วันหนึ่งขณะที่ทองกวาวกำลังเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านของพ่อหมอสมิง หางตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างที่มันน่ามองจนละสายตาไม่ได้เลย
"โห...ตายแล้ว" มองตาค้าง เพราะเพิ่งเคยเห็นพ่อหมอสมิงถอดเสื้อออกและเหลือเพียงผ้าซิ่นนุ่งบางๆ พันเอวเท่านั้น พอมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำแล้วมันก็ดู...ใหญ่มาก "อึก..."
พ่อหมอกำลังเดินกลับมาที่เรือน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทองกวาวนั้นจ้องนิ่งจนน้ำลายย้อยลงพื้นกระดานแล้ว
ตอนอยู่ในหมู่บ้านก็เห็นแต่ชาวบ้านบางคนก็อ้วนท้วน บางคนผอมแต่พุงโรใหญ่นำหน้าออกมา แต่กับพ่อหมอนั้นกลับผิวพรรณดูดี ร่างกายสัดส่วนดูดีกำยำ ไม่เหมือนชาวบ้านแถวนี้เลย เหมือนเป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกูลมากกว่า
"อีทองกวาว!"
"....." น้ำเสียงที่ทำให้ทองกวาวถึงกับหลุดจากภวังค์ กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่แล้วเชียว
"มึงมองอะไรของมึง?"
"มะ มอง มองอะไรไหน...ก็มองทั่วไปนั่นแหละ"
"มึงนี่มันทำตัวน่าบัดสีจริงๆ"
"อ-อะไร! ไหงมาว่ากันแบบนี้ล่ะ?"
"มึงไม่รู้ตัวเลยรึไง ยืนน้ำลายไหลย้อยจนถึงคางแล้ว"
"อุ้ย!" รีบเอามือเช็ดทันที
"ทำไมเกิดวิปริตอยากจะเอากูเป็นผัวขึ้นมาจริงๆ รึไง?"
"ฉะ ฉันก็แค่ไม่เคยเห็น มองแค่นี้ก็ไม่ได้หรือไง"
"ต่อให้ตอนนี้มึงกำลังคิดอยู่ ก็เลิกคิดไปเสีย กูไม่เอาคนอย่างมึงมาทำเมียหรอก"
"......" ทองกวาวได้แต่ยืนข่มอารมณ์อยู่ในใจ ผ่านมานานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ลืมเรื่องนั้นสักที เอาแต่โกรธเคืองกันอยู่ได้ แถมพ่นวาจาหยาบคายใส่กันทุกวันอีก
เป็นพ่อหมอพ่อครูรักษาคนมาได้ยังไงกัน!
"จิ๊! อะไรนักหนาเนี่ย ฉันทำอะไรก็ดูผิดในสายตาของพี่ไปหมดเลยสินะ!"
บางทีก็นึกน้อยใจที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ก็โทษอะไรไม่ได้หรอก เพราะตัวเองเป็นคนเลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้เอง โกหกคนอื่นว่าเป็นของพ่อหมอแล้ว ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย จะกลับไปแก้ไขอะไรตอนนี้ มันก็ช้าเกินแก้ซะแล้วล่ะ
ในใจลึกๆ ก็อยากให้พ่อหมอเห็นใจบ้าง เธอแค่ไม่อยากถูกแม่บังคับให้เป็นของใครก็เท่านั้นเอง
"พี่ทองกวาว" เสียงเรียกจากใต้ถุนเรือน ทองกวาวไม่ได้ตกใจเพราะรู้แล้วว่าเสียงนี้ใครเป็นเจ้าของ
"อ้าวจุกมาหาพี่สมิงรึ พี่สมิงอยู่ข้างในโน่นแน่ะ" ทองกวาวเดินลงไปรับ
"ฉันเอาปลามาให้พี่ทองกวาวทำกับข้าว เมื่อคืนไปดักเอาตรงลำธาร ได้ปลามาหลายตัวอยู่เหมือนกัน"
"อ๋อ ขอบใจมากนะ"
"ฉันกลับล่ะ"
"เอ้อจุก พรุ่งนี้ก็มากินข้าวที่นี่สิ เดี๋ยวพี่ทำเผื่อ ไหนๆ ก็เอาปลามาให้แล้ว"
"จ้ะพี่ทองกวาว"
ว่าแล้วเด็กที่ชื่อจุกก็เดินลัดป่าหายเงียบกริบไป
"ใครมา?" เสียงจากด้านบน พอหันกลับไปมองก็เห็นเป็นพ่อหมอสมิงที่ดูเหมือนจะตั้งใจไม่ใส่เสื้อแล้วเปลือยเปล่าท่อนบน ราวกับว่ากำลังใช้ร่างกายนั้นยั่วยวนทองกวาวอีกรอบ
"จุกมันเอาปลามาให้น่ะ"
"อ่อ...เสร็จแล้วก็ขึ้นมา จะได้กินข้าวกินปลา กูหิว"
"จ้ะ"
อีกแล้ว! เป็นแบบนี้อีกแล้ว ทั้งที่เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วแท้ๆ กลับไม่ยอมไปนั่งกิน จะเรื่องมากไปถึงไหนกัน
