บทที่ : ๐๔ ลิ้นกับฟัน

1244 คำ
วันเวลาผ่านไป "อีทองกวาว!" เสียงเรียกที่ทำให้ทองกวาวถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง ขณะที่เธอกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่นั้นก็ทำเป็นหูทวนลม ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเรียก จนกระทั่งพ่อหมอสมิงเดินมาเอง "กูเรียกไม่ได้ยินรึอีทองกวาว" "ได้ยินจ้ะ" "ได้ยินแล้วไหงไม่ขานรับกู มึงกวนกูรึ?" "พี่หมิงก็เดินมาพูดดีๆ ก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องตะโกนเรียกจิกกบาลกันเลย" "มึงทำอะไร?" "รดน้ำผักอยู่จ้ะ" จริงๆ ก็อยากจะย้อนกลับแหละว่าไม่เห็นเหรอ หรือตั้งใจถามกวนเล่นเฉยๆ ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ากำลังรดน้ำผักที่ปลูกไว้ "กูหิวละ เมื่อไหร่มึงจะไปเตรียมสำรับข้าว" "หือ ฉันเตรียมไว้ให้แล้วนะ บนเรือนไง พี่หมิงยังไม่ได้ขึ้นเรือนหรือ ฉันเตรียมไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว คิดว่ากินแล้วเสียอีก" "....." พ่อหมอสมิงถอนหายใจแรง ก่อนจะเท้าเอวมองทองกวาวที่กำลังยืนหันหลังให้แบบไม่สบอารมณ์นัก "แล้วมึงล่ะ กินยัง?" "ยังหรอก ฉันขอทำอะไรข้างล่างสักหน่อย แล้วเดี๋ยวขึ้นไปกินทีหลัง" "ไปกินพร้อมกันนี่ล่ะ จะเรื่องมากไปกินทีหลังทำไม" "....." ทองกวาวไม่ตอบอะไร "ได้ยินที่กูพูดมั้ยอีทองกวาว?" "เรียกให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรือไงกัน ทำไมต้องอีด้วย ทองกวาวเฉยๆ ก็ได้หรอก" "เออน่า เรื่องมากจริงมึงนี่" ทั้งสองอยู่ด้วยกันและตีกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว มีปากเสียงกันได้ตลอด วันๆ ก็อยู่แบบนี้แหละ เสียงเรียกของพ่อหมอสมิงนั้นมักจะดังอยู่แทบจะทุกเวลา แต่ก็นะจะไม่ให้ตีกันได้ยังไง ในเมื่อนิสัยก็ตรงกันข้ามกันซะขนาดนี้ อีกคนหนึ่งเคร่งขรึม ส่วนอีกคนนึงก็แก่นแก้วแสบดื้อเอาเรื่อง อายุอานามก็ห่างกันนับสิบปี ไฉนเลยจะมีอะไรเหมือนกันได้ พอมาอยู่ด้วยกันอย่างนี้แล้ว มันเข้าตำราที่เขาพูดกัน ผัวเมียมันก็เหมือนลิ้นกับฟัน อยู่ด้วยกันก็ตีกันตลอด แต่ว่ากันว่าตีกันบ่อยก็มักจะได้ลูกดก ไม่รู้ตีกันอีท่าไหน "อีกไม่กี่วัน ก็จะมีงานของหมู่บ้าน มึงจะไปไหม?" "งานของหมู่บ้านชาวบ้านก็ไปรวมตัวกันที่นั่นจนหมด ฉันจะไม่ไปได้ยังไงเล่า" "อือดี" งานหมู่บ้านที่ว่าจะเป็นงานรวมตัวของชาวบ้าน เพื่อนำข้าวปลาอาหารทั้งหวานและคาว มาเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษก่อนที่จะถึงฤดูฝน เพื่อให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ทำให้พืชผลในป่าเขานั้นอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านมีกินกันอย่างไม่ต้องอดอยาก ไหว้ผีบ้านผีเรือนผีบรรพบุรุษ และผีเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งจะทำกันในทุกๆ ปี เมื่อฤดูฝนของทุกปีหวนมาบรรจบอีกครั้ง . . ช่วงใกล้พลบค่ำในวันเดียวกัน "อีทองกวาว อีทองกวาว! อีทอง..." "อะไรของพี่เนี่ย บอกแล้วไงว่าให้เรียกดีๆ!" ทองกวาวเดินออกมาจากครัวด้วยท่าทางที่หงุดหงิด มันเป็นคำเรียกติดปากของพ่อหมอสมิงไปแล้ว เธอเองก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก แค่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงไม่เรียกกันดีๆ ยังเคืองเรื่องนั้นอยู่หรือไงกัน "เรียกแล้วทำไมไม่ขานรับ?" "นี่มันจะค่ำแล้วนะ ตะวันคล้อยจะลับขอบป่าไปแล้ว แม่ฉันบอกว่าไม่ให้ขานรับช่วงนี้" ว่ากันว่าเป็นช่วงที่ผีออก คนมีวิชาปล่อยของ หากขานรับไปอาจจะโดนของได้ ซึ่งเรื่องนี้คนมีของอย่างพ่อหมอสมิงรู้ดี "จิ๊!" "แล้วพี่เรียกฉันทำไม หิวข้าวแล้วหรือ?" "กูยังไม่หิว กูคิดว่ามึงแอบหนีไปไหน" "มาก็ดีเลย มาช่วยฉันดูหม้อข้าวก่อน เดี๋ยวฉันจะไปเอาหญ้าให้พลายสายผา" "เออๆ" ว่าแล้วทองกวาวก็เดินจ้ำอ้าวไปยังเพลิงพักที่ทำไว้ลวกๆ เพื่อให้ช้างพลายของตัวเองนั้นได้อยู่เพื่อหลบฝน หากจะทำดีๆ เลย ก็คงจะต้องเกณฑ์ชาวบ้านมานับสิบ ตั้งเสามุงหลังคาให้สูงพออยู่ได้ดีกว่านี้ หลังจากที่ปล่อยให้ช้างพลายอยู่ในป่าหลายวัน เขาก็กลับมาของเขาเอง แต่กลับมาที่บ้านเก่านู้นซึ่งทองกวาวนั้นก็ต้องไปรับกลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะแม่ของทองกวาวดูแลต่อไม่ได้ "หายไปหลายวันเลย ไปฟาดงวงฟาดงาที่ไหนมา ดูซิงาบิ่นเลย" มันจะเป็นช่วงที่ช้างเกิดอาการตกมัน ทองกวาวมักจะปล่อยเข้าป่า เพราะถ้าหากปล่อยให้ตกมันอยู่ในหมู่บ้าน อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีได้ อย่างน้อยเวลาตกมันก็ปล่อยให้เขาได้ฟาดงวงฟาดงาไปกับต้นไม้ให้หายหงุดหงิด . . ตกค่ำหลังจากที่ตะวันลับขอบฟ้าไป ทองกวาวไปอาบน้ำที่ลำธารเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากเรือนของพ่อหมอสมิง บนเขาน้ำที่อยู่ใกล้หมู่บ้านที่สุดก็คือลำธาร ส่วนแม่น้ำที่เอาไว้ใช้สอยนั้นจะอยู่ไกลพอสมควร แอ๊ด~ แอ๊ด~ แอ๊ด~ เสียงบันไดลั่นตามแรงของคนที่กำลังเหยียบก้าวขึ้นมา มันชักช้าอืดอาดเหมือนค่อยๆ เดิน จนกระทั่งเผยกายของทองกวาว เจ้าของร่างเล็กค่อยๆ เดินอย่างยืดยาด ส่งสายตามองไปที่พ่อหมอสมิงที่นั่งชันเข่าอยู่บนตั่งรอกินข้าว ขาเรียวก้าวเชื่องช้าเหมือนกำลังคิดสนุก แต่อีกฝ่ายนั้นเริ่มไม่สบอารมณ์แล้ว "พี่หมิงจ๋า..." "???" "พี่หมิงจ๋า~ จะกินข้าว หรือกินทองกวาวดีจ๊ะ" "อีทองกวาว เดี๊ยะๆ ! เดี๊ยะกูถีบตกเรือน!" "ใจร้าย!" "เล่นอะไรไม่ดูเวล่ำเวลา!" คู่นี้ตีกันได้ตลอดเวลาจริงๆ อีกคนก็ชอบเล่นสนุก อีกคนก็ชอบดุเป็นเรื่องเป็นราว #สักพักต่อมา "เรียบร้อยแล้วจ้ะ" "เออ กูนึกว่าจะได้กินข้าวเย็นยามสองซะแล้ว" "วุ้ย! มันไม่ขนาดนั้นหรอก อาบน้ำใส่ผ้าเดี๋ยวเดียวเอง" "เถียงเก่งจริงนะ" "ไม่ได้เถียงสักหน่อย บอกให้ฟังไง หิวทำไมไม่กินก่อนล่ะพ่อหมอ หือ?" "ปากดีเดี๋ยวคืนนี้กูจะให้โหงพรายมันไปนอนด้วย" "อะ อ่าว ไหงทำกันอย่างนี้ ใจร้ายนะแบบนั้น ลองทำดูสิ พรุ่งนี้เช้าจะหุงข้าวเปล่าให้กิน" "ขู่กูรึ?" "ลองมั้ยล่ะ ถ้าให้ผีมาหลอกฉันนะ จะให้พลายสายผารื้อบ้านทิ้งเลยคอยดู" "อีทองกวาว!" "แลกมั้ยล่ะ ฉันไม่ยอมหรอกนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย บ้านก็ดูแลปัดกวาดให้อย่างดี ถ้าจะให้ผีมารังแกกัน ก็ให้มันรู้กันไปเลย" "จิ๊! แยกเขี้ยวใส่กูเป็นหมาเลยนะ สักวันกูจะกำราบพิษหมาบ้าในตัวมึงคอยดู!" "กำราบตัวเองก่อนเถอะ ชอบพูดไม่ดีใส่คนอื่นอยู่เรื่อย" พ่อหมอสมิงที่ชาวบ้านนับถือและเกรงขาม ตอนนี้กำลังถูกทองกวาวลูบคมอย่างไม่เกรงกลัว แสบดื้อไม่กลัวใคร แต่กลัวผีแหละ กลัวมาก แค่ทำใจดีสู้เสือก็เท่านั้น ข่มกันเข้าไว้จะได้ไม่ถูกรังแก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม