หลังจากเลิกเรียน ฉันก็ให้คนขับรถไปส่ง ลูกหว้าที่สถาบันเรียนพิเศษ แล้วนั่งรถมาหาคุณแม่ที่ร้านอาหารเอง
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปภายในร้านอาหารทันที
" หลานชุบ ทางนี้ลูก!!! " เทียนหอมที่หันไปมองเห็นหลานสาวก็ยกแขนโบกไปมาพร้อมกับเรียกชื่อหลานทันที
ฉันหันไปมองตามเสียงแล้วก็เห็นน้าเทียนหอม จึงรีบเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะอาหาร แล้วยกมือไหว้คุณน้าเทียนหอม และ หันไปไหว้คุณแม่ ก่อนจะนิ่งตกใจที่หันไปเห็น พี่ขุนพลที่กำลังนั่งมองหน้าฉัน ด้วยสีหน้าแววตา หยอกล้อ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ฉัน ทำไมพี่เขามาอยู่ที่นี่ล่ะ
" ลูกชุบ นี่พี่ขุนพล ลูกชายของเพื่อนแม่และน้าเทียนหอม จ๊ะลูก "
สายไหม ที่เห็นลูกสาวนิ่งก็เข้าใจว่า คงจะตกใจที่เห็นคนแปลกหน้านั่งอยู่ด้วย เธอจึงรีบเอ่ยแนะนำ ให้ลูกสาวรู้จักทันที
" เอ่อ สวัสดีค่ะ พี่ขุนพล "
"ขุนพลนี่ลูกชุบ ลูกสาวคนโตของน้าเองจ๊ะ "
" สวัสดีครับน้องลูกชุบ หน้าตาน่ารักเหมือนคุณน้าสายไหม เลยนะครับ " ขุนพลพูดขึ้นแบบยิ้มๆ
" มานั่งข้างพี่เขาก่อนลูก หิวหรือเปล่า ให้แม่สั่งอะไรให้ทานไหม"
" หนูขอข้าวผัดกุ้งแล้วกันค่ะ คุณแม่ "
ฉันตอบแม่ของฉัน พร้อมกับนั่งลงข้างๆพี่ขุนพล และ ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆในลำคอจากเขาทำให้ฉัน เผลอหันไปมองค้อน พี่ขุนพลอย่างลืมตัว
โดยที่พี่ขุนพล ก็หันมาสบตายักคิ้วใส่ฉันอย่างชอบใจ ก่อนจะได้ยินเสียงของน้าเทียนหอมเอ่ยดังขึ้น
" หลานทั้งสองคน รู้จักกันเหรอ "
เทียนหอม ที่แอบสังเกตปฎิกิริยาของทั้งสองและ รู้สึกว่าทั้งคู่น่าจะรู้จักกัน จึงแกล้งเอ่ยถามขึ้นมา
" ไม่รู้จักค่ะ///รู้จักครับ"
ลูกชุบและขุนพลเอ่ยตอบ พร้อมกันทันที
" น้าเดาถูกสินะ คือยังไงหลานชุบ สรุปรู้จักขุนพลหรือไม่รู้จักค่ะ "
" นั่นสิลูกชุบ หนูรู้จักขุนพลด้วยเหรอ"
สายไหม ที่สังเกตลูกตัวเอง มีท่าทีแปลกๆเช่นกัน ก็รับรู้ถึงความผิดปกติ จึงเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับ มองหน้าขุนพลและลูกชุบราวกับต้องการคำตอบ
"ผมขออนุญาต ตอบแทน น้องลูกชุบนะครับคุณน้า คือ จริง ๆ แล้ว ผมรู้จักน้องได้เกือบจะสองสัปดาห์แล้ว พอดี ตอนนั้นผมไปทานราเม็งกับเพื่อน แถวโรงเรียน JL แล้วได้เข้าไปช่วยเหลือน้อง ถือของไปส่งที่โรงเรียน เลยรู้จักกันโดยบังเอิญน่ะครับ " ขุนพลเอ่ยตอบอย่างสุภาพ
" อ๋อแบบนี้นี่เอง ดีจังเลย คนกันเองทั้งนั้น รู้จักกันไว้ดีแล้ว เหมือนพรหลิขิตเลยแกว่าไหม สายไหม"
เทียนหอม ถึงกับพยักหน้าหงึกๆ อย่างเข้าใจแล้ว หันไปมองสายไหม ที่กำลังมองลูกตัวเองอย่างคนจับผิด
" อือ รู้จักกันก็ดีแล้ว "
" แล้วผมมีอีกเรื่อง ที่อยากบอกให้คุณน้าให้ทราบด้วยครับ "
ขุนพลที่ยิ้มตอบรับ พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูจริงจัง จนสายไหมและเทียนหอมต้องหันมองหน้ากัน ด้วยความแปลกใจ
"คุณแม่หนูว่า พวกเรากลับกันเถอะค่ะ หนูอยากกลับบ้านแล้ว "
ฉันที่นั่งเงียบอยู่นาน รีบพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของพี่ขุนพล พาลเอาหัวใจน้อยๆเต้นระรัว เพราะกลัวพี่เขา จะพูดอะไรมากไปกว่านี้
" อะไรกันลูก หนูเพิ่งมาถึงเอง จะรีบกลับไปไหนล่ะ ข้าวยังไม่ทันมาเสริฟ์เลย ว่าแต่ขุนพลจะพูดอะไรกับน้านะ"
สายไหม ที่หันไปเอ็ดลูกสาวและหันไปถามขุนพลอีกครั้ง
" ตอนนี้ ผมกำลังตามจีบลูกชุบอยู่ครับ "
ขุนพลเอ่ยจบ ก็ถูกน้องลูกชุบตีที่แขนตัวเองเบาๆ แล้วพูดขึ้น
///เพี๊ยะ///
" พี่ขุนพล พี่พูดอะไรเนี่ย "
ฉันยกมือตีแขนพี่ขุนพลอย่างลืมตัว และมองหน้าพี่เขาอย่างตื่นตะลึง ราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าพี่เขาจะใจกล้าบ้าบิ่น ถึงขนาดพูดกับแม่ของฉันตรง ๆ อย่างนี้
" ก็พี่พูดเรื่องจริงไง ว่าพี่จีบหนูอยู่ "
" พี่ขุนพล!!!!หนูจะโกรธพี่แล้วนะ"
ฉันที่เรียกชื่อพี่เขาเสียงดัง ก่อนจะเงยหน้าไปมองแม่สายไหม ที่มองฉันกับพี่ขุนพลด้วยสีหน้าตกใจ
" เอ่อ เดี๋ยวก่อนนะ ทั้งสองคน คือแม่ เอ่อ น้า ตั้งตัวไม่ทัน ขอตั้งสติแปบ "
สายไหม ถึงกับเอ่ยแทรกขึ้นมา ก่อนจะสบตามองลูกชุบและขุนพล ราวกับเห็นตัวเองกับพี่โลกันต์ซ้อนทับอยู่
" คุณน้าสายไหม คือ ตอนนี้ ผมกำลังจีบน้องลูกชุบ ได้สองอาทิตย์แล้ว "
" ขุนพลชอบลูกสาวน้า ???"
" ครับ ผมชอบลูกชุบ ชอบมาก ถ้าไม่รังเกียจ คุณน้าอนุญาตให้ผมดูแลน้องได้ไหมครับ "
ขุนพล เอ่ยขึ้น พร้อมสบตามองคุณแม่ของน้อง ด้วยสีหน้าจริงจัง แววตามั่นคง ในเมื่อมีโอกาสเข้าทางแม่แล้ว คนอย่างเขามีหรือจะปล่อยให้หลุดมือ
" ใจถึงพึ่งได้มาก หลานชาย กร้าวใจสุดๆ เอาใจน้าเทียนไปเลยลูก "
เทียนหอม ถึงกับพูดแล้วหัวเราะ อย่างชอบใจสุดๆ นี่เธอไม่ต้องเหนื่อย เป็นแม่สื่ออะไรเลยสักนิดเดียว เพราะหลานทั้งสองคนคุยกันอยู่จ้า หึหึ เรื่องนี้ต้องถึงหู พี่ใบข้าวอย่างแน่นอน
" เอ่อ น้าแล้วแต่ลูกชุบน่ะ ถ้าลูกน้าชอบใครน้าก็ชอบด้วย แต่ถ้าขุนพล คิดจะมาเล่นๆ กับลูกสาวของน้า น้าขอเตือนไว้ก่อน ว่าพ่อของลูกชุบหวงลูกสาวมาก"
สายไหม พูดอย่างยิ้มๆ แต่ในแววตาแฝงไปด้วยคำขู่ ที่สบตามองขุนพลนิ่ง ๆ
" ผมจริงจังกับลูกชุบครับ คุณน้า "
ขุนพลเอ่ยย้ำอีกครั้ง ราวกับต้องการให้คุณแม่ของสายไหม มั่นใจในตัวเขา
" เอาล่ะๆ ในเมื่อ หลานขุนพล กล้าพูด กล้าขอกัน ตรงๆ ขนาดนี้ แกก็อย่าคิดอะไรมาก ปล่อยให้เป็น เรื่องราวของเด็กๆ ไป มาลูก มาทานข้าวกันเถอะ อาหารเย็นหมดแล้ว"
เทียนหอมพูด เพื่อทำลายบรรยากาศ ที่เริ่มจะอึดอัด ก่อนที่ทุกคนจะ เริ่มลงมือทานอาหารและพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนแยกย้ายกันกลับ
.
.
ฉันที่กลับมาถึงบ้าน พร้อมคุณแม่ ก็ถูกคุณแม่เรียกขึ้นไปคุยและสอบถามเรื่องราวต่างๆ ว่าฉันเจอกับพี่ขุนพล ได้ยังไง รู้จักกันได้แบบไหน ฉันจึงตัดสินใจเล่าให้ฟังทั้งหมด ยกเว้นเรื่องที่พี่เขาเคยหอมแก้มฉัน
จากที่คิดว่าคุณแม่จะดุด่าและห้ามคบ แต่กลับสนับสนุน และ ยังให้คำแนะนำฉัน แถมยังบอกว่า พี่ขุนพล นิสัยคล้ายกับพ่อของฉัน แต่ดูเด็ดขาดและมั่นคงกว่า
แต่ก็จริงอย่างที่แม่ฉัน ว่า ใครจะไปคิดว่า พี่เขาจะกล้าพูดตรง ๆ แบบนี้กับแม่ฉัน แต่ฉันก็ยังงอนพี่เขาอยู่ดี ถ้าลองพี่ขุนพลไปพูดกับพ่อโลกันต์ มีหวังพี่ขุนพล ได้มีหน้าหงายบ้างล่ะ
" ดึกมากแล้ว ลูกพักผ่อนเถอะ แล้วอย่าลืมที่แม่สอนล่ะ มีอะไรก็มาบอกแม่ เข้าใจไหมลูกชุบ " สายไหมที่พูดกับลูกสาว อย่างอ่อนโยนแต่แฝงไป ด้วยความเป็นห่วง
" เข้าใจแล้วค่ะ ฟอด!! รักคุณแม่นะคะ "
" ฟอด!! แม่ก็รักลูก ฝันดีนะลูกรัก"
หลังจากที่คุณแม่ออกไปแล้ว ฉันก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างแรง พาลนึกโกรธพี่ขุนพลอยู่บ้าง ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ ที่มีทั้งข้อความเข้า สายเรียกเข้า ของพี่ขุนพลเป็นสิบๆสาย แต่ด้วยความที่งอนเขาอยู่ ฉันจึงตัดสินใจไม่รับสาย ไม่อ่านแชท ชิ ไม่คุยด้วยหรอกไอ้พี่นิสัยไม่ดี
ฉันคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงอย่างไม่สนใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนและพยายามหักห้ามใจไม่ให้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู
.
.
ด้านขุนพล
หลังจาก ที่แยกย้ายกันกลับจากร้านอาหาร เด็กน้อย ก็ไม่ตอบแชท ไม่อ่านข้อความ แถมโทรไปก็ไม่รับสาย ด้วยความร้อนใจ เขาจึงขับรถมาจอด อยู่ที่หน้าบ้านลูกชุบ
เพราะรู้ดีว่า ลูกชุบคงจะงอน ที่เขาพูดตรงๆกับแม่น้องไปแบบนั้น แต่จะให้เขาทำยังไง ก็คนมันรัก มันชอบจริงๆแล้วยิ่งเข้าทางผู้ใหญ่ มันก็ดีกับตัวเขาไม่น้อย
ขุนพล ขยับตัวลงจากรถแล้วมายืนสูบบุหรี่สายตาก็คอยจ้องมอง เข้าไปภายในตัวบ้านลูกชุบ หวังแค่ว่าน้องจะโผล่หน้าออกมา ให้เห็นบ้าง
เฮ้ออ ไม่ได้ยินเสียงกับเห็นหน้าหวานๆ คืนนี้กูจะนอนหลับไหมว่ะ เขาที่บ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะชะงักเมื่อ เห็นรถรุ่นเดียวกันแบบเดียวกัน กับรถของเขา ขับมาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับมี ผู้ชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา และ มีรอยสักเต็มตัว เปิดประตูลงจากรถ แล้วหันมามองหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชาและดูเอาเรื่องพร้อมกับเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและดุดัน
" มึงเป็นใคร มาจอดรถหน้าบ้านกูทำไม!!! "