ตอนที่ 6
อยากทำต่อไหม?
“ขึ้นมาซิครับ!”
เสียงทุ้มเข้มนั้นดังพอที่จะให้เจนจิราหยุดชะงัก และผู้คนที่เดินผ่านไปมาหันไปมองด้วยความสนใจ ด้วยรถหรูที่จอดเลียบอยู่ข้างทางบนถนนสุขุมวิทสายหลักของกรุงเทพสร้างจุดสนใจพอสมควร
“....”
“บอกให้ขึ้นมา เห็นมั้ยว่ารถติดด้านหลัง”
ติณสั่งเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่ยืนนิ่ง นั่นทำให้เจนจิรารีบเปิดประตูรถและก้าวขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออก
“ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวคุณติณส่งเจนที่บีทีเอสสถานีหน้านี้ก็ได้ค่ะ” เธอบอกเขาเบาๆเมื่อคาดเข็มขัดเสร็จแล้ว และเห็นว่าเขาเบี่ยงรถเข้าเลนส์กลาง
คิ้วหนาของติณเลิกขึ้นเล็กน้อย
“วันก่อนยังชวนผมขึ้นคอนโดอยู่เลย”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ทว่าทำให้ผิวหน้าเธอผ่าวร้อนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เมื่อนึกถึงความกล้าบ้าบิ่นของตัวเองในวันนั้น
“คือ วันนั้นเจนดื่มไปเยอะก็เลยฟั่นเฟือนค่ะ”
ถ้าไม่ดื่มจนเมาขนาดนั้นเธอจะเอาความกล้าที่ไหนไปรุกเร้าเขาได้ขนาดนั้นกัน แถมเป็นการรุกที่ไม่ประสบความสำเร็จอีกด้วย แล้วตอนนี้เธอกลับเหมือนจะถูกรุกคืน
ความจริงเธอควรจะดีใจ แต่ทำไมเจนจิรารู้สึกประหม่า
ทั้งลมหายใจที่ขาดห้วงเหมือนขาดออกซิเจนชั่วขณะ
“แล้วอยากทำต่อมั้ย”
“ห๊ะ!”
เขาถามอะไรแบบนี้!!นี่คือคำถามจากคุณติณเจ้านายรูปหล่อแสนเย็นชาของเธอแน่เหรอ?
“ตอบซิครับ อยากทำต่อกับผมมั้ย”
เขาถามเธอเป็นครั้งที่สอง ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยเอ่ยถามใครอะไรแบบนี้ สำหรับเขาเซ็กซ์คือการปลดปล่อยตามกลไกธรรมชาติ มีความต้องการก็แค่ตอบสนองไม่มีอะไรสลับซับซ้อนมากกว่านั้น แค่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยปลดปล่อยกับพนักงานตัวเอง
แต่ครั้งนี้เขาจะลองแหกกฎดู
“คุณติณ!”
อยากค่ะ เธออยากตอบแบบนี้ แต่เหมือนริมผีปากจะเอ่ยไม่ได้เช่นดังใจคิด ได้แต่ก้มมองมือของตัวเองที่ประสานกันแน่นจนเปียกชื้น
“ปอดแล้วเหรอครับ วันก่อนยังเก่งอยู่เลยนี่นา”
เสียงเขาคล้ายเย้ยหยันจนเธอรู้สึกได้
“มะ ไม่ได้ปอดค่ะแต่คุณติณแน่ใจเหรอคะ?”
“แน่ใจเรื่องอะไรครับ ก็แค่ตอบสนองคุณเท่านั้น ถ้าคุณต้องการผมก็แค่ปรนเปรอให้ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องเป็นความลับตกลงมั้ย”
คำตอบของเขาทำให้เธออึ้งไปเพียงครู่
มันก็จริงของเขานะ...เธอแค่อยากมีอะไรกับเขา
และเขาคงจะมองท่าทีของเธอออกแม้จะแสร้งทำแค่ไหนก็ตาม และคงไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์ของตัวเอง ความจริงเธอเองก็ปราถนาแค่นั้นอยู่แล้ว
เธอครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบเขา
“เจนตกลงค่ะ”
“อย่ามาคร่ำครวญทีหลังนะให้ส่งผลกระทบต่อเรื่องงานนะครับ ผมไม่อยากมีปัญหาภายหลัง”
เขาเอ่ยเสียงราบเรียบ
นี่คือ ติณ ภาสกรกุล เขาไม่ได้แค่เย็นชาเท่านั้น แต่ยังมองทุกอย่างรอบด้านเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนธุรกิจที่ต้องเจรจาและมีข้อตกลงร่วมกันที่พึงพอใจทั้งสองฝ่าย
หากไม่ยินยอมพร้อมใจเขาจะไม่ทำ
...เรื่องนี้ก็เช่นกัน
“ไม่ค่ะ”
เจนจิราเม้มปากเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงอยากจะสัมผัสและต้องการเขานัก อาจเพราะความฝังใจตั้งแต่สมัยฝึกงาน เธอต้องการอยากจะปลดปล่อยให้คลายความรู้สึกนั้น
แม้เขาจะมองเธอเช่นไรก็ตาม
“งั้นไปเพนทเฮ้าส์ผม”
“หือ”
“ผมไม่อยากจะโดนขัดจังหวะอีก”
.
.
เพนท์เฮ้าส์หรูของ ติณ อยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ชั้นที่สิบหก เจนจิราเดินตามเขาหลังจากลงจากรถอย่างประหม่า และเมื่อประตูห้องถูกเปิดเธอก็ตกตะลึงในความอลังการของห้องสูทหรูที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองฟ้าอมรยามค่ำคืน
“ไวน์หรือวอคก้า”
หือ!! เขาเห็นเธอเป็นนักดื่มหรืออย่างไร
“ไวน์ค่ะ”
แต่เธอก็ตอบเขาอย่างเสียไม่ได้
แก้วไวน์สีองุ่นแดงถูกยื่นให้ตรงหน้า ก่อนที่เขาหันจะหันหลังแล้วถอดเสื้อสูทออกฟาดไว้กับโซฟา แขนเสื้อของเขาถูกถลกขึ้นจนถึงข้อศอก และเจนจิราก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าแขนแข็งแรงที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดโปนนั้นเต็มไปด้วยรอยสัก
เพิ่งรู้ว่า ติณ มีรอยสักรูปมังกรขัดกับบุคลิกเคร่งขรึมของเขายิ่งนัก เธอไม่เคยเห็นเพราะปกติอยู่ออฟฟิศเขาไม่เคยพับแขนเสื้อขึ้นเลยสักครั้ง
“จะอาบน้ำก่อนมั้ย?”
ปกติเขาไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องอาบน้ำเท่าไหร่ มองว่าการมีเซ็กซ์ก่อนอาบน้ำก็ได้กลิ่นดิบๆที่เป็นธรรมชาติของอีกฝ่ายดีเหมือนกัน แต่หากเธออยากจะอาบเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
บอกแล้วไง ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจ
“ก็ดีค่ะ”
ความจริงเธอควรปฎิเสธว่าไม่ เพราะเท่าที่เคยอ่านในนิยายและดูหนังมา ส่วนใหญ่พอเข้าห้องก็ล้วนต้องเริ่มบรรเลงกันเลยไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนี้เธออยากอาบน้ำก่อนเพราะทำงานมาทั้งวันและอยากจะให้เนื้อตัวสะอาดกว่านี้
“ห้องน้ำอยู่มุมนั้น ผ้าขนหนูและอุปกรณ์อยู่ในนั้น”
ติณเอ่ยเสียงราบเรียบ หันไปรินไวน์แดงและเดินไปนั่งโซฟาริมกระจกมองออกไปด้านนอก คล้ายไม่สนใจเธอเท่าใดนัก เจนจิราสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะเอื้อมมือยกแก้วไวน์กระดกเข้าไปจนหมด แล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำ
“อาบเสร็จแล้วบอกนะ ไม่ต้องใส่อะไรออกมาก็ได้”
เขาบอกตามหลังมา
นี่คือคุณติณแน่ใช่ไหม? ตอนนี้เธอเริ่มจะไม่แน่ใจซะแล้ว
***************