5

1182 คำ
เช้าวันต่อมา ศวิตาตื่นแต่เช้าเพราะความไม่คุ้นชินกับห้องนอนใหม่ หญิงสาวจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกจากห้อง แล้วเลี้ยวซ้าย หมายจะออกไปเดินเล่นรอบๆ บริเวณบ้าน ทว่าเธอก็ต้องชะงักกึก เมื่อเจอกับเจ้าของบ้านพอดิบพอดี หญิงสาวได้แต่แอบบ่นพึมพำในใจ ขณะที่ก้มศีรษะทักทายคนที่ตอนนี้ยังแต่งตัวคล้ายเมื่อวาน เว้นเสียแต่ดวงหน้าไม่มีแว่นตากันแดด และผมสีน้ำตาลเข้มของเขาก็ถูกหวีเสยเรียบขึ้นไป ไม่มีลูกผมตกลงมาปรกหน้าผากเหมือนเมื่อวาน แต่นัยน์ตาเสือสางของเขายังน่ากลัวและน่ารังเกียจเหมือนเดิม เพราะมันเอาแต่จ้องเธอด้วยความขุ่นเคืองเหมือนโกรธมาสิบชาติ บ้างก็มองอย่างหยามหยันทำให้เธอไม่ชอบใจ หญิงสาวเดินเลี่ยงหนี แต่เดินไปได้ไม่นานก็พบว่ามีสาวใช้เดินกึ่งวิ่งตรงดิ่งเข้ามาหาเธอ ศวิตาเลยหยุดรอให้อีกฝ่าย “สวัสดีค่ะคุณ” พอมองใกล้ๆ ก็พบว่าสาวใช้ตรงหน้านั้นน่าจะอายุอานามราวๆ ยี่สิบปีเท่านั้น “จะไปไหนเหรอคะ” เจ้าหล่อนถาม ศวิตาส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอ่อนๆ “สวัสดีค่ะ พอดีฉันว่าจะเดินเล่นไปน่ะค่ะ” “พ่อเลี้ยงให้หนูพาคุณไปเดินเล่นน่ะค่ะ” สาวใช้คนนั้นตอบพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้เธอ “อย่าเรียกคุณเลยค่ะ เรียกพี่ป่านดีกว่า” ศวิตาตอบอย่างง่ายๆ เพราะถูกใจอัธยาศัยของอีกฝ่าย แล้วไม่คิดจะปฏิเสธไกด์ท้องถิ่นที่ถูกส่งมาให้ แม้ว่านั่นจะมาจากศัตรูของเธอก็ตามที “หนูชื่อเอื้องค่ะ” เด็กสาวคนนั้นตอบ แล้วส่งยิ้มยิงฟันให้เธอ ศวิตาจึงยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย อยู่ที่นี่ อย่างน้อยเธอผูกมิตรเอาไว้ก็ดีกว่าการสร้างศัตรูนั่นแหละ เพราะศัตรู...มีเพียงคนเดียวก็พอแล้ว! “คุณป่านอยากไปที่ไหนคะ” เอื้องถามอย่างไรก็ไม่กล้าเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ตามที่ได้รับอนุญาต เพราะอย่างไรหญิงสาวตรงหน้าก็เป็นถึงแขกของเจ้านาย “ที่ไหนก็ได้จ้ะ” ศวิตาตอบตามตรง “เอื้องเป็นเจ้าถิ่น พี่ให้เอื้องนำทางเลย” หญิงสาวเอ่ยจบก็ยิ้มกว้างให้เด็กสาวตรงหน้า ขณะที่เอื้อมพยักหน้าหงึกหงัก แล้วทำท่าครุ่นคิดนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “งั้นเราไปเดินเล่นกันสักชั่วโมงนะคะ แล้วตอนเจ็ดโมงครึ่งค่อยกลับมาทานอาหารเช้ากับพ่อเลี้ยง ท่านสั่งมาน่ะค่ะ” ตอนท้ายเอื้องเอ่ยเสริมขึ้นมาเมื่อเห็นว่าแขกสาวทำหน้าเบ้คล้ายกับจะต่อต้าน ถึงอย่างนั้นศวิตาก็อดถามไม่ได้อยู่ดี “ไม่ไปไม่ได้เหรอ” เธอไม่อยากเห็นหน้าไอ้ว่าที่พี่เขยตัวร้าย รู้สึกไม่ถูกชะตาด้วยมากถึงมากที่สุด เลยคิดว่าอยากจะรอเจอหน้าเขาพร้อมกับศิรดาเลยดีกว่า เพราะบางทีการได้เห็นหน้าพี่สาวอาจจะทำให้เธอข่มใจอยู่ ไม่คิดพูดจาไม่ดีหรือคิดยุยงให้พี่สาวของเธอล้มงานแต่งงานภายในวันนี้พรุ่งนี้เสียเลย ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เกิดมา เธอไม่ถูกชะตากับใครหลายๆ คน แต่มีเขานี่แหละที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีและอาจถึงขั้นเกลียดขี้หน้าได้ตั้งแต่เพิ่งรู้จักไม่ถึงวันดีได้อย่างพ่อเลี้ยงพีรวัส คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็อดสงสัยจนหัวแทบแตกไม่ได้ว่าพี่สาวของเธอ...ศิรดาคิดอย่างไรถึงจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ สงสัยตอนนั้นพี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ! “เอ่อ...ไปเถอะนะคะ “เอื้องได้แต่ตีหน้าปุเลี่ยนๆ ด้วยวางตัวไม่ถูกเมื่อเห็นว่าแขกสาวที่เธอชอบหน้ากลับทำท่าเกลียดเจ้านายตัวเองมากเป็นพิเศษ “ท่านสั่งมา” เห็นสีหน้าเหยๆ ของสาวน้อยตรงหน้าแล้วศวิตาก็ได้แต่ถอนหายใจยาว อยู่ในถิ่นศัตรู เธอเองจะมาเรื่องมากก็ไม่ได้เสียด้วยสิ สุดท้ายจึงได้แต่จำใจรับคำอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก “ก็ได้” เอื้องได้รับคำตอบที่พอใจแล้วเอื้องก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วชี้ชวนกับศวิตาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “งั้นเราเดินไปดูใกล้ๆ นี่ก่อนแล้วกันนะคะคุณป่าน ตรงโน้นเป็นแปลงดอกไม้ค่ะ เดี๋ยววันอื่นๆ หนูค่อยพาคุณป่านไปดูส่วนอื่นอีก” “ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นจ้ะ” ศวิตาตอบ “ฉันไม่รีบอะไร ก็เดินเล่นแก้เบื่อเท่านั้น” “ค่ะ” เอื้องพยักหน้าหงึกหงักรับ ก่อนจะเดินตรงไปยังส่วนที่เป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยง ที่ดูเหมือนจะเป็นแปลงทดลองของพีรวัสที่เขาสร้างเอาไว้หลังเรือนใหญ่ และถัดไปจึงเป็นโซนไร่ดอกไม้ ซึ่งเอื้องได้บอกแก่เธอคร่าวๆ ที่ไร่ภคนันนท์มีไร่ดอกไม้ซึ่งพื้นที่ในการปลูกนั้นใช้ราวๆ หนึ่งร้อยไร่ ถัดไปอีกฟากหนึ่งถึงจะเป็นพวกไร่ผลไม้อย่างไร่องุ่นกินพื้นที่ยาวจนจรดตีนเขา ส่วนพื้นที่บนเขานั้นจึงจะเป็นไร่ชาและกาแฟ และอีกทางฝั่งหนึ่งพ่อเลี้ยงยังทำคอกม้าและเพาะพันธ์ุม้าแข่งซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายในอาณาเขตของไร่ภคนันท์ที่กินเนื้อที่เป็นพันๆ ไร่ นอกจากนั้นแล้วดูเหมือนพีรวัสจะมีรีสอร์ตในเชียงรายอยู่แห่งหนึ่ง และที่เชียงใหม่อีกราวๆ สองสามแห่ง ตลอดจนโรงงานและบริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากไร่ของเขา ศวิตาได้แต่ฟังผ่านๆ ไม่ได้สนใจหรือตื่นเต้นไปกับกิจการหรือความรวยอะไรของเขา แต่ดูเหมือนเอื้องจะภูมิใจในตัวนายหนุ่มอย่างไรชอบกล หญิงสาวจึงไม่ได้ขัด คนไม่ชอบหน้าให้อีกฝ่ายจะเก่งอย่างไร ศวิตาก็ไม่คิดว่าเธอจะลบอคติในหัวใจตนเองออกไปได้ง่ายๆ รวยแล้วไง นิสัยไม่น่าคบมันก็เท่านั้นแหละ “ว่าแต่...” ศวิตาเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเอื้องบรรยายประวัติเจ้านายจบ “เอื้องรู้หรือเปล่าว่าคุณศิรดา พี่สาวของฉันน่ะจ้ะ จะกลับมาถึงไร่ตอนกี่โมง” คำถามนี้ทำให้เอื้องที่เดินนำหน้าเธอถึงกับชะงักอยู่นิดๆ ก่อนเจ้าหล่อนจะรีบก้าวเดินต่อพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงแปร่งนิดๆ ว่า “เอ่อ...เรื่องนี้หนูว่าคุณรอถามพ่อเลี้ยงดีกว่าค่ะ” ศวิตาได้แต่ส่งเสียงตอบรับแล้วไม่ซักไซ้อะไรอีกฝ่ายถึงเรื่องของศิรดาอีก ถึงแม้จะอดสงสัยไม่ได้ว่าเอื้องดูเหมือนจะมีอะไรปิดบังเธอเกี่ยวกับเรื่องของศิรดาก็ตามที เอาเถอะ ยังไงพี่สาวของเธอก็กลับมาวันนี้ อดใจรออีกไม่กี่ชั่วโมงก็คงได้เจอ แล้วเธอจะได้ถามศิรดาถึงความ 'แปลก' ของคนในไร่ภคนันท์นี้โดยทันที ๐๐๐๐๐
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม