2

1282 คำ
“เธอเป็นน้องสาวของศิรดาใช่ไหม?” คำถามนั้นหลุดออกมาจากริมฝีปากคนตรงหน้า ดวงตาคมดุของเขาจ้่องมองเธอราวกับจะสำรวจ...และแน่นอน เธอเห็นความไม่พอใจในดวงตาของเขา ศวิตาเชิดกหน้าขึ้น ก่อนจะปรายตามองผู้ชายคนหน้าด้วยความไม่พอใจ ผู้ชายคนนี้อย่างมากก็เป็นแค่คนของไร่ภคนันท์ซึ่งเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของพี่ปอ อย่างน้อยเขาควรทำสีหน้าและท่าทางเคารพคนที่จะมาเป็นญาติเจ้านายของเขาอย่างเธอให้มากกว่านี้ ศวิตาเองใช่จะเป็นคนดูถูกคน แต่เธอรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้ามีท่าทีดูถูกและไม่พอใจเธออยู่ลึกๆ ทำให้เธออดเชิดใส่อีกฝ่ายไม่ได้ “ใช่” หญิงสาวตอบไปสั้นๆ มองคนตรงหน้าด้วยสายตาแสดงความไม่พอใจเช่นเดียวกัน “งั้นขึ้นรถมาได้แล้ว ผมเป็นคนจากไร่ภคนันท์ มารับคุณแทนศิรดา” น้ำเสียงห้วนๆ ของเขาบอกเธอ พร้อมกับที่เขาก้มลงคว้าเอากระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมของเธอขึ้นมาแล้วเหวี่ยงไปไว้ท้ายกระบะที่คลุกไปด้วยฝุ่นนั้น “แล้วพี่ปอไปไหน?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วนสั้นไม่แพ้กัน “พี่สาวคุณติดธุระ ผมเลยต้องมาแทน” “ฉันจะเชื่อคุณได้แค่ไหน” หญิงสาวถามอย่างหวาดระแวง อดเอาโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อตรงนี้ดันไม่มีสัญญาณเสียอย่างนั้น บ้าจริง! ไหนโฆษณาปาวๆ ว่าคลื่นครอบคลุมทั่วไทย หลอกลวงชัดๆ นี่เธอยังอยู่ในเมืองไทยนะ ถึงจะใกล้ชายแดนแค่ไหนก็เมืองไทย ทำไมดันไม่มีคลื่น! “คิดว่านี่คงเป็นหลักฐานได้นะ อ้อ หวังว่าคงจะจำลายมือพี่สาวตัวเองได้นะคุณศวิตา” เธอปรายตามองอีกฝ่ายอย่างหวาดระแวง แม้จะเริ่มคลายใจว่าอาจจะเป็นคนที่ศิรดาส่งมาจริงๆ เพราะอีกฝ่ายรู้จักชื่อเธอ หญิงสาวดึงจดหมายจากมือที่อีกฝ่ายส่งมาให้ ลายมือคุ้นตาของศิรดาปรากฏขึ้นเมื่อเธอคลี่ออกอ่าน ยัยป่าน ถ้าเธอเห็นจดหมายฉบับนี้มากับคนที่ถือมันมา ให้เธอวางใจได้ว่าอยู่กับเขาแล้วจะปลอดภัย พี่ส่งเขามารับเธอเอง อย่าได้คลางแคลงสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น พอดีพี่ติดธุระด่วน เลยมารับเธอด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องขอโทษด้วย พี่สาวของเธอ ศิรดา เธอพับจดหมายแล้วถอนหายใจยาว ก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆ อีกฝ่ายจึงผายมือไปยังรถกระบะคลุกฝุ่นกลางเก่ากลางใหม่คันนั้น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกือบกึ่งจะเป็นประชดประชัน “งั้นเชิญเลยครับ อ้อ หวังว่าคุณคงจะไม่ถือสาที่ผมเอารถเก่าๆ คันนี้มารับ เพราะคันอื่นมันไม่ว่างเลย ยังไงหวังว่าสาวเมืองกรุงจะทนนั่งมันลงนะ” คราวนี้ศวิตาตวัดตามองคนที่ประชดประชันเธอด้วยสายตาขุ่นขวาง “ทำไมฉันจะนั่งไม่ได้ แล้วไม่ต้องมาตัดสินแทนฉันว่าฉันจะนั่งได้หรือไม่ได้” หญิงสาวเอ่ยเสียงขุ่น แล้วเดินฉับๆ ไปเปิดประตูรถออกราวกับเป็นกระชากแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งบนเบาะหน้าข้างคนขับ จิกตาดุใส่คนที่ก้าวตรงมายังรถช้าๆ ก่อนจะหันไปปิดประตูรถเสียงดังปัง! โดยไม่กลัวเลยว่าประตูจะหลุดออกมาหรือไม่ เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้อีตาคนงานกิติมศักดิ์นี่เข้าใจว่าอย่าได้ดูถูกว่าเธอจะนั่งรถเก่าๆ คันนี้ไม่ได้! ๐๐๐๐๐ ว่าทางที่มาครั้งแรกเลวร้ายแล้วเพราะเป็นฝุ่นแดง ทว่าทางเข้าไร่ภคนันท์นั้นกลับดูเหมือนจะเลวร้ายกว่า รถอะไรแอร์ก็เสีย ร้อนก็ร้อน แต่พอเปิดกระจกลงฝุ่นก็ฟุ้งกระจาย จนเธอต้องรีบเอาผ้าอุดปากอุดจมูกตัวเองแทบไม่ทัน แถมท้องไส้เธอก็สั่นสะเทือนเพราะไอ้ทางนี่มันก็แสนจะกันดารเป็นหลุมเป็นบ่อ อีตานี่ก็ขับรถเร็วมหาวายร้าย เจอหลุมเจอบ่อก็กระโจนเข้าใส่เหมือนที่บ้านไม่เคยมีจนไส้เธอแทบจะทะลุออกมาทางปากแล้ว! ศวิตาได้แต่ขบฟัน แล้วพยายามทำใจให้สงบ แม้ว่าท้องไส้จะปั่นป่วนจะขยักขย้อนออกมาก็ตามที นี่เป็นอีกหนึ่งที่เธอจะจดจำไว้ในใจแล้วรอบอกแก่ศิรดาว่าคนงานในไร่ภคนันท์คนนี้ใช้ไม่ได้เลย หญิงสาวหลับตาลง ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ก็รู้สึกได้ว่ารถที่โคลงเคลงนั้นดูเหมือนจะวิ่งราบเรียบขึ้น เมื่อลืมตาจึงเห็นว่าสองข้างทางนั้นเป็นเทือกเขา พื้นที่ในส่วนนี้ดูเป็นระบบระเบียบ ที่ทำให้เธอพอจะเดาออกว่าตนเองคงเข้ามาสู่เขตไร่ภคนันท์เรียบร้อยแล้ว อากาศที่ร้อนจัดนั้นดูเหมือนจะเริ่มเย็นเพราะสายลมที่พัดผ่าน และรถที่ยังคงแล่นด้วยความเร็วเท่าเดิม แต่ฝุ่นแดงนั้นหายไปเพราะถนนในส่วนของไร่นี้ดูดีกว่าถนนก่อนเข้าไร่มากนัก ศวิตากวาดตามองไปรอบๆ เห็นคนงานหลายคนกำลังก้มๆ เงยๆ ดูแลแปลงดอกไม้กันอยู่ด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย อดอิจฉาผู้เป็นพี่สาวลึกๆ ไม่ได้ที่ศิรดาได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามและชีวิตเรียบง่ายเช่นนี้ ไม่ต้องคอยถูกบีบบังคับ ไม่ต้องอยู่ในกฏ อยู่ในระเบียบ ชีวิตไม่ต้องสับสนวุ่นวายเพราะอยู่ในเมืองใหญ่ หญิงสาวมองสองข้างทางเพลิน ลมเย็นๆ พัดเอาผมที่เคยมัดรวบเป็นหางม้าพลิ้วปลิวระใบหน้า จนกระทั่งรถมาจอดอยู่หน้าบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ที่สร้างสไตล์บ้านแนวคันทรีที่เคยเห็นในละคร ดูน่าอยู่และน่ารักในเวลาเดียวกัน คนขับเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอก้าวตาม แล้วก็ต้องผงะถอยแทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็กระโจนเข้าหาเธอทั้งตัวจนศวิตาเผลอร้องวี๊ดลั่น เมื่อมันงับมือเธอเบาๆ ราวกับจะหยอกเอิน “มินมินมานี่” เสียงห้าวๆ เรียกมัน ทำให้เจ้าโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนั้นกระโดดไปหาร่างสูงใหญ่ข้างๆ ที่ในมือของเขามีกระเป๋าเสื้อผ้าของเธออยู่ในมือ “ลงมาได้แล้วคุณ” เขาเอ่ยเร่งเร้า แล้วเดินนำเข้าไปในบ้านหลังนั้นพร้อมกับเจ้ามินมิน ทำให้หญิงสาวต้องรีบสาวเท้าตามเข้าไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากถูกทิ้ง เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้าน ผู้ชายตรงหน้าก็ส่งกระเป๋าให้คนรับใช้ที่นุ่งซิ่นกับเสื้อยืดธรรมดาๆ ที่เข้ามายอบตัวแล้วรับกระเป๋าไปจากเขา “เอาไปไว้ที่ห้องข้างๆ ห้องฉัน” คำสั่งของเขาทำให้เธอขมวดคิ้วมุ่น ดูท่าอีตานี่จะเป็น...คนงานกิติมศักดิ์หรือเปล่า จึงมีสิทธิ์อาศัยอยู่ในบ้านใหญ่หลังนี้ “แล้วพี่ปอล่ะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นมาลอยๆ แต่เขาคงรู้ตัวว่าตอนนี้เธอถามเขานั่นแหละ ชายหนุ่มจึงชะงักกึก แล้วหันมาทางเธอทั้งตัว เขามองเธอราวกับว่าเธอเป็นตัวน่ารำคาญอะไรประมาณนั้น “ศิรดาติดธุระ คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่แหละ” “อ้อ แล้วเมื่อไหร่จะกลับ” “เมื่อเห็นนั่นแหละ” คำตอบกวนๆ นั้นทำให้หญิงสาวถลึงตาดุใส่เขา “กวนประสาท!” เธอว่าเขาตรงๆ แล้วสะบัดหน้าพรืดใส่ทันทีอย่างขุ่นเคือง คนบ้าอะไร ปากเสียชะมัดเลย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม