หยุนจือกลับมาพร้อมกับเฟยลี่ หญิงสาวที่หยุนจือนั้นแอบชอบอยู่ เพื่อให้คอยรับใช้และอยู่ข้างกายขององค์หญิงหรือฮูหยินของแม่ทัพ ตนเองก็จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหญิงสาวเช่นกัน
" ขอบใจเจ้าที่มากับข้านะเฟยลี่ ข้าคิดว่าฮูหยินท่านแม่ทัพคงจะชอบเจ้าเช่นกัน เพราะอายุอานามก็คงไล่เลี่ยกัน "
หยุนจือเอ่ยบอกกับหญิงสาว เฟยลี่ยิ้มก่อนจะตอบออกไป
"ข้าเต็มใจ ถึงอย่างไรท่านและท่านแม่ทัพก็มีบุญคุณกับครอบครัวของข้า หากไม่ได้ท่านและท่านแม่ทัพช่วยไว้ป่านนี้ครอบครัวข้า คงตายไปหมดแล้วเพราะพวกโจรป่าเหล่านั้น "
เฟยลี่เอ่ยกับหยุนจือ แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในเรือน ลู่เหยียนที่นั่งอยู่กับหลินซูที่ระเบียงริมน้ำ หันมามองคนทั้งสองพร้อมกัน หลินซูแปลกใจที่เห็นมีหญิงสาวเข้ามา พร้อมกับคนสนิทของเหยียนฟางจึงหันไปถามคนตัวโตทันที
" นี่เจ้าอย่าบอกนะว่าเจ้าให้คนของเจ้า หาผู้หญิงมาให้ตนเองอีกแล้ว ?"
ลู่เหยียนเมื่อได้ยินคนตัวเล็กพูดเช่นนั้นก็ถึงกับหัวเราะออกมา
" นี่เจ้าหึงข้าเช่นนั้นหรือ หรือว่าหวงข้า แต่เจ้ารู้สึกทั้งสองอย่างก็ดีนะ ข้าชอบทั้งสองอย่าง "
ลู่เหยียนเอ่ยบอกกับคนตัวเล็กพร้อมกับยิ้มกริ่ม
หลินซูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบตอบออกไปทันที
"ข้าไม่ได้หึงข้าไม่ได้หวงเจ้า ข้าจะทำเช่นนั้นไปทำไม ในเมื่อข้าไม่ได้ชอบเจ้า ข้ามีคนที่ข้าชอบอยู่แล้ว และจะไม่มีวันชอบเจ้าเด็ดขาด "
พูดจบหลินซูก็หันหน้าไปทางแม่น้ำทันที ลู่เหยียนเมื่อได้ยินคนตัวเล็กเอ่ยเช่นนั้น ก็หน้าเศร้าทันทีจึงหันไปเอ่ยถามคนสนิท
" คนผู้นี้หรือที่เจ้าจะให้มาคอยดูแลฮูหยินของข้า "
หลินซูเมื่อได้ยินคำถามของอีกคน ถามคนสนิทจึงได้หันมาที่ทั้งสองอีกครั้ง
" ขอรับนายท่าน แม่นางเฟยลี่จะเป็นผู้คอยดูแลฮูหยินขอรับ "
หยุนจือบอกออกไป ทำให้หลินซูนึกละอายใจที่พูดไม่ดีกับคนข้างๆ
" ข้าขออภัยเจ้าที่คิดว่าเป็นคนที่เจ้าหามาเพื่อตนเอง ข้าขอบคุณเจ้าที่หาเพื่อนมาให้ค่ะ"
หลินซูหันไปขอบคุณคนตัวโตแล้วจึงหันมาพูดคุยกับหญิงสาวตรงหน้าที่ดูเหมือนจะมีอายุมากกว่า
"ท่านชื่อเฟยลี่ใช่ไหม แล้วท่านอายุเท่าไหร่กัน ข้า ยี่สิบแล้ว ท่านอายุมากกว่าข้าหรือไม่ ข้าจะได้เรียกท่านได้ถูก"
หลินซูที่ดูจะมีความสุข เมื่อได้พบกับหญิงสาวที่มีอายุไล่เลี่ยกัน เพราะหลินซูเติบโตอยู่ในวัง จึงไม่มีเพื่อน เมื่อหนีออกมาก็มีแค่ตากับยาย ไม่เคยมีเพื่อนที่สนิทกันเลยสักคน เฟยลี่มองฮูหยินของผู้มีพระคุณก็ยิ้มให้ นึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อย
" เรียกพี่เฟยลี่ก็ได้เจ้าค่ะฮูหยินน้อย"
เฟยลี่บอกออกไปพร้อมรอยยิ้ม
"ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะเรียกพี่ว่าพี่เฟยลี่ เราไปเดินดูรอบๆกันเถอะ ข้าอยากเดินดูแต่ข้าไม่มีเพื่อน "
หลินซูจุงมือคนแก่กว่าเดินออกไป ลู่เหยียนมองตามคนตัวเล็กที่ยิ้มหน้าบานเดินออกไป แต่ก็อดนึกถึงคำพูดของคนตัวเล็กไม่ได้
" หึ ไม่ได้ชอบข้าเช่นนั้นหรือ หรือว่าเจ้ามีคนที่เจ้าชอบมากกว่าข้า หลังจากที่ข้าออกไปรบ แต่ถึงอย่างไรข้าก็จะทำให้เจ้ากลับมาชอบข้า และรักข้ามากกว่าเดิมเป็นแน่ "
ลู่เหยียนเอ่ยกับตัวเอง หยุนจือเดินเข้ามารายงานเรื่องที่พบเจอองครักษ์ของฮ่องเต้ และทหารอีกจำนวนหนึ่งกำลังพักอยู่ในเมือง
" ข้าน้อยคิดว่าคงจะออกมาตามหาองค์หญิงและท่านแม่ทัพเป็นแน่ขอรับ อีกไม่นานคงจะมาถึงที่นี่ถึงตอนนั้นจะทำเช่นไรขอรับ " หยุนจือเอ่ยบอกอย่างเป็นกังวล
ลู่เหยียนที่คิดไว้อยู่แล้วว่าสักวันทหารคงจะตามมาถึงเมืองฉางไห่ และก็เป็นจริง
"ข้าบอกให้เจ้าหาคนที่มารับใช้อยู่ที่เรือนเจ้าหามาได้หรือยัง " ลู่เหยียนเอ่ยถามคนสนิท
"ขอรับจะเดินทางมาพรุ่งนี้ขอรับ "
หยุนจือเอ่ยบอกกับท่านแม่ทัพของตน
"กำชับกับทุกคนว่าข้าเป็นเพียงพ่อค้า แล้วเจ้าบอกกลับเฟยลี่เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ "
ลู่เหยียนเอ่ยย้ำกับคนสนิท
"ขอรับท่านแม่ทัพข้ากำชับนางไว้แล้วว่าอย่าบอกว่าท่านคือใคร "
เมื่อพูดคุยกันเสร็จ ลู่เหยียนก็ให้หยุนจือตามดูฮูหยินของตนอยู่ห่างๆ
วันต่อมาก็มีทหารจำนวนหนึ่งเข้ามาสอบถามที่เรือนริมน้ำ
"พวกเจ้านายของเจ้าอยู่ที่เรือนหรือไม่ "
ทหารเอ่ยถามกับบ่าวรับใช้ในเรือน
"ใต้เท้านายท่านของข้าออกไปแลกเปลี่ยนสินค้าที่ต่างเมืองขอรับ "
บ่าวรับใช้วัยกลางคนเอ่ยตอบทหารออกไป ทหารเดินสำรวจรอบๆบริเวณ เมื่อรู้ว่าเป็นเรือนของใครจึงไม่คิดที่จะเข้าไปตรวจสอบอีก จึงได้พากันเดินทางกลับเข้าเมือง
ลู่เหยียน หลินซู และหยุนจือแอบหลบซ่อนอยู่ในเรือน ต่างก็โล่งใจเมื่อทหารย้อนกลับไปทางเข้าเมืองตามเดิม หลินซูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ลู่เหยียนจึงแกล้งเอ่ยถาม
" ทำไมเจ้าจะต้องกลัวทหารมากถึงเพียงนี้เจ้าทำผิดอะไรไว้หรือ"
ลู่เหยียนเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม หลินซูจึงหันมาย้อนถามกลับเช่นกัน
"แล้วเจ้าล่ะ เจ้ามาหลบซ่อนอยู่ในเรือนทำไม เจ้าก็เป็นพวกเดียวกันกับทหารนั่นไม่ใช่หรือ หรือเจ้าทำเรื่องไม่ดี หรือหนีทหารมากันแน่ ดูท่าเจ้าก็คงจะมีตำแหน่งอยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถให้ลูกน้องของเจ้า หาหญิงมาบริการเจ้าได้ถึงค่าย แต่ก็คงไม่ได้ตำแหน่งใหญ่โตมากมาย หรือว่าวันนั้นเจ้าแอบเข้าไปในกระโจมของท่านแม่ทัพ แล้วถูกจับได้ภายหลังตอนนี้เจ้าก็เลยหนี ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ "
หลินซูเอ่ยออกมาเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้ชายหนุ่มอีกสองคนหลุดขำทันที
"เหตุใดฮูหยินจึงคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวเช่นนี้ขอรับ"
หยุนจือเอ่ยออกมาอย่างเอ็นดูคนตรงหน้า
ไม่แปลกใจที่เหตุใดท่านแม่ทัพจึงมีท่าทีหวงแหนคนตรงหน้า ลู่เหยียนดึงคนตัวเล็กตามออกไปที่ระเบียง ก่อนจะเอ่ยกับคนตัวเล็ก
" ถ้าข้าไม่ได้เป็นแม่ทัพที่มีตำแหน่งใหญ่โต เจ้ายังจะอยากเป็นฮูหยินของข้าหรือเปล่า "
หลินซูเอ่ยตอบออกไปทันที
" ข้าไม่ได้อยากเป็นฮูหยินของเจ้า แต่เป็นเจ้าที่อยากให้ข้าเป็นฮูหยิน แต่ในเมื่อตอนนี้ข้าเป็นคนของเจ้าแล้ว ต่อให้เจ้าเป็นแค่ทหารไม่มีตำแหน่ง หรือชาวบ้านธรรมดา ข้าก็คงต้องจำใจเป็นฮูหยินของเจ้า "
หลินซูเอ่ยออกไป แล้วกำลังจะเดินหนีจึงถูกคนตัวโตอุ้มขึ้นทันที
" ข้าชอบที่เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นคนของข้า และข้าก็อยากจะบอกเจ้า ว่าข้าก็เป็นคนของเจ้าเพียงผู้เดียวเช่นกัน "
หลินซูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แก้มแดงระเรื่อขึ้นทันที คนตัวโตอุ้มคนตัวเล็กกว่าเข้าห้อง
" เจ้าอุ้มข้ามาที่ห้องทำไมกัน เจ้าคิดจะทำอะไรอีก " คนตัวโตไม่เอ่ยอะไรมีเพียงรอยยิ้มร้ายที่ผุดขึ้น ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะแนบจูบลงบนริมฝีปากบาง บดเบียดหมอบความหวานแก่คนตัวเล็ก