“มีอะไรให้ฉันช่วยคะ” เด่นจันทร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เธอว่าห้องนี้สวยไหม” ลัคนัยเอ่ยถามขึ้นมา ขณะที่มองไปโดยรอบห้อง
“สวยดีค่ะ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เธอคิดว่าผู้หญิงหนึ่งคน และเด็กผู้ชายหนึ่งคน รวมถึงคนจะมาอยู่ร่วมด้วย พวกเขาจะอยู่กันได้ไหม” เขาเอ่ยถาม
“ได้สิคะ ถ้าอยากจะอยู่”
“ถ้าเป็นเธอ เธอจะอยู่ไหม” เขาเอ่ยถามเธอ และหันกลับมามองเธอที่มองมาที่เขา
“ฉันไม่อยู่หรอก แค่เงินซื้อข้าวแทบจะไม่มี จะให้ฉันมาซื้อคอนโดหรูแบบนี้ ชาติหน้าฉันคงซื้อได้” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดตลก
“เธอรู้ไหมว่า เธอเป็นผู้หญิงที่พูดมาก” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง แล้วเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง
“ฉันแค่พูดไปตามเนื้อผ้า” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“วันนี้ไปกินข้าวกับฉันที่บ้าน ฉันจะให้ค่าเสียเวลาเป็นการตอบแทน”
“แต่ฉันต้องไปทำงาน”
“วันนี้เธอมากับฉัน ก็ถือว่ามาทำงานเหมือนกัน ไปเถอะฉันหิวข้าวแล้ว” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ แล้วเดินไปที่ลิฟต์ เธอจึงเดินตามไปทันที
เธอก้าวเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของลัคนัย เธอก้าวเดินตามเขามายังห้องกระจก และเขาก้าวขึ้นบันไดไปบนบ้านทำให้เธอรู้สึกสงสัยว่าทำไมเขาไปเดินไปห้องทานอาหาร เธอมองเขาชั่วครู่แล้วก้าวเดินไปที่ห้องทานอาหาร เขาหันมามองเธอทันที
“ตามฉันมา” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ เธอจึงหยุดเดินและหันมาหาเขา
“นายท่านพาฉันมากินข้าวไม่ใช่หรือคะ” เธอเอ่ยถาม
“ตามฉันขึ้นมา” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ เธอจึงก้าวเดินตามเขาขึ้นไปยังบนบ้านทันที
เด่นจันทร์ก้าวเดินขึ้นบันไดหินอ่อนใช้มือเรียวจับราวบันไดขณะที่ก้าวเดินทีละขั้น จนเดินมาที่หน้าประตูห้องของลัคนัย ลัคนัยเป็นคนเปิดประตูให้เธอเข้าไปทันที เธอกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และก้าวเดินเข้าไป เขาจึงก้าวเดินตามมาจากด้านหลัง เดินไปยังเคาน์เตอร์บาร์หยิบขวดคริสทัล ด้านในมีวิสกี้อยู่เศษหนึ่งส่วนสี่ของขวด เขาจึงออกมาจากล็อกวางบนเคาน์เตอร์ เธอจึงเดินตามเขามาและเอ่ยถาม
“ให้ฉันทำให้ไหมคะ” เธอเอ่ยถามแผ่วเบา
“ทำเป็นเหรอ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ทำเป็นค่ะ พี่นิกกี้เป็นคนสอน” เธอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“นิกกี้ที่ไนต์คลับด้านล่างใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ทำให้ออนเดอะร็อคให้ฉันแก้วหนึ่ง” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้
“ค่ะ” เธอตอบรับแล้วเดินไปหลังเคาน์เตอร์บาร์ เขาจึงหยิบสมาร์ตโฟนจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมา และกดโทรออก
“มะลิ สั่งพิซซ่า ฮาวายเอี้ยนให้ฉันหน่อย” ลัคนัยเอ่ยบอกจบ แล้วกดวางสาย หันมามองเธอที่ส่งแก้วคริสทัลใส่วิสกี้ โดยมีน้ำแข็งก้อนกลมอยู่ในแก้ว เขารับจากมือเธอและดื่มมันจนหมดแก้วในรวดเดียว
“ไม่เลว” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ขอบคุณค่ะ”
“เอาลาเกอร์ใส่แก้วให้ฉัน มันอยู่ในตู้เย็น” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ เธอจึงก้าวเดินไปที่ตู้เย็นสีขาว แล้วเปิดออกมา เธอเห็นลาเกอร์เบียร์หลายขวดวางเรียงรายอยู่ เธอหยิบมาหนึ่งขวดวางเอาไว้บนโต๊ะ และใช้ที่เปิดขวดมาเปิดฝาขวดเบียร์ ไม่ช้าเธอก็เปิดออก แล้วหยิบแก้วมือถือมารินใส่
เสียงน้ำซ่าๆ ดังออกมาจากห้องน้ำ ทำให้เธอหันไปมองตามสัญชาตญาณทันที เธอมองผ่านกระจกใสของห้องน้ำทำให้ใบหน้าของเธอนั้นร้อนผ่าวทันที จนต้องเมินหน้าหนี เพราะลัคนัยเปลือยเปล่าท่ามกลางสายน้ำที่ไหลลงมาจากเรนชาวเวอร์ อีกทั้งรูปร่างของเขานั้นสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยซิกแพค แนวขนที่หัวหน่าว ความเป็นชายที่ใหญ่โตและยาว ทำให้เธอไม่อาจมองภาพตรงนั้นได้ เธอจึงก้าวเดินราวกับแมวย่องออกจากห้อง พอถึงหน้าห้องน้ำเขากลับปิดน้ำลงทันที
“เอาผ้าขนหนูให้ฉันหน่อย” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เธออยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปจริงๆ แต่เธอกลับกลัวที่จะตกงาน จึงหันไปมองที่ชั้นวางผ้าขนหนูและชุดคลุมที่มีหลายผืน เธอหยิบผ้าขนหนูออกมาหนึ่งผืน แล้วก้มหน้าก้มตาส่งผ้าขนหนูส่งให้เขาทันที และก้าวเดินออกจากห้องน้ำ เขาเผยรอยยิ้ม
ลัคนัยก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูที่ปิดเบื้องล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่อย่างยิ่ง มันทำให้เขาดูเซ็กซี่และเร้าใจอย่างยิ่ง แต่ทว่าหญิงสาวผู้นี้กลับไม่มองเขา และเดินมาที่เคาน์เตอร์บาร์ และส่งเบียร์ให้เขา เขารับไว้และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์
“กลัวฉันเหรอ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เปล่าค่ะ” เด่นจันทร์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“นายท่าน ขออนุญาตเข้าไปนะคะ” เสียงจากแม่บ้านเอ่ยบอกเขา
“เข้ามาได้” เขาเอ่ยบอกกลับไป แม่บ้านจึงก้าวเดินเข้ามาพร้อมกล่องพิซซ่า มาวางไว้บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา แม่บ้านจึงก้าวเดินออกไป
“ไปกินเถอะ” เขาเอ่ยบอกเธอ
“นายท่านไม่กินเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม
“ฉันยังไม่หิว” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ เธอจึงเดินไปที่โซฟาตัวเล็ก และเปิดกล่องพิซซ่าออกมา เห็นพิซซ่าในกล่องมีทั้งหมดสิบสองชิ้น เธอหยิบออกมาชิ้นหนึ่งและกัดกินทันที ลัคนัยถือแก้วเบียร์เดินมาที่โซฟาตัวยาว เขาหยิบรีโหมดเปิดกดปุ่มหนึ่ง เสียงเพลงเอื่อยๆ เซ็กซี่เย้ายวน มันดังออกมาจากลำโพง ลัคนัยมองไปยังเด่นจันทร์ที่กำลังกินพิซซ่าราวกับหิวโหยมาจากไหน และมันหมดไปแล้วหนึ่งชิ้น เธอจึงหยิบชิ้นที่สองขึ้นมากินอีก
“อร่อยไหม” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย และดื่มลาเกอร์ในแก้ว
“อร่อยค่ะ ขอบคุณ” เธอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เธอจึงกินต่อเขาจึงใช้นิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากเอิบอิ่มของเธอ เพื่อเกลี่ยซอสมะเขือเทศออก ขณะที่เธอมองเขาราวกับถูกมนต์สะกดชวนให้ลุ่มหลงในตัวเขา
“กินเหมือนเด็กเลย” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ ทำให้เธอเอาหน้าออกจากนิ้วของเขา เขามองนิ้วตัวเองแล้วเอามาเลียเบาๆ ทำให้เธอกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
“อร่อยใช้ได้” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงทนต่ำราวกับกดประสาทเธอ
“กินเสร็จฉันขอกลับบ้านได้ไหมคะ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ได้ ถ้าเธอไม่ต้องการอยู่ต่อ” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ แล้วก้าวเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ รินเบียร์อีกหนึ่งแก้ว แล้วก้าวเดินมาโซฟาอีกครั้ง ปรากฏว่าผ้าขนหนูของเขากลับหล่นลงมาที่พื้นห้อง ทำให้เธอแทบสำลักพิซซ่าที่กำลังกินอยู่ เขาก้าวเดินเข้ามานั่งข้างๆ เธอ เธอกลับถอยหนีทันที
“กลัวเหรอ” เขาเอ่ยถาม และวางแก้วเบียร์ให้เธอ
“เปล่าค่ะ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“รู้ฉันห่างเซ็กส์มาเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่เจอเธอในคืนนั้น” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงโทนต่ำจ้องใบหน้าสวยของเธอราวกับสะกดจิตด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
ให้ทายว่า ตอนหน้า ลัคนัยจะได้กินตับๆ หรือจะได้กินแห้ว555+
เม้นท์ด้วยนะทุกคน!!!