เขาคือใครกันแน่

961 คำ
“คุณยุทธนาคะ คือฉันว่า...” “คุณแก้วภรรยาผม เธอให้ธนินทร์มาเป็นเลขาผม ช่วงที่คุณนอนอยู่โรงพยาบาล เขาทำงานเก่งนะ คุณแก้วเลยอยากให้เขาทำต่อ แต่ผมยืนยันว่าคุณเป็นงานและทำงานเก่งที่สุด” “ฉันเลยได้ทำงานต่ออย่างนั้นหรือคะ” “และคุณรู้ใจผมที่สุดไง” “แบบนี้ ภรรยาของเจ้านายจะเกลียดขี้หน้าฉันเอาได้นะคะ” “ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ ภรรยาผมรู้ข้อนี้ดี เธอไว้ใจผมที่สุด ริน...ผมยุ่งกับคุณคนเดียวเท่านั้นนะ เพราะคุณไม่ได้ต้องการผูกมัดเหมือนผู้หญิงคนอื่น คุณแค่อยากจะสนุกกับผม” “เฮ้อ...เธอไว้ใจคนผิดสินะคะ” เธอทิ้งสายตาเย้ยเยาะใส่เจ้านาย แล้วรีบเดินออกจากห้องเขาซะ ก่อนที่เขาจะอดใจไม่ไหว คว้าเธอไปกอดปล้ำจนช้ำชอก เธอรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย ที่รู้ว่าตัวเองยอมนอนกับเจ้านายเพราะแค่อยากสนุก ไม่ได้อยากเลื่อนตำแหน่ง “ไม่อยากเชื่อเลย...ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ มณีริน เธอไม่ใช่เมียน้อย แต่ก็ทำตัวไม่ต่างจากนางบำเรอ!!!” เธอเดินออกจากส่วนของออฟฟิศอย่างเซ็งๆ เข้าไปในครัวเพื่อจะชงกาแฟดื่มดับความเครียดซะหน่อย แต่แล้ว เธอกลับต้องเครียดต่อเนื่องแบบนอลสต๊อปกันไปเลย “ริน...” เสียงหนึ่งกระซิบที่ข้างหูเธอ แผ่วเบา เย้ายั่ว ก่อนเธอจะตกใจหันไปป๊ะหน้ากับเขา...ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในแผนกไอทีของบริษัท หนุ่มแน่นวัยยี่สิบแปดใกล้เคียงกับเธอ “ผมเป็นห่วงคุณแทบแย่เลย ตอนรู้ข่าวคุณ คุณโอเคแล้วใช่มั้ย?” เธอไม่โอเค...เธออ้าปากค้าง สูดลมหายใจลึกยาว แล้วขยับถอยห่างจากเขาหนึ่งก้าว “อ่อ...อืม...ฉันโอเคแล้ว” “คุณเปลี่ยนเบอร์ใหม่เหรอ?” “อืม...จ๊ะ...พอดีโทรศัพท์เครื่องเก่ามันหายไป ฉันเลยตัดสินใจเปลี่ยนทั้งเครื่องเปลี่ยนทั้งเบอร์ใหม่เลยดีกว่า คุณ...” เธอพยายามนึกชื่อเขาให้ออก จากการนำหนังสือทำเนียบบุคลากรในบริษัทไปท่องจำชื่อและหน้าตาของทุกคนที่คอนโดอยู่สามวันเต็ม ๆ แต่ก็เหลว เธอจำไม่ได้ว่าตานี่ชื่ออะไรน่ะสิ “เอ่อ...คือ...ปวดหัวจัง” “ปวดหัวเหรอริน!” เขามีสีหน้าตกตื่น ก่อนจะยกมือไปแตะแต้มที่หน้าผากเธอเพื่อเช็คอาการ แต่เธอหลบทันหวุดหวิด “หรือว่าไม่สบาย” “เปล่าๆ ฉันแค่เครียดๆเรื่องงานน่ะ เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะ” “เดี๋ยวสิริน” เขาหันมองซ้ายขวา ก่อนกระซิบกระซาบกับเธออีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แววตาเจ้าเล่ห์ “ครั้งหลังสุด คุณลืมกางเกงในไว้ในรถผม...