"พูดซะยืดยาว เธอชื่ออะไร"
เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยถามชื่อคู่นอน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่สนใจถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนาม ชนิดที่ว่าขึ้นมาปุ๊บก็จับกระแทกไม่จูบ ไม่โลมเล้า เอาๆ ให้เสร็จเท่านั้นพอ แต่ยัยเด็กฉอเลาะตรงหน้าทำให้เจ้าของแบทบาร์อย่างเขาอยากทำความรู้จัก
"หนูชื่อ ลิลลี่ค่ะ"
"แล้วยัยหอยเลี่ยมทอง เพื่อนของเธอล่ะ ชื่ออะไร"
"พิมมี่ พิมพ์อัปสร เสี้ยวสกุล...ค่ะ"
"มีรูปไหม?"
"มีค่ะเฮีย"
สาวน้อยลิลลี่ หยิบเสื้อคลุมมาสวมร่างเปลือย ก่อนจะลุกจากเตียงกว้างแล้วเดินตรงไปยังกระเป๋าที่วางอยู่บนแท่นอ่างล้างหน้าในห้องน้ำหรู จากนั้นก็ออกมาพร้อมโทรศัพท์มือถือ
"นี่ค่ะเฮีย"
ภาพของสาวน้อยที่กำลังยิ้มสดใสให้กับเพื่อนๆ ถูกส่งให้เบตงดู เขารับโทรศัพท์จากมือคู่นอนชั่วคราวมาถือไว้ ก่อนจะเหลือบไปมองภาพที่ปรากฏในหน้าจอ ดวงตาคมจ้องมองภาพ ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ เพราะสาวน้อยใบหน้าเกลี้ยงเกลาสดใส ไม่ใช่สเปคที่ถูกใจเขาเลยสักนิด แบบนี้มันจะคุ้มค่ากับเงิน 5แสนของเขาได้อย่างไร
"เฮ้อ! ใสเกิ้น...จะเอาแรงที่ไหนมาสู้ศึกใหญ่ ส่งเข้ามาในเครื่องของฉัน ขอฉันคิดดูก่อนแล้วกันว่าจะช่วยยังไง"
"แต่หนูไม่มีเบอร์เฮีย"
"ทักแชทมาเดี๋ยวฉันรับเป็นเพื่อน"
"จริงเหรอคะเฮีย"
"ดีใจอะไรขนาดนั้น ฉันให้ทักมาส่งรูป เสร็จแล้วก็ลบเพื่อนด้วย"
"โธ่เฮีย รับหนูไว้เป็นเด็กเฮียบ้างไม่ได้เหรอคะ หนูเลี้ยงง่ายนะ ไม่เรื่องมากกับเฮียหรอก"
"เสร็จธุระแล้วก็ออกไปได้แล้ว ฉันมีงานต้องทำต่อ อย่าสร้างความรำคาญให้ฉัน"
"เฮียนี่ใจแข็งจังนะคะ หนูอยากรู้จังว่าผู้หญิงคนไหน ที่จะได้หัวใจเฮีย หนูไปแล้วนะคะขอบคุณสำหรับค่าขนม ถ้ามีอะไรเรียกใช้หนูได้นะคะ หนูรับจ๊อบนั่งดริ้งก์ที่ผับเฮียทุกวัน และถ้าเฮียจะเมตตาก็ช่วยพิจารณาเพื่อนของหนูเป็นพิเศษด้วยนะคะ"
"อย่าพูดมาก รีบออกไป"
สาวน้อยรีบเข้าไปแต่งตัวและออกจากห้องของเบตงไปทันที เมื่อเขาแสดงสีหน้าบอกว่ารำคาญออกมาอย่างชัดเจน เขาเย็นชาเกินกว่าจะเร้าหรือ ถ้ายิ่งตามตื๊อเขาจะยิ่งผลักไส ทางที่ดีควรทำตามที่เขาบอก จะได้ไม่ถึงขั้นต้องโดนไล่ออกจากงานที่ทำอยู่
ร่างสูงเดินมานั่งลงที่บาร์เครื่องดื่ม ภายในผับหรูใจกลางเมือง ภายในผับตระการตาไปด้วยไฟเสียงสีและเสียงดนตรีที่เริ่มคลอเบาๆ ในช่วงแรกของเวลาผับเปิด
