“สวัสดีค่ะคุณจีร ฉันมาแทนคุณพ่อค่ะ พอดีคุณพ่อติดธุระต้องขออภัยด้วยจริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ เชิญทางนี้ดีกว่า”
จีรรัชญ์พายมือเชิญสสิรา บุตรสาวของสุรกิจคู่ค้ารายใหม่ที่กำลังจะได้ร่วมงานกัน สสิรายิ้มให้เขาตอนที่เดินตามชายหนุ่มไป รั้งหลังทั้งคู่เป็นปรมะกับแสนรัก
“รักไม่เข้าใจเลยค่ะคุณเปรม ทำไมคุณจีรต้องให้รักตามมาด้วย”
“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ”
ปรมะอมยิ้ม เท้าของเขายังคงขยับตามจีรรัชญ์กับสสิราที่เดินนำหน้า ก่อนที่ทั้งหมดจะหยุดเท้ายังโต๊ะอาหารที่แสนรักทำการจองไว้
“เชิญค่ะคุณสสิรา”
แสนรักบอกอย่างกระตือรือร้นตอนที่ช่วยขยับเก้าอี้ให้สสิรา ส่วนปรมะกำลังขยับเก้าอี้ให้จีรรัชญ์
“พวกคุณเปิดอีกโต๊ะหนึ่งเลย เดี๋ยวผมจ่ายเอง หรือว่าจะนั่งด้วยกัน”
“อย่าเลยดีกว่าค่ะ”
แสนรักปฏิเสธแบบทันควัน จะให้เธอนั่งกินข้าวกับท่านประธานอาหารคงฝืดคอน่าดู อย่างน้อยก็ขอให้ช่วงเวลารับประทานอาหารเป็นช่วงเวลาดีๆ ในชีวิตของเธอบ้างเถอะ
“ทานอาหารให้อร่อยนะคะคุณสสิรา”
ก่อนไปนั่งอีกโต๊ะแสนรักไม่ลืมที่จะกล่าวกับสสิราด้วยรอยยิ้มจริงใจ หญิงสาวเดินออกไปพร้อมกับปรมะ และนั่งห่างออกไปจากโต๊ะของจีรรัชญ์ราวสองสามโต๊ะ
“สสิถามได้ไหมคะ คุณจีรเข้ามาบริหารที่เบดดิ้งแฟพริคนานหรือยังคะ”
“ผมรับช่วงต่อมาจากคุณพ่อราวๆ แปดปีแล้วครับ”
จีรรัชญ์ตอบพลางตักอาหารเข้าปาก เขารับช่วงต่อจากคุณพ่อตั้งแต่เรียนจบปริญาตรี ส่วนช่วงที่ไปปริญญาโทที่ต่างประเทศช่วงนั้นมีคุณพ่อของเขากับปรมะเข้ามาช่วยจัดการแทนชั่วคราว
“เก่งจังเลยนะคะ”
สสิรายิ้มหวาน หญิงสาวตักอาหารเข้าปากบ้าง ดีจริงๆ ที่วันนี้เธออาสามาแทนคุณพ่อที่ติดธุระด่วน ถึงได้เจอกับหนุ่มหล่อ โปรไฟล์ดีอย่างจีรรัชญ์
“ขอบคุณครับ”
จีรรัชญ์ไม่ปฏิเสธคำชมของสสิรา เขารับคำพร้อมอมยิ้มนิดๆ ตามมารยาท
“สสิอิจฉาภรรยาของคุณจีรเลยนะคะที่ได้ผู้นำครอบครัวที่ดีและเก่งแบบนี้”
“ผมยังไม่ได้แต่งงาน”
สสิราซ่อนรอยยิ้มแห่งความยินดีเอาไว้อย่างแนบเนียน นี่คือสิ่งที่เธออยากรู้แต่จะให้ถามออกไปตรงๆ ก็คงดูจงใจเกินไปจนน่าเกลียด
“ขอโทษทีนะคะ พอดีสสิคิดว่าคุณจีรมีครอบครัวแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ”
“อาหารที่นี่อร่อยดีนะคะ” สสิราแสร้งเปลี่ยนเรื่อง
“เลขาฯ ของผมเขาเป็นคนจัดการครับ”
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง”
“แล้วคุณสสิราล่ะครับ เข้ามาช่วยคุณงานคุณสุรกิจนานรึยัง” จีรรัชญ์ถามกลับตามมารยาท
“สสิเพิ่งจะเข้ามาช่วยคุณพ่อได้ปีกว่าเองค่ะ ยังไงต้องขอคำแนะนำจากคุณจีรด้วยนะคะ”
“เราทำธุรกิจคนละแบบกัน ผมไม่แน่ใจว่าจะช่วยแนะนำอะไรคุณได้มากนักนะครับ”
“อย่าเพิ่งปฏิเสธกันสิคะ สสิว่าคุณจีรต้องช่วยสสิได้แน่ๆ แต่สสิจะไม่รบกวนคุณจีรบ่อยหรอกค่ะ ไว้สสิหาทางออกไม่ได้จริงๆ ยังไงสสิคงต้องขอรบกวนคุณจีรเอาไว้ล่วงหน้าเลยก็แล้วกันนะคะ”
ยากที่จะปฏิเสธคำขอของสสิราเมื่ออีกฝ่ายออกตัวมาแบบนั้น แต่จีรรัชญ์ก็เลือกที่จะตอบกลับอย่างแบ่งรับแบ่งสู้
“เอาไว้ดูเป็นเรื่องๆ ไปก็แล้วกันนะครับ ผมเองก็ไม่ได้เก่งไปซะทุกเรื่อง”
“ผมไม่แน่ใจนะครับว่างานนี้เราจะได้คู่ค้าหรือได้คู่รัก”
“คู่รักอะไรกันคะ คุณเปรมดูหน้าคุณจีรก่อนค่ะ ดูให้ดี ดูอีกที”
ปรมะเหลือบสายตามองจีรรัชญ์ที่อยู่ห่างออกไปสองสามโต๊ะก็เห็นเป็นจริงอย่างที่แสนรักว่า
“อ่า สงสัยผมคงจะมองผิดไป”
“แบบนี้ต้องถูกปลดจากตำแหน่งที่ปรึกษาท่านประธานเบดดิ้งแฟบริคแล้วนะคะ”
“อย่าเพิ่งวู่วามเลยครับ ผมยังต้องผ่อนบ้านผ่อนรถอยู่” ปรมะเอ่ยอย่างติดตลก “ว่าแต่คืนวันเกิดเจ้าสัวจิณณะผมเห็นคุณเมาจนถูกคนของบ้านคุณจีรพยุงเข้าในบ้านใช่หรือเปล่าครับ แต่ว่าคุณจีรบอกว่าผมตาฝาดเพราะคุณรักกลับตั้งแต่ตอนที่งานเลิกถูกไหมครับ”
“อ๋อ ชะใช่ค่ะ”
ยังดีที่ปรมะเข้าใจแบบนั้นเธอจะได้ไม่ต้องหาคำอธิบายเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง ไม่นึกไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าปรมะจะเห็นตอนที่เธอถูกหิ้วปีกด้วย
‘ฮืออออ พุทโธ ธัมโม สังโฆ อย่าให้เรื่องราวระหว่างเธอกับคุณจีรมีใครระแคะระคายอีกเลย’