เพลงขวัญลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่เจ็บปวดไปทั้งตัวและจุดกลางกายสาว สมองเริ่มประมวลผลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“หึ ไอ้เลว” เพลงขวัญไม่ได้ร้องไห้เหมือนนางเอกในละคร อะไรที่เสียไปแล้วก็ให้มันเสียไป เธอต้องช่วยพ่อแม่ของเธอหาทางออกเรื่องนี้จะดีกว่ามานั่งเสียใจให้กับเรื่องโง่ๆ นี้
หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นนั่ง ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาจนเธอต้องนิ่วหน้าข่มความเจ็บปวดไว้ เพลงขวัญก้มลงมองไปที่ระหว่างขาของเธอก็พบกับเลือดสีแดงสดแห้งกรังเต็มขา เธอฝืนลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ในใจยังคงแค้นเคืองผู้ชายคนนั้นอยู่ไม่หาย
หลังจากที่เพลงขวัญลุกขึ้นยืนได้ เธอหยิบผ้าห่มผืนใหญ่มาห่อกายไว้แล้วเดินไปห้องน้ำอย่างย่องเบาที่สุด พอถึงห้องน้ำเธอก็รีบล้างคราบเลือดออกจากจุดสงวนและระหว่างขาของเธอ เพลงขวัญขัดถูตามเนื้อตัวอย่างแรงเพื่ออยากให้รอยจ้ำแดงน่าเกลียดพวกนี้หายไป ถึงเธอจะรู้ว่าต่อให้ถูให้ตายยังไงมันก็ไม่หายไป แต่แค่เธอได้ระบายความโกรธออกไปบ้างสักนิดก็ยังดี
หญิงสาวอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ เธอก็หยิบผ้าขนหนูผืนสีขาวในห้องน้ำมาห่อหุ้มปกปิดร่างกายเธอไว้ ไม่ลืมที่จะหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่เธอหอบเอาเข้ามาด้วย เธอเดินออกจากห้องน้ำมานั่งลงบนเตียงนุ่ม มือเล็กหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาดู ก็พบว่ามันขาดหลุดลุ่ยไม่เป็นชิ้นดีแล้ว
เธอจะใส่ชุดไหนกลับบ้านกันละเนี่ย
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
เสียงกดกริ่งหน้าห้องดังขึ้น
เพลงขวัญชะงักเล็กน้อย ก่อนจะชั่งใจเดินไปมองที่ตาแมว เธอเห็นชายชุดดำร่างใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเปิดลูกน้องของผู้ชายคนนั้น หญิงสาวเปิดประตูออกแค่เล็กน้อยเอาตัวเองอยู่หลังประตูไม่ได้เปิดออกกว้างเพื่อที่จะให้ประตูบดบังตัวเธอที่มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวไว้
“มีอะไรคะ” สาวหน้าหวานถามออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ผมเอาชุดมาให้ครับ แต่งตัวเสร็จแล้วรีบตามลงไปที่ล็อบบี้ด้วยนะครับ นายให้ผมไปส่งที่ไร่ครับ”
เพลงขวัญมองชุดในมือของชายชุดดำสลับกับหน้าของเขา เธอครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ หญิงสาวลากมากะทันหัน กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์เธอก็ไม่มีติดตัวเลยสักอย่าง
“ขอบคุณ”
พูดจบเพลงขวัญก็ดึงเสื้อผ้าในมือของชายชุดดำมาแล้วปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวล็อกประตูเรียบร้อยแล้วเธอก็กางชุดที่พับอยู่ในมือออกมาดู
ชุดแม่บ้านหรอ เหอะ!
“ดีกว่าไม่มีอะไรใส่ละกัน” เพลงขวัญบ่นพรึมพรำกับตัวเอง จากนั้นก็หยิบชุดแม่บ้านมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็ออกจากห้องนั้นมาทันที
เพลงขวัญลงมาที่ล็อบบี้ของโรงแรมก็พบกับชายชุดดำร่างใหญ่คนที่เอาชุดไปให้เธอยืนรออยู่ที่หน้าล็อบบี้แล้ว
“เชิญครับ”
ชายชุดดำร่างสูงใหญ่เดินนำเพลงขวัญมาที่รถยนต์คันสีดำเงา เพลงขวัญไม่พูดไม่จาอะไร เธอขึ้นรถตามชายชุดดำมา จากนั้นรถหรูก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมาจากโรงแรมอย่างช้าๆ
เวลาผ่านไปสักพัก
รถยนต์คันหรูจอดลงข้างหน้าไร่องุ่นอาทิตยาพร เพลงขวัญก้าวลงจากรถ จากนั้นรถยนต์สีดำเงาก็เคลื่อนตัวออกไปทันที
เพลงขวัญมองป้ายไม้ที่สลักชื่อไร่ของพ่อแม่เธอที่อยู่หน้าทางเข้าของไร่
ไร่องุ่นอาทิตยาพร
หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ในใจ เธอจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ เธอไม่อยากเสียที่แห่งนี้ไป หากไร่องุ่นของเธอถูกยึดไปแล้วพ่อแม่เธอจะไปอยู่ที่ไหนจะไปทำงานอะไรได้พวกท่านแก่มากแล้ว อีกทั้งยังมีคนงานอีกหลายชีวิตที่พวกเขาเป็นแค่ชาวสวนชาวไร่ไม่มีการศึกษา หากมาเฟียหนุ่มคนนั้นยึดไร่แห่งนี้ไปแล้วถ้าเขาไม่เอาคนงานพวกนี้ไว้ต่อละ คนงานพวกนั้นจะหาเลี้ยงปากท้องได้อย่างไร เธอจะช่วยบิดามารดาและไร่แห่งนี้ยังไงดี
เพลงขวัญคิดไปต่างๆ นานๆ เธอยังไม่กล้าเข้าไปในบ้าน ไม่อยากให้พ่อกับแม่เห็นเธอสภาพนี้ แต่เธอคงหนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก้าวเดินเข้าไปในไร่ช้าๆ เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงบ้านไม้สีครีมของพ่อแม่เธอ เพลงขวัญเปิดประตูเข้าไปทันที
“เพลงขวัญ!!” อาทิตย์เอ่ยขึ้นเสียงดัง
“เพลงลูก!” ตามมาด้วยเสียงของพรทิพย์ มารดาของเธอ
เพลงขวัญเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“เพลง คุณเคแลนเขาไม่ได้ทำอะไรลูกใช่ไหม” อาทิตย์ลุกขึ้นเดินมาหาลูกสาวเอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าลูก” พรทิพย์ลุกขึ้นมาจับมือลูกสาวไว้แน่น
“เพราะคุณคนเดียวเลยอาทิตย์ ลูกของเราถึงต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ฮึกๆ” พรทิพย์เอ่ยขึ้นดวงตาเริ่มมีน้ำใสๆ ไหลออกมา
“พ่อคะ เราเป็นหนี้เขาอยู่เท่าไหร่คะ” เพลงขวัญเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของพวกท่าน แต่เธอถามในสิ่งที่เธออยากรู้และจะหาวิธีแก้ปัญหาช่วยพวกท่านเอง
“สะ..สิบห้าล้านนะลูก” อาทิตย์ตอบเสียงตะกุกตะกัก
“…”
เพลงขวัญนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องตกใจอีกแล้วละ
“หนูขอขึ้นไปพักบนห้องก่อนนะคะ ไม่ต้องตามขึ้นไปนะ เดี๋ยวหนูพร้อมหนูจะลงมาเอง” สิ้นเสียงของเพลงขวัญ เธอก็เดินขึ้นบ้านตรงไปยังห้องนอนทันที
แสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าลอดผ่านม่านเข้ามากระทบใบหน้าเนียนใสของหญิงสาว เสียงนกร้องเบา ไหนจะเสียงคนงานที่กำลังทำงานและหยอกล้อกันอยู่นั้นทำให้เพลงขวัญตื่นลืมตาขึ้นมาจากการนอน
หลังจากวันนั้นที่เกิดเรื่องเพลงขวัญก็อยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหนไม่ลงไปข้างล่างจนล่วงเลยมาถึงสามวันเต็ม มารดาของเธอเอาอาหารมาวางไว้ให้หน้าห้องแล้วก็ลงไป
เพลงขวัญไม่ได้โกรธพ่อของเธอ แต่เธอแค่กำลังคิดหาทางออกอยู่ เงินมากมายขนาดนั้นเธอจะไปหาที่ไหนได้ อย่างน้อยเธอต้องหาทางแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ให้ได้มากที่สุด หญิงสาวรอคำตอบรับจาก ทีที แอร์ไลน์ แต่ก็ยังไม่มีอีเมลตอบรับสมัครงานกลับมา เธอคงจะต้องกลับกรุงเทพไปหางานพาร์ทไทม์ทำรอก่อน
คิดได้อย่างนั้นเพลงขวัญก็รีบดีดเด้งตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ เพลงขวัญเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเอง แล้วเดินลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว