1

1107 คำ
ศวิตาก้าวลงจากรถสองแถวช้าๆ ในมือของเธอมีกระเป๋าสัมภาระขนาดเล็กอยู่อีกหนึ่งใบ เมื่อก้าวลงจากรถแล้วหญิงสาวก็ต้องรีบใช้มือปิดปากและจมูกอย่างรวดเร็ว เมื่อรถสองแถวสีแดงที่มีผู้โดยสารเต็มคันรถนั้นก็วิ่งฉิวจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แต่ฝุ่นแดงของถนนที่ฟุ้งกระจาย เธอกวาดตามองรอบๆ แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปใต้ร่มไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้เงาร่มเย็นในช่วงเวลาบ่ายจัดเช่นนี้ แสงแดดจัดจ้านั้นทำให้ศวิตาร้อนเสียจนแทบทนไม่ไหว รู้สึกเหมือนผิวหน้าและลำตัวที่โผล่พ้นเสื้อผ้านั้นร้อนจนไหม้เกรียมอย่างไรอย่างนั้น 'เมื่อมาถึงแล้ว ให้ไปรอใต้ต้นหูกวางต้นใหญ่หน้าร้านขายของชำหน้าหมู่บ้านนะ' เสียงของพี่สาวดังขึ้นในความคิด ซึ่งบทสนทนานี้พวกเธอติดต่อกันครั้งสุดท้ายเมื่อสามวันก่อนหน้าที่ศวิตาจะเดินทางมาที่อำเภอแห่งนี้ 'พี่จะรอฉันที่นั่นเหรอ' ศวิตาจำได้ว่าตนเองถามไปเช่นนั้น เมื่ออีกฝ่ายโทรชวนเธอให้มางานแต่งงานอย่างง่ายๆ ซึ่งเธอก็เพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายจะจัดขึ้นก็ตอนที่โทรมานี่แหละ ส่วนเจ้าบ่าว...เธอก็ไม่รู้หน้าค่าตาหรอก รู้แต่เพียงว่าพี่สาวที่อายุห่างกันเพียงหนึ่งปีของเธอนั้นมีคนรักเป็นพ่อเลี้ยงหนุ่มทางเหนือ ซึ่งศิรดาทำงานอยู่ที่นั่นก็เท่านั้น 'ใช่ เมื่อเธอมาถึงพี่จะส่งคนไปรับเธอเอง ขอแค่เธอไปตรงตามเวลาก็พอ' 'ก็ได้' หญิงสาวตอบตกลงง่ายๆ 'ถ้าไม่เห็นแก่พี่ ฉันไม่ไปจริงๆ ด้วย' เธอเอ่ยเสริมขึ้น ศวิตาและศิรดานั้นแยกกันอยู่มานานหลายปีนับตั้งแต่พ่อกับแม่แยกทางกัน เธอย้ายมาอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ ขณะที่ศิรดาอยู่กับพ่อที่จังหวัดเดิม สองพี่น้องติดต่อกันอยู่เสมอ แต่ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันเท่าไหร่ ครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกันก็เป็นตอนที่ศิรดาขึ้นมาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ ทว่าอีกฝ่ายก็อยู่หอมากกว่าอยู่บ้านอย่างเธอ ซึ่งนั่น...ก็ผ่านมาตั้งสองสามปีมาแล้ว 'เธอต้องมานะ' ศิรดาเน้นย้ำเสียงหนักแน่น น้ำเสียงเจือแววร้อนรน เธอขมวดคิ้วมุ่นกับน้ำเสียงเร่งเร้านั้น แต่ก็ยอมตอบแต่โดยดี 'แน่นอน ฉันต้องไปอยู่แล้ว เธอเป็นพี่ฉันนี่นาปอ' 'ฉันรักเธอนะป่าน' พี่สาวของเธอจู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมา ศวิตาหัวเราะ นานๆ ทีพี่สาวจะพูดอะไรอย่างนี้ 'ฉันก็รักเธอ เดี๋ยวเราเจอกัน' เอาเข้าจริงพอเธอไปขออนุญาตผู้เป็นยายกับแม่ การเดินทางไปหาศิรดากลับยากกว่าที่คิด ท่านทั้งสองไม่อนุญาตซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ทว่าศวิตาก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ถึงแม่กับพ่อจะเลิกกันแบบตัดขาดไม่เผาผี ทว่านั่นไม่รวมเธอด้วย เธอเสียใจและเสียดายมามากพอแล้วที่ตอนพ่อตายเธอไม่ได้ไปงานศพ...ครั้งนี้นอกจากจะได้ไปหาพี่สาวของเธอแล้ว ศวิตาตั้งใจว่าจะต้องไปเคารพศพพ่อให้ได้ด้วย ฉะนั้น...เธอต้องไปให้ได้ วันต่อมาหญิงสาวทำเรื่องลาหยุด ก่อนจะแอบซื้อตั๋วเครื่องบินตรงดิ่งมายังจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศ แล้วต่อรถอีกเกือบห้าชั่วโมงเพื่อลงหน้าหมู่บ้านแห่งนี้โดยที่ไม่บอกแม่สักคำ อันที่จริง...เธอปิดเรื่องนี้เป็นความลับแม้กระทั่งกับเพื่อนสนิทของเธอ...เผื่อว่าแม่จะคาดคั้นถามถึงเธอกับยัยพิน ยัยนั่นจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่โกหกแม่ของเธอ ๐๐๐๐๐ หญิงสาวคิดอะไรเรื่อยเปื่อย กว่าจะรู้ตัวอีกที ฝุ่นแดงที่เพิ่งเริ่มสงบก็เริ่มคละคลุ้งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่แล่นปุเลงๆ มาจอดตรงหน้าเธอ ส่งผลหญิงสาวรีบเอามือปิดปากกับจมูกแทบไม่ทัน หญิงสาวหันไปยังต้นทาง เมื่อรถกระบะคันนั้นจอดสนิทลงตรงหน้าเธออย่างเฉียดฉิว ราวกับว่าคนขับตาบอดอย่างไรอย่างนั้นที่ไม่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้ เธอนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก แล้วหมายมาดในใจว่าจะต้องบอกเรื่องนี้แก่ศิรดาด้วยว่าคนที่อีกฝ่ายส่งมารับเธอนั้นใช้ไม่ได้เอาเสียเลย คนที่ก้าวลงมาจากรถกลางเก่ากลางใหม่นั้นเป็นผู้ชาย รูปร่างสูงใหญ่นั้นมีเสื้อเชิ๊ตยีนส์เก่าๆ คลุมทับเสื้อกล้างสีขาวออกมอๆ และเปื้อนดินเปื้อนฝุ่น หมวกปีกกว้างใบนั้นทำให้เธอเห็นหน้าเขาไม่ชัดนัก พอๆ กับที่ดวงหน้านั้นมีแว่นกันแดดสีชาอยู่บนใบหน้า ที่เธอเห็นมีเพียงโครงหน้าเรียว รับกับลูกคางบึกบึนบ่งบอกว่าเป็นคนสู้ชีวิต ใบหน้าคร้ามแดดจนกลายเป็นสีน้ำผึ้งนั้นบ่งบอกว่าเขาน่าจะเป็นคนขาวมากกว่าคนดำ ทว่าเพราะตากแดดนานๆ ทำให้ผิวกลายเป็นสีน้ำผึ้งจาง เหนือริมฝีปากและปลายคางมีไรเคราที่ไม่ได้รับการโกนราวๆ สามถึงสี่วัน ส่งให้เขาดูดิบเถื่อน แน่นอน...ในความเห็นของเธอเหมือนโจรเถื่อนเสียไม่มีล่ะ! อีกครั้งที่เธอหมายมาดในใจ ต้องบอกศิรดาแล้วว่า...ต่อไปอย่าส่งผู้ชายท่าทางน่ากลัวแบบนี้มารับเธอ ขายาวภายใต้ยีนส์สีซีดจางโอบรัดสะโพกสอบเพรียวก้าวตรงมาหาเธอ เมื่อเห็นเขาชัดๆ เธอก็อดนิ่วหน้าไม่ได้ เมื่อรูปร่างสูงใหญ่นั้นดูใหญ่โตราวกับยักษ์ปักหลั่นนั้นดูคล้ายกับจะคุกคามเธออย่างไรอย่างนั้น เขาเดินมาหาเธอเป็นแน่แท้ เพราะจู่ๆ เขาก็หยุดตรงหน้าเธอ ชายหนุ่มถอดแว่นกัดแดดออกทำให้เธอได้เห็นหน้าตาของเขาทั้งหมด เขาเป็นเจ้าของดวงตาสีสนิม จุดเข้มอยู่ตรงกลางดวงตาของเขาก่อนจะไล่สีอ่อนจางจนเกือบเป็นอำพัน...คมดุเหมือนตาเสืออย่างไรอย่างนั้น คิ้วเข้มพาดเฉียงเหนือดวงตาคู่คมยิ่งส่งให้เขาดูดุดันน่าครั่นคร้าม ขณะที่จมูกโด่งเป็นสันนั้นรับกับริมฝีปากหยักลึกสีสด “เธอเป็นน้องสาวของศิรดาใช่ไหม?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม