6

1196 คำ
หลังจากพาศวิตาไปส่งที่เรือนใหญ่ เอื้องก็แยกกับอีกฝ่ายที่นั่นแล้วเดินตรงดิ่งไปยังห้องครัวที่อยู่ทางด้านหลังและถือเป็นอาณาเขตที่น้อยนักเจ้านายของบ้านจะตรงเข้ามายุ่มย่าม เด็กสาวก้าวตรงเข้าไปในอาณาจักรของผู้เป็นป้าแล้วก็พลันสะดุ้งโหยงเมื่ออีกฝ่ายร้องเรียกเธอเสียงดังลั่น “นังเอื้อง!” “ว่าไงจ๊ะป้า” เธอหันไปทางนางเอี่ยมผู้เป็นป้าแท้ๆ ของตนเองและยังเป็นหัวหน้าแม่ครัวพ่วงด้วยคนดูแลเรือนใหญ่ของไร่ภคนันท์ ตอนนี้นางเอี่ยมหันมามองเธอด้วยสายตาสงสัย และคงจะสงสัยอย่างหนักเพราะอีกฝ่ายถึงขั้นละสายตาจากหม้อบนเตาแล้วหันมาจ้องมองเธอเขม็ง ในมือข้างขวายังถือทัพพีแน่น พลางร้องถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ลดให้เบาลงว่า “คุณคนนั้นน่ะ เป็นยังไง” ไม่ต้องเอ่ยชื่อก็รู้ว่า 'คุณคนนั้น' ของป้านั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแขกสาวคนเมื่อวาน...คุณป่าน “คุณป่านน่ะเหรอ” แต่ถึงอย่างนั้นเอื้องก็ยังย้อนถามเพื่อความแน่ใจ “ชื่อป่านเหรอ” ป้าเอี่ยมถามสวนกลับด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นที่พยายามเก็บแต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของเอื้อง “สวยกว่าคุณปออีกนะนั่น” ป้าของเธอรำพันเสียงเบา เอื้องพยักหน้ารับแรงๆ เร็วๆ “ใช่แล้วป้า แล้วก็นิสัยดีกว่าด้วย” เธอเองแม้จะเพิ่งได้คุยกับคุณป่านแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็รู้สึกชอบอีกฝ่ายมากกว่าพี่สาวที่อยู่บ้านหลังนี้มาปีกว่าเกือบสองปี ศิรดาใช่จะนิสัยเสียขนาดหนัก แต่เมื่อบวกกับเรื่อง 'ฉาวโฉ่' ที่อีกฝ่ายก่อขึ้น แน่นอนว่าให้อย่างไรเอื้องก็ทำใจชอบศิรดาไม่ลงอยู่ดี คิดได้อย่างนั้นเอื้องก็อดที่จะรำพึงออกมาไม่ได้ “แต่ว่า...น่าสงสารเนอะ ที่ต้องมา...” “นังเอื้อง!” ทว่าผู้เป็นป้าได้ยินหลานสาวตัวเองพูดอย่างนั้นก็รีบร้องเรียกอีกฝ่ายเสียงดังลั่นเสียจนเอื้องสะดุ้งโหยง รีบยกมือขึ้นปิดปากทันควันเมื่อรู้ตัวว่าตนเองเกือบพูดเริื่องต้องห้ามออกมาเสียแล้ว เอื้องถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่นางเอี่ยมเหลียวซ้ายแลขวาแล้วเอ่ยถามกึ่งตำหนิหลานสาวของตนเองว่า “แล้วแกได้หลุดปากอะไรออกไปไหม คุณเขาสงสัยอะไรหรือเปล่า” “ไม่เลยจ้ะป้า” เอื้องส่ายหน้าพลางตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ฉันจะหลุดปากออกไปได้ยังไงว่าพี่สาวเธอไม่มีวันกลับมา” ตอนท้ายน้ำเสียงของเอื้องเบาลงไปอีก นี่เป็นเรื่องที่น้อยคนจะรู้ เกรงว่าถ้าวันนั้นเธอและป้าไม่บังเอิญไปได้ยินเข้า เอื้องเองก็คงไม่เอะใจอะไรเพราะจนถึงทุกวันนี้ บุคคลผู้เป็นเจ้าของเรื่องเหล่านั้นกลับทำท่าเฉยชาคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพีรวัสผู้เป็นเจ้านาย “ข้าล่ะสงสารพ่อเลี้ยงจริงๆ สงสารคุณคนนั้นด้วย” นางเอี่ยมอดพูดไม่ได้ พลางหันหน้ากลับไปยังหม้อแกงของนางต่อไป เอื้องเองก็ถอนหายใจยาว แล้วตอบผู้เป็นป้าไปว่า “ฉันก็หวังว่าพ่อเลี้ยงจะไม่ใจร้ายกับคุณป่านเกินไปนะป้า บางทีเขาอาจจะตกลงกันได้” “เออ ก็หวังว่ามันจะไม่เป็นเหมือนที่ข้าแอบได้ยินมาละวะ” “หนูว่า...” เอื้องทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพูดไปในที่สุด “เราก็คงได้แต่แอบช่วยๆ ดูๆ อย่างนี้แหละป้า แต่ถ้าให้เลือก ยังไงหนูคงต้องเลือกช่วยพ่อเลี้ยงอยู่ดี พ่อเลี้ยงท่านมีบุญคุณกับหนูนี่นา แถมยังเป็นคนดี” ถึงใครจะว่าพ่อเลี้ยงอย่างไร เอื้องก็คงจะเลือกผู้เป็นนายก่อนมาเป็นอันดับแรกอยู่ดี ถึงแม้ว่าสิ่งที่เจ้านายของเธอกำลังทำมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องนัก แต่ว่า...แต่ว่า นั่นเป็นเพราะคุณปอทำร้ายพ่อเลี้ยงก่อนนี่นา... “เออ ข้าเองก็ไม่คิดจะเอาใจออกห่างเจ้านายเหมือนกันนั่นแหละ” นางเอี่ยมตอบ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด “แล้วนี่คุณๆ อยู่ไหนกันล่ะ” “ฉันไปส่งคุณป่านที่ห้องอาหารแล้วป้า แล้วก็รีบเผ่นเข้าครัวนี่แหละ เห็นหน้าพ่อเลี้ยงแล้วฉันก็อดสยองไม่ได้ ช่วงนี้หน้างี้เรียบกริบ แถมดุเหมือนเสืออีกต่างหาก” เอื้องอดพูดถึงเจ้านายของตนเองไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็ว่าพ่อเลี้ยงดูดุๆ โหดๆ แต่ก็ยังพอยิ้มแย้มบ้างแล้วก็ไม่ได้ดูโหดขนาดนี้ ทว่าทุกวันนี้พ่อเลี้ยงทำหน้าดุตลอดเวลายังกับเสือ ถึงจะไม่โดนดุด่าอะไรแต่เห็นหน้าพ่อเลี้ยงเอื้องก็สยองแล้ว ช่วงนี้หลบได้เป็นหลบ เลี่ยงได้ก็เลยเลี่ยง ยิ่งตอนพ่อเลี้ยงอยู่กับคุณป่าน หูย...ท่าทางยิ่งดูดุขึ้นเป็นสองสามเท่า จนเอื้องอดกลัวไม่ได้ว่าถ้าคุณป่านทำให้พ่อเลี้ยงโมโห พ่อเลี้ยงคงลุกขึ้นมาฉีกเนื้อคุณป่านกินแน่ๆ “เลิกนินทาเจ้านายแล้วขึ้นเรือนไปดูแลคุณๆ ได้แล้วไป๊! นังเอื้อง!” ผู้เป็นป้ากวัดแกว่งทัพพีในมือโบกไล่หลานสาวปากมาก ขณะที่เอื้องได้แต่ยิ้มขัน ก็คนเมื่อกี้ที่ยืนนินทาเจ้านายกับเธอไม่ใช่ป้าหรอกหรือ แต่ก็ขี้เกียจหาเหาใส่หัวให้ป้าร้องด่าแต่เช้า จึงได้แต่รับคำแล้วเผ่นแผล็วไปดูแลคุณๆ ที่ตอนนี้คงจะอยู่ในห้องอาหารที่เรือนใหญ่ ๐๐๐๐๐ ในขณะเดียวกัน เมื่อเอื้องคล้อยหลังเดินจากไป ศวิตาก็หมุนกายเดินตรงไปยังห้องอาหารที่เธอเคยมานั่งรับประทานอาหารเย็นเมื่อวานนี้ หญิงสาวเหลือบตามองคนที่นั่งตำแหน่งหัวโต๊ะ แสดงความเป็นเจ้าบ้าน เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะระงับสีหน้าที่แสดงความไม่พอใจใส่เขาเพราะยังเห็นแก่มารยาทเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็รู้ตัวดีว่าอย่างไรเสียเธอก็คงปกปิดมันได้ไม่ดีเท่าไหร่ ใครใช้ให้เขาเป็นคนแรกที่ไม่ว่าจะทำอะไรหรือแค่ขยับไปทางไหนก็ทำให้เธอชัดหูขัดตาอย่างนี้เล่า “พี่สาวของฉันจะมาถึงตอนไหน” หญิงสาวเอ่ยถามในตอนที่นั่งเงียบและละเลียดทานอาหารตรงหน้าไปได้ราวๆ สิบนาที ผู้ชายตรงหน้าแม้จะทานเสร็จแต่ก็ยังไม่ได้ลุกไปไหน เขายังนั่งจิบกาแฟยามเช้าและเอาแต่ทอดสายตามองหนังสือพิมพ์ในมือราวกับมันน่าสนใจนักหนา “นี่คุณพีรวัส ฉันถามคุณอยู่ ไม่ได้ยินหรือไง” หญิงสาวจี้ถามเมื่ออีกฝ่ายปรายตามองเธอแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์หน้าตาเฉย เขากำลังยั่วโมโหเธอ! ทั้งๆ ที่เขาได้ยินว่าเธอถาม! อีตาบ้านี่! “ได้ยิน” พีรวัสเอ่ยสั้นๆ ขึ้นมาเมื่อโดนจี้ถาม ศวิตาขมวดคิ้วมุ่น ยุติการทานอาหารแต่เพียงเท่านั้นแล้วจ้องมองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง “ได้ยินแล้วทำไมไม่ตอบ” “ไม่อยากตอบ” “นี่!” หญิงสาวถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโห
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม