีกครั้ง ด้วยความเต็มใจ
“อื้อ....” เธอจูบตอบเขา อย่างตะกระตะกราม ยามตวัดลิ้นพันพัวก็เลื่อนมือลงจับท่อนลำขนาดยักษ์ของเขา ซึ่งกำลังผงาดเต็มที่ “อื้มมมม..อ้า...ทำไมมันเหมือนจริงอย่างนี้นะ”
เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ กระทั่งเขาลากเธอเข้าห้องนอน ผลักเธอลงบนเตียงนุ่ม แล้วเข้าจู่โจมกอดปล้ำเธอไม่หยุด เธอร้อนจนอ่อนระทวยไปทั้งตัว ไม่ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือจินตนาการบ้าบอของเธอ หรือเป็นแค่การหลอกตัวเองว่ามีผู้ชายอยู่บนเตียงด้วยจริงๆ
แต่เธอก็มีความสุขและฟินจนตัวสั่นไปหมด
“โอ้วววว...” เธอซี๊ดปากลั่น ราวกับกินของเผ็ดสุดแซ่บเข้าไปอย่างนั้น นั่นเพราะเจ้าผีบ้าทำทะเล้นด้วยการมุดหน้าเข้าไปในหว่างขาของเธอ แล้วตวัดลิ้นสากเลยไล้ไปทั่วเนินหนั่นและซอกสวย “อ้า...นายมันทั้งบ้าทั้งหื่นเลยจริงๆ โอวววววว ซี๊ดดดดด”
เธอบิดกายไปมาราวกับเจ็บปวดทรมานสุดๆ หากรู้ดีว่าความทรมานนั้นคือความสุขสะพรั่งที่แสนหฤหรรษ์
“โอ๊ะ....โอ๊ย อูยยยย” เธอตัวสั่นระริก ยามท่อนลำขนาดยักษ์ยัดเข้าสู่ภายในของเธอจนมิดชิด เธอสะดุ้งไปหลายครั้งขณะที่มันเคลื่อนขยับ ดิ้นดุเดือดในซอกสวาทของเธอราวกับหนอนจอมซน “วู๊ยยยย โอ้วววว ทำไมมันดีอย่างนี้นะ...ไอ้ผีหื่น นายมันบ้าที่สุดเลย”
ความบ้าและหื่นที่เขาบรรจงมอบให้เธอ ทำให้เธอเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปทั้งตัว กระนั้น ความสุขสมอุราก็ล้นเอ่อ เหนอะ นอง ผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำหวานแห่งรสสวาท
เธอเสพเซ็กส์อันเร่าร้อน รุนแรง และอ่อนโยนระคนกันจากเจ้าผีหื่นหน้าหล่อแทบทั้งคืนจนลืมนอน ลืมเหนื่อย
“ทำไมนายทำกับฉันอย่างนี้” มณีรินนอนเปลือยกายบนเตียงอย่างอิ่มสุข ขณะเจ้าผีบ้าได้หายไปจากตรงนี้แล้ว หากเป็นมนุษย์ เขาอาจจะออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง หรือไม่ก็ไปหาน้ำดื่มในห้องครัว “นายทำให้ฉันไม่ได้นอน นายมันบ้าที่สุด”
เธอลุกขึ้นนั่ง สำรวจร่างกายเล็กน้อย ร่อยรอยที่ถูกผีจูบบ้างดูดบ้าง กลายเป็นรอยจ้ำแดงทั่วตัว เขาทำรุนแรงกับเธอเหลือเกิน แต่มันก็ทำให้เธอพอใจจนรู้สึกอายผีเหมือนกัน
“ไม่อยากจะเชื่อเลย...ว่าฉันจะ...มีเซ็กส์กับผี”
เธอลงจากเตียง ออกจากห้องนอน ตั้งใจจะไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่มเสียหน่อย หากแล้วก็ต้องหยุดเสียที่ห้องรับแขก เพราะพ่อเจ้าประคูณที่หายไปจากเตียง ดันมานั่งอ่านหนังสือที่โซฟาหน้าทีวี!
“ว๊าย...ยังอยู่เหรอ???”