ตอนที่ 4
ภาพที่ฝังจำ
ติณแค่นยิ้ม ซุกหน้าหล่อเหลาไซ้เนินอกอีกรอบ และขบเม้มอย่างรุนแรง เหมือนต้องการฝากรอยสีกุหลาบไว้บนผิวขาวของเธอ หัวใจเจนจิราเริ่มเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ไม่คิดว่าจะได้ยินถ้อยคำห่ามๆจากเจ้านายที่แสนเคร่งขรึมมาตลอด
“อื้อ ..คุณติณคะ”
เธอครางเสียงสั่น แม้ควรจะดีใจแต่ลึกๆก็ยังคงประหม่า
“คุณติณคะ คุณเจฟแจ้งว่าใกล้ถึงร้านแล้วค่ะ”
เสียงของพี่ดา เลขาของเขาดังอยู่ด้านนอกหน้าประตูห้องนั่นทำให้หน้าหล่อเหลาชะงักเล็กน้อย แต่ยังคงจรดริมผีปากอยู่บนเนินอกของเธออย่างอ้อยอิ่ง
“อืม...เสียดายจัง”
ติณเงยหน้าขึ้นและสบตาเธอด้วยแววตาที่ปรือเชื่อม เจนจิราเพิ่งสังเกตใบหน้าเขาชัดๆ เมื่อไม่มีแว่นสายตาอยู่บนใบหน้า ด้วยไม่แน่ใจว่าเขาถอดแว่นออกไปตั้งแต่ตอนไหน เพราะมัวแต่วาบหวามซาบซ่านกับสัมผัสของเขา
โอ้พระเจ้า!! ใส่แว่นตาก็ว่าหล่อแล้ว
ถอดแว่นนี่หล่อแบบวัวตายควายล้ม!! เธออุทานในใจหลังจากมองใบหน้าที่ได้รูปดั่งเทพบุตรแกะสลัก ทั้งจมูกโด่งเป็นสันยังกับลูกเสี้ยว ดวงตาคู่สีนิลคมกริบแต่แฝงความเย้ายวนอยู่ในที ฟาดด้วยคิ้วหนาเข้มทุกอย่างลงตัว จนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะหล่อได้ขนาดนี้ ยิ่งถอดแว่นออกเขายิ่งดูไม่เหมือนคนอายุสามสิบกว่าๆเลยด้วยซ้ำ
ทำยังไงดีเจนจิรา!!! แค่นี้เธอก็หลงเขาไม่ไหวแล้ว
“....”
หล่อ หล่อ หล่อ หล่อ ...หล่อมาก เธอได้แต่เอ่ยในใจ
“มองหน้าผมแบบนี้ จะยั่วผมอีกแล้วใช่ไหมครับ”
ใช่ค่ะ!! เธออยากจะบอกเขานัก
“ปะ..เปล่าค่ะ เจนแค่เกรงว่าคุณติณจะไปไม่ทันนัดทานข้าวกับลูกค้า” กระนั้นเธอก็เอ่ยบอกเขาเสียงหวาน ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ และจัดแจงดึงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย
คิ้วหนาเข้มของ ติณ เลิกสูงขึ้นเล็กน้อย
ความจริงที่ผ่านมามีผู้หญิงและสาวๆในออฟฟิศมากมายเข้าหาเขาด้วยวิธีการต่างๆนาๆ แต่เขาถือคติมาตลอดว่าจะไม่เป็นสมภารกินไก่วัดให้เสียการปกครองแต่อย่างใด
หากต้องการปลดปล่อยจริงๆ มีสาวมากมายอยู่ข้างนอก
แต่แปลกกับสาวธุรการหน้าจืดคนนี้ ทำไมถึงทำให้เขาเหมือนจะเริ่มตะบะแตก ทั้งที่รู้อยู่ตั้งแต่วันก่อนที่เธอแกล้งเมาแล้วขอติดรถกลับจนเขาต้องประคองขึ้นไปส่งที่คอนโด จนตอนนี้เขาเริ่มอยากจะเล่นสนุกกับเธอเสียหน่อย
ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะน่าสนใจกว่าที่คิด ทั้งรูปร่างอวบอิ่มที่ซ่อนรูปและรสชาติหวานลิ้นที่เขาเริ่มจะชอบ
ของอร่อย ของดีหลบอยู่ในออฟฟิศของเขานี่เอง
“รถพร้อมแล้วครับนาย”
คนของเขาแจ้งอีกครั้งอยู่หน้าห้อง ติณละสายตาจากเธอ ก่อนจะโน้มตัวเอื้อมมือไปหยิบมือถือและกระเป๋าหนังบนโต๊ะ หน้าหล่อเหลาเฉียดผ่านร่างเล็ก จนได้กลิ่นหอมกรุ่นจางๆ
“ไว้เจอกันนะเจน”
เขาเอ่ยสั้นๆ มุมปากหยักได้รูปยกยิ้กเล็กน้อยเมื่อเหล่มองเห็นรอยจ้ำสีกุหลาบบนเนินอกขาวอิ่มที่โผล่พ้นสาบเสื้อของเธอมาเล็กน้อย
“ค่ะ”
เจนจิรา คล้ายจะรู้จึงรีบติดกระดุมเสื้อทันที สองแก้มของเธอเริ่มจะร้อนผ่าว เมื่อสบตาคมปลาบของเขา ทั้งสองสอดประสานสายตากันเพียงครู่ ก่อนที่ติณจะหันหลังและเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เธอยืนตัวชาอยู่มุมห้อง
ไม่นะ!! เขาไม่ได้เย็นชาอย่างที่เธอคิดเลย ไม่เลยสักนิด
ไหนเพื่อนในแผนกบอก ติณ ภาสกรกุลเย็นชามาก ตอนนี้เธอคงต้องปรับความคิดกับเขาใหม่เสียแล้ว
.
“นึกว่าเจนจะไม่มาแล้ว”
วิทย์ เอ่ยอย่างลิงโลดเมื่อเห็นร่างระหงของ เจนจิรา รุ่นน้องสาวฝ่ายธุรการเดินเข้ามาในร้าน ความจริงเขารู้จักเธอมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน และเป็นคนแนะนำให้หญิงสาวมาสมัครงานที่นี่เอง แม้จะเป็นตำแหน่งธุรการเงินเดือนไม่เท่าไหร่แต่เธอก็ยินดีที่จะทำในตำแหน่งนี้
อาจเพราะรายละเอียดของงานใน VM Group มีความซับซ้อนมากกว่าธุรการที่อื่น และเจนจิราก็ต้องการมาเรียนรู้การทำงานของแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับประเทศว่ามีการดำเนินงานอย่างไรบ้าง เผื่อในอนาคตเธออาจได้เอาไปปรับใช้กับธุรกิจออนไลน์เล็กๆของเธอบ้าง
อีกอย่างบริษัทนี้ เจ้าของบริษัทคือ ติณ ภาสกรกุล คนที่เธอหลงไหลได้ปลื้มมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เธอเคยเห็นเขาตามสื่อบ่อยๆ และเขาเคยไปเป็นวิทยากรตอนสมัยเรียนมหาลัย
เขาคงจำเธอไม่ได้...
แต่เธอจำเขาได้ตลอดมา
และติณเป็นคนสอนให้เธอรู้จักความวาบหวามที่ตราตรึงใจในครั้งหนึ่ง ขณะที่เธอมาฝึกงานที่นี่ตอนเรียนอยู่ปีสี่ ตอนนั้นเธอเดินผ่านห้องทำงานของเขาในตอนเย็นที่ทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้ว
“อือ อ่า” เสียงครางกระเส่าดังมาจากในห้องนั้น เธอชะโงกเข้าไปมองด้วยรู้ว่าเป็นเสียงของ ติณเจ้าของบริษัทหนุ่มที่เพิ่งมารับช่วงกิจการต่อไม่นาน
เขาเอนกายอยู่บนเก้าอี้ทำงานในห้อง หันหน้าไปทางกระจกด้านนอก เธอมองเห็นเพียงศรีษะที่มีผมดกหนาจากด้านหลัง สายตาเธอไล่มองเห็นว่าเขาปลดซิบกางเกงตัวเองลงและเกาะกุมท่อนลำของตัวเองไว้แน่น
โอ!! ไม่นะ ทำไมมันใหญ่โตเช่นนั้น...เจนจิราเบิกตาโพลง
เธอยืนตัวแข็งค้างมองผ่านตรงประตูนานสองนาน เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นของผู้ชายจริงๆเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาจะดูจากในสื่อในเน็ตมาตลอด
แต่ภาพตรงหน้าไม่ได้ดูน่ารังเกียจหรือลามกแต่อย่างใด ในความรู้สึกแต่เป็นความเซ็กซี่น่ามอง ยิ่งเสียงครางกระเส่าของชายหนุ่มที่หันหลังให้นั้น แสนเย้ายวนจนเธออยากจะเดินเข้าไปจับเหลือเกิน
เหตุการณ์นั้นติดตรึงในใจเธอจนกระทั่งตอนนี้
หลังจากเรียนจน เธอจึงมาสมัครงานที่นี่อย่างไม่ลังเลเมื่อพี่วิทย์บอกว่ามีตำแหน่งธุรการว่างลง และดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากได้รับแจ้งว่าสามารถเริ่มงานได้เลยในเวลาไม่นานนัก นั่นทำให้เธอได้เป็นพนักงานของVM Group
หากแต่เมื่อมาทำงานจริงๆแล้ว ติณไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เขาเป็นเจ้านายที่เย็นชาและจดจ่อเคร่งเครียดอยู่กับงาน และไม่เคยทำรุ่มร่ามกับพนักงานในออฟฟิศเลยสักครั้ง แม้จะมีสาวๆหลายคนพยายามเข้าหาเขาเพียงใดก็ตาม
เห็นว่า เคยมีคนโดนไล่ออกเพราะทำรุ่มร่ามกับเขาแล้ว
...ว่าแต่ว่า เธอจะโดนไล่ออกหรือเปล่าหนอ
อย่าเพิ่งนะ ..เธอเพิ่งจะได้จับลำเขื่องไปแค่ครั้งเดียวเอง
“อยากกินอะไรเหรอเจน สั่งได้เลยนะ”
เสียงของ วิทย์ เอ่ยขึ้น นั่นดึงสติของเธอออกจากภวังค์เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา หน้าสวยหันมามองรุ่นพี่และยิ้มละไมจนตาหยี
“หิวมากเลยพี่วิทย์ เจนอยากกินแหนมเนืองกับยำแซ่บๆ”
ไหนๆก็มาร้านอาหารเวียดนามแล้ว ขอกินของอร่อยที่อยากจะกินมาหลายวันหน่อยนะ แม้วันนี้เกือบจะไม่ได้กินแล้วก็ตาม หากว่าเจ้านายใหญ่ที่เรียกไปพบเมื่อตอนเย็นไม่ได้มีนัดกินข้าวกับลูกค้าเสียก่อน
กินข้าวกับลูกค้า ....
“เอ!! นั่นคุณติณเจ้านายเรานี่”
วิทย์เอ่ยขึ้น เมื่อเงยหน้าจากเมนูแล้วหันไปเห็น ติณ ภาสกรกุล เจ้านายบริษัทตัวเองเดินเข้ามาในร้าน และเจนจิราก็มองตามที่วิทย์บอกอย่างรวดเร็ว ร่างสูงโปร่งเดินมาด้านในพร้อมกับคนอีกสองสามคน ตัวของเธอชาวาบ
.....ทำไมต้องมากินร้านเดียวกัน!!