เห็นว่าเป็นตัวโปรดซะด้วยสิ ผมก็เลยเก็บไว้ให้อย่างดีเลยนะ เย็นนี้ไปห้องผมนะริน ไปทบทวนความจำกันหน่อย” ทบทวนความจำ? เธออึ้งไปอึดใจหนึ่ง...ตานี่ก็ด้วยเหรอ? “เอ่อ...พอดีเย็นนี้ ฉันมีนัดกับเพื่อนน่ะ ไม่ว่างจริงๆ ขอโทษด้วยนะ อืมฉัน...งานยุ่งมากเลยอ่ะ ขอตัวไปเคลียร์งานก่อนนะ” เธอวางถ้วยกาเฟไว้บนเคาน์เตอร์เพราะรู้สึกกลืนมันไม่ลงแล้วน่ะสิ “บ๊าย” “เดี๋ยวสิ...ยังไม่ได้เบอร์เลย” หญิงสาวยิ้มไม่เต็มปาก ก็ได้ เธอยื่นโทรศัพท์ให้เขา “เมมให้ด้วยสิ” “หึ ๆ ทำเป็นเล่นตัว ทั้งที่คิดถึงผม อยากเจอผมจะตายชัก” เขาเมมชื่อเสร็จเรียบร้อย กดโทรเข้าเครื่องตัวเอง แล้วยื่นกลับให้เธออย่างอารมณ์ดี “อย่าลืมโทรมานะ” เธอไม่ได้รับปากนายชานนท์ แค่ยิ้มแค่นๆ แล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน ด้วยใบหน้าเซียวซีด ปวดขมับตุบ ๆ “นี่ฉันเป็นคนยังไงเนี่ย...เจ้านาย แล้วนายชานนท์คนนี้ด้วย” ถึงตาคนนี้จะดูดีมีสไตล์ ประเภทหนุ่มแบดบอยที่ทรงเสน่ห์เก๋กู๊ด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาเลย เพราะดูเหมือนว่าเธอกับเขาก็นอนกันเล่นๆเหมือนกัน “อยากจะบ้า หมายความว่าฉัน...มั่วเหรอ?” เธอคิดไม่ตก และไม่อยากจะคิดเลยว่า เธอเคยกินกับผู้ชายในบริษัทนี้ไปกี่คนแล้ว และมีใครบ้างที่อยู่ในลิสของเธอ!!! มณีรินหันมองรอบกาย เพื่อจะสังเกตผู้ชายในออฟฟิศ ว่ามีใครที่เข้าข่ายที่เธอเคยนอนด้วยบ้าง และแล้ว ไม่ถึงนาที เธอก็หันไปเจอกับสายตาของใครคนหนึ่งเข้า เขากำลังจ้องมาทางเธอพอดี ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ!!! “อย่าบอกนะ....” คุณอนุชินจ้องเธอตาเป็นมันทีเดียว ราวกับกำลังส่งสายตาบอกเธอว่าเรารู้กันนะ ชายวัยสามสิบห้า หน้าตาหล่อเหลา มีเครานิดๆ หุ่นล่ำสุดสมาร์ทที่สาวๆคลั่งใคล้ทั้งบริษัท...มันคงจะดีนะ ถ้าเขาไม่ได้มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ซึ่งเธอคนนั้นก็เป็นลูกสาวของเจ้านาย!!! “อุ๊บ! เขาด้วยเหรอ...ตาย...นี่...ไม่ใช่ว่าฉันกินเรียบทั้งบริษัทจริงๆ หรอกนะ บางทีเป็นเพราะฉันอึ๋ม ดูเซ็กซี่ เขาเลยมองแบบนั้น เหมือนผู้ชายทั่วไป....เฮ้อ...ฉันมันโคตรร่านเลย” เธอปลอบตัวเอง แต่ก็ยอมแพ้ในที่สุด เธอเชื่อว่าสายตาแบบนั้นมีความนัยน์อย่างแน่นอน เธอยกมือขึ้นกุมขมับ ต่อมความเครียดใกล้ระเบิดเต็มที “ทำไมฉันเป็นคนแบบนี้ ฉันใช้ชีวิตแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน ตั้งแต่ที่ฉันมาทำงานที่บริษัทนี้เหรอ” แล้วเธอจะถามใครดี? ใครจะให้คำตอบเธอได้? ความจำช่วยกลับมาเร็วๆหน่อยสิโว๊ย เธอจะบ้าตายอยู่แล้ว!!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม