ในขณะที่เพลงขวัญกำลังจะเดินลงมาจากบ้านอยู่นั้น หูของเธอก็ไปได้ยินพ่อแม่ของเธอกำลังพูดคุยกันอยู่
“เราให้เขายึดไร่ไปดีไหม พวกเขาติดต่อมาหลายรอบแล้ว” เสียงของอาทิตย์เอ่ย
“พี่แน่ใจใช่ไหม” พรทิพย์ถามย้ำอีกครั้ง
“พี่แน่ใจ แล้วเราเอาเงินเก็บที่เก็บไว้ให้ลูกมาตลอดไปซื้อบ้านเล็กๆ อยู่กันสักหลังก็ได้ แล้วเราค่อยไปหางานทำเอา พี่ไม่อยากให้ลูกสาวเราต้องมาเรื่องแบบนี้แล้ว”
อาทิตย์เอ่ยอย่างรู้สึกผิดและสงสารลูกสาวจับใจ สภาพของลูกสาวเขาวันนั้น ถึงหญิงสาวจะไม่ยอมปริปากพูดแต่เขาก็รู้มันเกิดอะไรขึ้น แค่คิดไปถึงตอนนั้นหัวใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ปวดหนืดขึ้นมาทุกที
“เงินอะไรคะ” เพลงขวัญที่ยืนฟังอยู่สักพักแล้ว ก้าวลงมาชั้นล่างเอ่ยถามเสียงดัง
“เพลง” อาทิตย์เอ่ยเรียกลูกเสียงแผ่วเบา
“เพลงถามว่าเงินอะไรคะพ่อ” เพลงขวัญถามย้ำเสียงเข้ม
“เงินที่พ่อกับแม่เก็บไว้ให้ลูกมาตลอดนะเพลง” มารดาของเพลงขวัญเป็นคนตอบกลับเธอ
“เท่าไหร่คะ”
“ห้าล้าน” พรทิพย์เอ่ย
“ถ้าทางนั้นติดต่อมาอีกพ่อเอาเงินนี้ให้เขาเลยค่ะ ส่วนที่เหลือเพลงจะทำงานมาทยอยใช้เขาเองค่ะ” เพลงขวัญเสียงแข็ง
“แต่นี้มันเงินเก็บของลูกนะ” อาทิตย์เอ่ยเสียงอ้อมเเอ้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ พ่อเอาไปให้เขาเลย เพลงสัญญาค่ะว่าจะปกป้องไร่ของเราไว้ให้ได้” เพลงขวัญยังคงยืนยันคำเดิม
“แล้วนี่เพลงจะกลับกรุงเทพแล้วหรอลูก” พรทิพย์เอ่ยถามเพราะเห็นกระเป๋าเดินทางในมือลูกสาว
“ค่ะ เพลงจะกลับไปหางานพาร์ทไทม์ทำก่อนระหว่างรอคำตอบรับสมัครจากทีทีแอร์ไลน์ค่ะ” เพลงขวัญตอบท่าทางนิ่งเรียบ
“พ่อให้คนงานขับรถไปส่งเพลงที่ท่ารถในเมืองหน่อยนะคะ”
“โอเคลูก” สิ้นเสียงอาทิตย์ก็รีบเดินออกไปตามคนงานทันที
“โชคดีนะลูก พระคุ้มครองนะ มีอะไรก็โทรหาพ่อกับแม่นะ” พรทิพย์เดินมากอดลูกสาวของเธอไว้แน่น มือเหี่ยวย่นลูบหัวเพลงขวัญเหมือนเป็นการปลอบใจ
“ดูแลตัวเองนะแม่ หนูฝากพ่อด้วย ดูแลกันให้ดีๆ นะ”
พรทิพย์คลายกอดออกจากร่างลูกสาว เพลงขวัญหยิบข้าวของเสร็จ เธอเดินจ้ำอ้าวออกจากบ้านไปทันที
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา..
มาเฟียหนุ่มร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ในห้องทำงานของกาสิโนหรูของเขาเอง ข้างหน้าชายหนุ่มมีแต่กองเอกสารเต็มไปหมด เขาเลือกที่จะมาทำงานที่กาสิโนเพราะไอ้น้องตัวดีของเขามันไม่ชอบธุรกิจแบบนี้สักเท่าไหร่ เขาจึงต้องทำหน้าที่ตรงนี้เป็นหลัก ทั้งกาสิโน ผับบาร์ และอสังหาริมทรัพย์เป็นหน้าที่ของเขา ส่วนคาเดน น้องชายของเขาจะรับผิดชอบเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมและหุ้นของบริษัทต่างๆ รวมถึงหุ้นของโรงพยาบาลอีกด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงประตูดังขึ้น
“ใคร” เคแลนเอ่ยถามเสียงดัง
“ผมเองครับนาย” เมสันตอบ
“เข้ามา” สิ้นเสียงของเคแลน ลูกน้องคนสนิทก็เปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“มีอะไร”
“เรื่องไร่ของนายอาทิตย์ครับ”
“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ต้องมารายงานกูแล้ว ให้เวลาสามวันไม่มีเงินมาคืนก็ยึดไร่เอาไปทำโรงแรมใหม่แค่นั้น”
มาเฟียหนุ่มพูดอย่างหงุดหงิด ไม่มีเงินมาคืนก็ยึดเท่านั้น เขาทำธุรกิจเขาต้องเด็ดขาด
“คือ ทางนั้นคืนมาแล้วครับห้าล้าน แต่ที่เหลือขอทยอยผ่อนจ่าย ส่วนผ่อนจ่ายยังไง นายอาทิตย์ขอมาคุยกับนายเองครับ”
“ตอนนี้กูไม่ว่าง อีกสองอาทิตย์ค่อยนัดมา”
“ครับนาย”
“ให้ไอ้ไทก้าเตรียมรถด้วย กูจะเข้าผับหน่อย”
“ครับ” พูดจบเมสันก็เดินออกจากห้องไป
ครืดดด ครืดดด
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าเสื้อสูทของเคแลนดังขึ้น ชายหนุ่มล้วงโทรศัพท์ออกมาดู หน้าจอแสดงชื่อของผู้ที่โทรเข้ามา เขาจึงกดรับสายทันที
MEILIN
“ว่าไง”
“เคแลนค่าา เมคิดถึงคุณจังเลยค่ะ วันนี้คุณไปผับของคุณไหมคะ” ปลายเสียงเอ่ยเสียงออดอ้อน
“อือไป”
“โอเคค่ะ งั้นเจอกันนะคะสุดหล่อของเม”
สิ้นเสียงของปลายเสียง เคแลนก็กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์กลับไปไว้กระเป๋าเสื้อสูทเหมือนเดิม
@CC Club
ร่างใหญ่ของเคแลนเข้ามาในผับหรูของตัวเอง ทีนี้เป็นผับขนาดใหญ่ที่มีทั้งโซนของพวกขาแด๊นซ์กลางฟลอร์ โซนวีไอพีของพวกนักธุรกิจที่มีพูดคุยเรื่องธุรกิจกัน หรือจะเป็นห้องวีไอพีสำหรับพวกที่ชอบความเป็นส่วนตัวมั่วยามั่วเซ็กส์กัน
เคแลนกับบอดี้การ์ดใช้ทางเข้าข้างหลังผับเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่ม นักท่องราตรีมากมายก็กำลังหลั่งไหลเข้ามาดื่มกินในที่แห่งนี้กัน
มาเฟียหนุ่มสองมือล้วงกระเป๋าเดินตามทางเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าห้องครัว เขามองเข้าไปในห้องครัวสายตาก็ต้องไปสะดุดกับร่างผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งที่ใส่ชุดพนักงานเสิร์ฟอยู่
เขาหยุดมองเธออยู่ชั่วครู่ ใช่แล้วละเธอคือผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาพรากพรหมจรรย์ของเธอมา
'หึ ถึงขั้นมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อไร่บ้านนอกกระจอกๆ นั้นเลยหรอวะ' เคแลนครุ่นคิดอยู่ในใจ จากนั้นก็เดินขึ้นมายังห้องวีไอพีทันที
“ไงวะมึง นัดมามีไร” เสียงของนักรบ เอ่ยถามขึ้นหลังจากที่มาเฟียหนุ่มเข้ามาในห้องแล้วล้มตัวนั่งลงบนโซฟาหรูตรงข้ามเขา
นักรบ หนุ่มไทยหล่อเข้มนิสัยดี ทำธุรกิจขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ เป็นเพื่อนรักกับเคแลนมาตั้งแต่จำความได้ ทั้งคู่สนิทกับมากสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง
“เออนั่นดิ ปกติเห็นทำแต่งาน ไม่ค่อยจะโผล่หัวมาให้เจอ” มาร์วินที่นั่งอยู่ข้างนักรบเสริมต่อ
มาร์วิน หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เจ้าของห้างสรรพสินค้าหรูหลายแห่งในประเทศ
“กูแค่เบื่อๆ อยากแดกเหล้า” เคแลนตอบหน้านิ่งๆ
“ไอ้คาเดนมันจะมาไหมวะ” นักรบเอ่ยถาม
เคแลนและคาเดนถึงจะเป็นพี่น้องกัน แต่พวกเขาก็อยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน ซึ่งเพื่อนของเคแลนก็เหมือนเพื่อนของคาเดนเช่นกัน
“กูโทรหาแล้ว มันบอกเดี๋ยวมา เคลียร์งานแป๊บ” เสียงทุ้มของมาร์วินเอ่ย
“เป็นไงบ้างวะช่วงนี้ไอ้เคแลน” นักรบหันไปถามเพื่อนรัก
“ยุ่งๆ เหมือนเดิมแหละ พวกมึงละ” เคแลนตอบคำถามพร้อมกับถามกลับ
“ของกูเรื่อยๆ” นักรบเอ่ยพร้อมยกแก้วเหล้ากระดกพรวดเดียวหมดแก้ว
“กูกำลังจะเปิดห้างเพิ่ม กำลังดูที่เหมาะๆ อยู่” มาร์วินที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่เอ่ยแต่ตายังคงจับจ้องที่โทรศัพท์
เคแลนพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสองมือหนายกแก้วขึ้นมาดื่ม บรั่นดีฟาดขมส่งลงไปในคอจนรู้สึกร้อนวาบ
ครืดด ครืดด
เสียงโทรศัพท์เคแลนดังขึ้นมือสากวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ ล้วงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมา
MEILIN
“อือ”
'เมถึงแล้วนะคะ อยู่ห้องวีไอพี19 ค่ะ'
“เดี๋ยวไป”
'ค่ะ เมรออยู่นะคะ'
สิ้นเสียงหญิงสาวมือหนาของเคแลนก็กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋าเสื้อสูทเหมือนเดิม