วอดก้ายี่ห้อโปรดถูกรินมาเสิร์ฟให้ต่อหน้าราวกับรู้ใจ คนส่งให้คือ 'ดาร์ลิ้ง' บาร์ควบดีเจกิตติมศักดิ์ ที่ช่วงนี้แวะเวียนมาเยี่ยมเขาไม่ขาด สาวสวยรุ่นพี่ที่เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่มีความสนิทสนมกับเบตงค่อนข้างมาก ไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งสองมักจะคิดถึงกันและกันก่อนเสมอ เช่นคืนนี้...เบตงที่มีเรื่องวุ่นวายใจ ก็กำลังจะเอ่ยปรึกษามันกับเธอ
"เจ้รบกวนอะไรอย่างดิ"
"เรื่องผู้หญิง?" เธอย้อนอย่างรู้ทัน
"รู้อีก"
"เบาได้เบา ของแถมมันเยอะ"
"ผมระวังตัวเองตลอดแหละ เจ้ก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง"
"ไม่รักไม่เตือนนะ ระวังเจอของจริงแล้วจะหนาว"
"เอาเรื่องตัวเองเป็นบรรทัดฐานอีกแล้ว"
"ถ้าเตือนแล้วไม่ฟัง อยากพังก็ลองดูได้"
"พอแล้วเจ้ เดี๋ยวผมจะบรรลุธรรมเพราะคำพูดเจ้แล้วหนีไปบวชซะก่อน สรุปจะช่วยไหมที่ถามเนี่ย"
"ช่วย...ว่ามาสิ"
เบตงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดนั่นนี่อยู่สักพัก ข้อความแชทของดาร์ลิ้งก็ดังขึ้น จนรุ่นพี่สาวต้องวางมือจากการผสมค็อกเทลให้ลูกค้า มากดดูโทรศัพท์ชั่วคราว ใบหน้าจิ้มลิ้มของสาวน้อยในโทรศัพท์ ทำให้ดาร์ลิ้งเลิกคิ้วเรียวขึ้นอย่างแปลกใจ
"คือ?"
"สืบให้หน่อย"
"พิเศษกว่าคนอื่นยังไง?"
"หึ...สงสัยหอยเลี่ยมทองฝังเพชรมั้งเจ้"
"ตลกแล้วแบท"
"สืบมาเถอะ ผมแค่อยากรู้พื้นเพยัยเด็กนี่ ว่าครอบครัวทำอะไรอยู่ที่ไหน สภาพความเป็นอยู่ ฐานะเป็นไง เชื่อว่าเส้นสายของตระกูลลินน์ไม่มีทางทำให้ผมผิดหวังแน่"
"จะเอามาทำเมีย?"
"บ้าดิเจ้ ผมแค่อยากรู้ว่าสะอาดแค่ไหน ถึงได้กล้าเอาตัวเองมาเสนอขายให้ผมถึง 5แสนแลกกับการเปิดซิง แม่ง...5แสนผมล่อได้ทั้งตู้เลยนะ ถ้าไปเที่ยวอาบอบนวดอ่ะ"
"โอเค...รู้เรื่อง"
ดาร์ลิ้งตอบรับ ไม่คิดถามอะไรให้มากความ เบตงจึงคว้าแก้ววอดก้ามาสาดลงคอด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด ทั้งทบทวนความคิดของตัวเองไปมา ว่าอะไรดลใจให้เขาต้องมานั่งทำเรื่องบ้าๆ เพื่อยัยเด็กนี่กัน หน้าตาก็เห็นแค่ในรูป เนื้อตัวก็ยังไม่ได้สัมผัส แต่แววตาหม่นที่ตรงข้ามกับรอยยิ้มสดใสในรูปนั้นต่างหาก ที่ทำให้เจ้าของบาร์อย่างเขาต้องมานั่งดื่มเหล้าด้วยความรำคาญใจอยู่อย่างนี้