ระหว่างที่กำลังนั่งกินข้าวกัน ทองกวาวก็แทบจะละสายตาจากสิ่งยั่วยวนตรงหน้าได้เลย ร่างกายที่กำยำ ล่ำสัน มีเหงื่อเม็ดๆ ไหลลงไปตามร่องที่เป็นกล้ามเนื้อล่ำ เล่นเอาทองกวาวที่กำลังแตกเนื้อสาวรู้สึกนึกคิดเป็นเกิดอาการหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาเลยทีเดียว
"จะกินข้าว รึจะกินกู จ้องอยู่นั่นล่ะ"
"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อดีๆ เล่า"
"กูก็อยู่ของกูแบบนี้ทุกวัน มึงล่ะลามกมองกูเอง"
"....." ทองกวาวมองตาแข็ง จะไม่ให้มองได้ยังไงกันในเมื่อพ่อหมอสมิงนั้นนั่งอยู่ตรงข้ามเธอแบบนี้ เสื้อไม่ได้ใส่ มีแต่ผ้าขาวม้าพาดอยู่บนบ่าแค่นั้นเอง
"ถ้างั้นวันหลังก็ใส่เสื้อหน่อย เดี๋ยวฉันก็จับพี่ทำผัวจริงๆ หรอก เสียพรหมจรรย์ขึ้นมาร้องไห้เสียใจฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะ ฉันถือว่าเราเป็นผัวเป็นเมียกันอยู่แล้ว"
"อีทองกวาว มึงเป็นหญิงก็หัดเรียบร้อยรักนวลสงวนตัวบ้างซิวะ นี่อะไรหวังจะมาขืนใจกูลูกเดียว"
"ก็ฉันพูดจริง"
"ตกกลางค่ำกลางคืน อย่าริมุดเข้ามุ้งมาขืนใจกูนะมึง จะถีบให้"
"โอ้ย! บอกให้ฉันรักนวลสงวนตัว พี่เองก็เป็นบุรุษเสียบ้างสิ ทำรุนแรงอย่างกับฉันไม่ใช่หญิง"
"ดีดกะโหลกปานม้า ยังคิดว่าตัวเองเป็นหญิงอีกรึ"
"จิ๊! ฉันไม่อยากคุยกับพี่แล้ว อะไรก็ไม่รู้"
กว่าจะได้กินข้าวกันอิ่มก็ทะเลาะกันจนข้าวกับข้าวเย็นชืดหมดแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมต้องทะเลาะกันเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสิ่งที่จะต้องเป็นทุกวันอยู่แล้ว ไม่งั้นคงนอนกันไม่หลับ
ตกกลางคืนทั้งสองก็นอนอยู่คนละที่กัน ทองกวาวเริ่มปรับตัวได้แล้ว เพราะทำงานในช่วงกลางวันจนร่างกายเหนื่อยล้า พอถึงเวลานอน เธอก็หลับปุ๋ยไปแบบไม่มีตื่นกลางดึกเลย และก็แน่นอนไม่มีอะไรมารบกวนเธอสักนิด หลับสบายเพราะอากาศดีทั้งคืน
ผีเหรอ? เธอก็เชื่อนะว่าที่นี่จะต้องมี เพราะที่บ้านของเธอเองเธอก็เชื่อ แค่เธอไม่เคยเห็นกับตาตัวเองก็เท่านั้น ไม่รู้หรอกว่า ผีบรรพบุรุษ ผีป่าผีไพร รวมถึงผีร้ายที่อยู่ในป่า หน้าตามันเป็นยังไง จะน่าเกลียดน่ากลัว หรือมันจะเหมือนกับคนธรรมดาเธอก็ไม่รู้
.
.
เช้าตรู่วันถัดมา
"อ้าว ไอ้จุกมึงมาทำอะไรแต่เช้า?"
"พี่ทองกวาวชวนมาจ้ะ"
"ชวน?"
"จ้ะ ชวนมากินข้าวด้วย"
"ใครบอกมึง"
"ก็ฉันนี่แหละเป็นคนบอกเอง เจ้าจุกอุตส่าห์ไปหาปลามาให้ จะทำกับข้าวหุงข้าวเผื่อแล้วมากินด้วยกัน มันจะเป็นอะไรไป" ทองกวาวเดินออกมาได้ยินการสนทนาพอดี จึงตอบแทรกกลับไป
"ทำตัวเป็นแม่พระขึ้นมาเชียว"
"แล้วจะหวงไปทำไมล่ะ เจ้าจุกมันก็ตัวนิดเดียว จะกินสักเท่าไหร่กันเชียว"
"กูก็ไม่ได้ว่าสักหน่อย"
"ฉันเหนื่อยที่จะต้องรบกับพี่แล้วนะ วันนี้หยุดสักวันเถอะ อยู่เงียบๆ บ้าง ไม่ต้องเรียกฉัน"
"เหิมเกริมใหญ่แล้วนะ!"
"คนอะไร บ้าอำนาจเสียจริง คิดว่าเป็นเจ้าของเรือนแล้วจะทำยังไงกับคนอาศัยก็ได้หรือ?"
"บ๊ะๆ กูไม่อยู่ตรงนี้ล่ะ เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ"
"ฉะ ฉันไปด้วยจ้ะพ่อหมอ" เจ้าจุกรีบวิ่งตามออกไป
"เฮ้อ..." ทองกวาวถอนหายใจหนัก จะมีบ้างสักวันไหมนะ ที่จะได้คุยกันดีๆ ไม่มีกูไม่มีมึง ไม่เรียกจิกกบาลกัน อยู่เงียบๆ สักวัน คงจะสบายหูไม่น้อยเลย