ฮะ...เขาทักผู้หญิงแบบนี้เหรอ...แต่เอาเถอะทหารก็ไม่เคยจะทักทายดี ๆ กับประชาชนอยู่แล้วนี่นาถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเหมือนพวกเขาเป็นชนชั้นสูงสุดในห่วงโซ่อาหารของยุคนี้
แต่ทว่าเธอยังไม่ทันอ้าปากตอบ เจ้าเด็กตัวกลมก็เอ่ยขัด
“จิ๊! พี่เหวินอวี้ใครให้ทักทายผู้หญิงด้วยคำหยาบคายแบบนั้น ต้องเริ่มด้วยแบบนี้ เดี๋ยวหมิงทำให้ดู จำแล้วนำไปใช้ด้วย เห็นไหมว่าแม่หลี่เป็นห่วงพี่เหวินอวี้จะไม่มีภรรยาเพราะทำตัวเย็นชาและแข็งกระด้างเกินไป”
หลี่เหวินอวี้มองเจ้าเสี่ยวหมิงที่สั่งสอนเขาราวกับเป็นบิดาบังเกิดเกล้าจนอยากเขกกะโหลกสักที แต่เขาไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะเจ้าอ้วนก็พูดจาไร้สาระเป็นประจำ
แต่สายตาของเขาหยุดตรงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามากกว่าที่ทำให้เขาสนใจมากกว่าคำพูดไร้สาระของเจ้าหมิง
“หวัดดีพี่สาว หมิงชื่อคุนหมิงนะ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหมิงสุดหล่อที่สุดในโรงเรียนก็ได้ มีพี่สาวชื่อถงถง มีพี่เขยชื่อหานอวี้เหิง พี่ชายชื่อหยางเหล่ย อยู่ป.4 แล้ว หมิงอยู่ ป. 2 มีหลานชายชื่อตงตงสุดหล่อเหมือนหมิงไม่มีผิด”
หลี่เหวินอวี้ยกมือขึ้นบีบขมับอย่างอับอายทันที
อื้ม...นี่เรียกการแนะนำตัวฉบับเจ้าตัวแสบหมิงงั้นเหรอ ไม่เอาทะเบียนครัวเรือนมากางด้วยเลยล่ะเจ้าตัวแสบ นี่แม่ของเขาไว้ใจฝากฝังเขาไว้กับเจ้าตัวแสบหมิงเนี่ยนะ เขาเป็นถึงนายพลแล้วนะไม่ใช่เด็กสามขวบ
เพ่ยถิงถิงละสายตาจากผู้ชายที่หล่อเหลาตรงหน้านานแล้ว และมาสนใจเจ้าเด็กตัวกลม ๆ แก้มยุ้ย ๆ ระเรื่อไปด้วยสีแดงก่ำจากเลือดฝาดจนอยากจับฟัดสักที ยิ่งปาก เล็ก ๆ เจรจาเจื้อยแจ้วแบบนี้ หากคุณปู่ได้เห็นคงต้องชอบแน่ ๆ
“ว่ายังไงครับสุดหล่อ” เธอย่อตัวนั่งลงให้เสมอกับเจ้าเด็กน้อยแล้วเอาซองเงินที่ได้ใส่กระเป๋าสะพายของตัวเองเอาไว้ และยื่นมือไปบิดแก้มยุ้ย ๆ อย่างเอ็นดูเสี่ยวหมิง
“ขอบคุณครับพี่สาวคนสวย หมิงไม่เคยเจอพี่สาวคนไหนที่สวยเท่าพี่มาก่อนเลยนะ พี่สาวมีแฟนหรือยังหรือจะรอหมิงโตก่อน จะให้พี่เขยไปหมั้นพี่สาวให้หมิง จีบคนที่หล่อเหลาขนาดนี้ จะบอกอะไรให้นะ หมิงน่ะทำกับข้าวเก่งที่หนึ่ง ซักผ้าถูบ้านสะอาดเอี่ยมอ่อง แม้ตอนนี้จะมีแม่บ้านจัดการ แต่หมิงว่าหมิงทำได้สะอาดกว่าแน่นอน พี่ถงพี่สาวหมิงรับรองได้”
“....”
หลี่เหวินอวี้ไร้คำจะเอ่ย เจ้าเสี่ยวหมิงจอมงก ที่เงินในบัญชีแซงหน้าเศรษฐีในเมืองไปแล้วเพราะสินบนจากพี่เขยตัวเอง ตอนนี้มีความสามารถเพิ่มขึ้นด้วยการจีบสาวต่อหน้าต่อตาคนไร้คู่อย่างเขา ราวกับสั่งสอนว่าบุรุษที่ดีควรทำอย่างไรให้ผู้หญิงหลงรัก
‘เจ้าบรรพบุรุษน้อยน่าหมั่นไส้จริง ๆ’
“ปากหวานจริง ๆ อยากกินอะไรเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” เพ่ยถิงถิงหลงคารมเจ้าเด็กอ้วนคนนี้แล้วสิ อยากเอาไปเลี้ยงที่บ้านสักสองวัน ท่าทางพูดเก่งช่างเจรจารับรองว่าบ้านตระกูลเพ่ยน่าจะมีแต่เสียงหัวเราะ
แต่ใครจะรู้ดีเท่าหลี่เหวินอวี้เล่า ว่าปากเจ้านี่อย่าให้ด่าเด็ดขาด สะเทือนยันต้นตระกูลต้องเดือดร้อนลุกขึ้นจากหลุมศพมาสำนึกผิดแทบไม่ทันทีเดียว
“ที่จริงหมิงจะมาซื้อขนมกินหลังเลิกเรียนทุกวัน แต่หากวันนี้พี่สาวจะเลี้ยงหมิงยินดีรับไว้ก็ได้ แต่หมิงจะซื้อกลับไปให้พี่ชายด้วย วันนี้หยางเหล่ยไม่สบายไม่ได้มาโรงเรียน”
เสี่ยวหมิงทำท่าทางเหมือนลำบากใจที่จะรับเอาไว้ แต่หลี่เหวินอวี้รู้ดีว่าเจ้าอ้วนแสดงเก่ง เพราะชอบของฟรีนั่นเอง
“อย่าแสดงเยอะ...ไม่ต้องเลี้ยงหรอก ค่าขนมเจ้าเด็กคนนี้น่ะฉันจ่ายให้ได้อยู่แล้ว อีกอย่างเธออย่าหลงกลเชียว เจ้าอ้วนนี่รวยกว่าเธอร้อยเท่าพันเท่า”
หลี่เหวินอวี้เตือนเธอด้วยความหวังดี ไม่อยากให้เธอโดนเจ้าเด็กอ้วนหลอกกินเพราะปากหวาน ๆ จึงได้เปิดโปงเสียตั้งแต่ครั้งแรก เรียกสายตาค้อนจนตากลับให้กับเสี่ยว
หมิงที่มีคนรู้ทัน จนต้องหันไปสั่งสอนนายพลหลี่เสียหน่อย
“นี่...สหายหลี่...เราไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดต้องใส่ร้ายหมิง” เสี่ยวหมิงหันไปเท้าเอวในท่าที่ทำเป็นประจำเมื่อไม่พอใจ
โป๊ก!
หลี่เหวินอวี้เขกกะโหลกให้กับความลามปามของเจ้าอ้วน ยิ่งสนิทยิ่งไม่เห็นว่าเขาเป็นนายพลที่ตอนแรกเหมือนเคารพเสียเต็มที่ ตอนนี้มีพี่เขยหนุนหลังแทบจะขี่คอเขาอยู่แล้ว
“โอ๊ย...ทำร้ายเด็กผิดกฎหมายนะ” เสี่ยวหมิงเอามือลูบหัวป้อย ๆ แสดงสีหน้าเจ็บปวดและไม่ได้รับความเป็นธรรม
“อย่ามาเล่นลิ้น พี่สาวนายให้รีบกลับไม่ใช่หรือไง หยางเหล่ยของนายไม่มีคนดูแล” เขาตอบกลับด้วยเหตุผลที่เจ้าอ้วนเร่งเขายิก ๆ ให้รีบพามาซื้อขนมจะได้รีบกลับ แต่เหมือนเจ้าเด็กนี่เห็นสาวสวยก็ลืมความตั้งใจเดิมจนหมดสิ้น
เพราะวันนี้ทั้งหานอวี้เหิงไม่ว่าง และถงถงต้องเลี้ยงดูลูกชาย หยางเหล่ยก็ป่วยจึงไหว้วานให้เขามารับเสี่ยวหมิงแทน แต่เจ้าเด็กนี่ไม่รู้จักบุญคุณไม่พอ ยังคิดจะสั่งสอนเขาเสียอีก
“เพราะพี่เหวินอวี้แท้ ๆ ทำหมิงเสียเวลา ถ้าหยางเหล่ยไม่หายไข้นะโทษเป็นความผิดพี่เหวินอวี้คนเดียว”
เสี่ยวหมิงบ่นเดินสะบัดก้นไปสั่งนมสตอเบอร์รี่สองแก้ว แบบเย็นกับไม่เย็น แล้วก็ขนมปังอีกห้าชิ้นเพื่อกลับบ้าน
หลี่เหวินอวี้จดจำเอาไว้ในใจแล้วเรื่องของเจ้าอ้วน เมื่อหันมาพบว่าผู้หญิงคนนั้นมองดูเจ้าอ้วนอย่างสนใจไม่พอ แววตาชื่นชมนั่นคืออะไร เธอกำลังโดนหลอกยังไม่รู้ตัวอีก จนอดไม่ได้ที่จะถามเธออีกสักคำ เพราะคำถามของเขาถูกเจ้าหมิงขัดจนไม่รู้ว่าคนที่เขาพบในวันนี้ชื่ออะไร
“นี่เธอ...สรุปแล้วชื่ออะไร” ถามแล้วก็ทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอยากรู้จักอะไร แต่ในใจกลับคาดหวังให้เธอตอบเขา แม้จะย้อนแย้งแต่เขาแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงที่จะโดนเสี่ยวหมิงหลอกชื่ออะไรต่างหาก
ไม่ได้สนใจเธอหรอก ใช่ไม่ได้สนใจเลย
เพ่ยถิงถิงที่มองเสี่ยวหมิงอย่างเพลิดเพลิน ทั้งเห็นว่าคุณอ็องรีเองก็ดูจะชอบเจ้าเด็กคนนี้ ทั้งพูดคุยกันอย่างออกรส จนไม่ทันได้ยินว่าเขากำลังพูดกับเธอ จนกระทั่งเสียงของเจ้าของร้านดังขึ้น
“เสี่ยวหมิงพรุ่งนี้จะมีขนมสูตรใหม่ด้วยนะ อย่าลืมมาชิมล่ะ”
เสียงนั้นกลบคำพูดของหลี่เหวินอวี้อีกแล้ว จนเขาเริ่มกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ
และคนที่เคยเป็นจุดศูนย์กลางที่ทุกคนต้องฟังถอนหายใจหนัก ๆ เพราะถูกละเลยเป็นครั้งแรก
“มิสเตอร์อ็องรี หมิงย่อมไม่พลาดของอร่อยอยู่แล้ว” หมิงขยิบตาเลียนแบบมิสเตอร์อ็องรี และนั่นทำให้อ็องรีชอบใจหยิบขนมทดลองชิมมาให้เจ้าเด็กตัวน้อยชิมพร้อมรอรับฟังคำติชม
แต่ไม่ใช่แค่อ็องรีคนเดียวที่รอ แต่เพ่ยถิงถิงก็ยังไม่กลับบ้านรอเช่นเดียวกัน อยากรู้ว่าขนมที่เธอคิดสูตรจะถูกใจลูกค้าหรือเปล่า แถมยังเป็นลูกค้าที่น่ารักน่าเอ็นดูอีกด้วย
ท่ามกลางสายตาลุ้นอย่างใจจดใจจ่อของเธอ มีสายตาไม่พอใจของหลี่เหวินอวี้ก็จับจ้องอยู่เช่นเดียวกัน เขารู้สึกว่าเธอดูเหมือนมีบางอย่างที่เขาก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร แต่ว่า...หยุดมองไม่ได้ และโมโหที่เธอไม่สนใจเขา
“อร่อยจริง ๆ หมิงอยากซื้อวันนี้เลยด้วยซ้ำ”
เสี่ยวหมิงพูดทั้งในปากยังเต็มไปด้วยขนม
“ยังไม่มีจำหน่ายหรอกเสี่ยวหมิง พนักงานใหม่ของฉันเพิ่งคิดสูตรวันนี้ เธอคนนั้นอย่างไรล่ะ” อ็องรีเฉลยที่มาของขนม นั่นทำให้เสี่ยวหมิงตาโต
แต่คนที่ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ ก็นึกไม่ถึงว่าเธอจะมีความสามารถคิดสูตรขนมได้ พร้อมกับอยากรู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ แต่ยังไม่มีช่องให้ถามสักที
สุดท้ายก็ต้องกลับพร้อมกับเจ้าหมิงโดยไม่รู้เลยว่าด้านหลังของเขานั้น มีคนเดินตามมาด้วย
เพ่ยถิงถิงออกจากร้านขนมปังฝรั่งเศสเพื่อจะกลับบ้าน แต่สายตาคู่หนึ่งจับจ้องเธออยู่แล้ว เรื่องที่คุณปู่เตือนให้ระวังคนไม่ดีจับตัวไปเพราะเป็นลูกหลานทหารก็จดจำเอาไว้ มันเกี่ยวกับพวกค้ามนุษย์
ยุคนี้นั้นเรื่องลักพาตัวไปขายทำกันจนปราบปรามไม่ไหว แม้ทางตำรวจและทหารจะปราบปรามแล้วก็ตาม แต่มีกลุ่มมืดที่หลบอยู่ใต้ดินทำเรื่องผิดบาปอย่างค้ามนุษย์จนเป็นเรื่องปกติ สตรีหน้าตาดีล้วนเป็นที่เพ่งเล็ง ยิ่งเป็นลูกหลานทหารคนพวกนี้จ้องเป็นพิเศษ เพราะอยากหยามเกียรติทางการทั้งแก้แค้นเอาคืนให้กับเหล่าพี่น้องที่โดนประหาร
และเธอคิดว่าใบหน้าของเธอที่งดงามมันนำมาซึ่งความอันตรายเช่นกัน ตอนแรกก็ดีใจ แต่ตอนนี้ชักจะรู้สึกว่ามีภัยมาเยือนแล้วสิ
เธอสบโอกาสที่เขาเป็นทหารจึงเดินตามหลังเขาอย่างแนบเนียน หวังให้หลุดพ้นสายตาของคนพวกนั้น และเลือกจะมองหน้ามองหลังเป็นระยะเพื่อหาช่องทางหลบหนี แต่ขณะสายตากำลังสอดส่องไปเรื่อยอยู่นั้น เธอจึงไม่ทันระมัดระวังให้ดีจนกระทั่ง ‘หมับ!’