ตอนที่ 3 หยุดมองไม่ได้

2207 คำ
เวลาผ่านล่วงเลยไปหลายชั่วโมงฟาริคที่กำลังนั่งอ่านเอกสารการก่อตั้งกาสิโนแห่งใหม่อย่างไร้สมาธิแบบที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน สุดท้ายเขาก็ต้องยอมแพ้และปิดแฟ้มเอกสารพวกนั้นลง เขาดันตัวลุกขึ้นก่อนจะหยิบเสื้อสูทสีดำของตัวเองที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้มาถือไว้ก่อนที่ สองเท้าหนักของมาเฟียหนุ่มจะเดินออกไปจากห้องทำงาน "เฮียจะกลับแล้วเหรอครับ" ลูอิสที่ยืนคุยงานอยู่หน้าห้องหันมาเอ่ยถามคนที่เปิดประตูออกมา "เออ ไปเตรียมรถ" เสียงทุ้มของฟาริคเอ่ยตอบด้วยท่าทีหงุดหงิดทำเอาลูอิสที่ได้ยินถึงกับขนลุกขึ้นมา ลูอิสก้มหัวรับคำสั่งของเจ้านายตัวเองก่อนจะเดินออกไป ส่วนฟาริคก็สาวเท้าเดินไปรอที่ประตูทางออกด้านหลัง ใช้เวลาไม่นานรถหรูก็ถูกขับมาจอดตรงหน้ามาเฟียหนุ่ม ฟาริคเดินขึ้นรถไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจากนั้นรถหรูของเขาก็ขับเคลื่อนออกมาจากกาสิโน แต่เมื่อรถกำลังเคลื่อนตัวผ่านบริเวณด้านหน้าของกาสิโน ดวงตาคมของมาเฟียหนุ่มกลับไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กของเลย์ลากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บริเวณด้านหน้าของกาสิโน เนื้อตัวของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน แถมตอนนี้หน้ากาสิโนของเขาก็ไม่มีรถประจำทางผ่านมาสักคันเพราะมันไม่ใช่สายที่รถประจำทางวิ่งผ่าน "ลูอิสชะลอรถหน่อย" เสียงฟาริคเอ่ยพูดขณะที่ดวงตาคมยังคงจ้องมองไปที่ร่างเล็กของเลย์ลาที่พยายามนั่งหลบฝน แต่ตอนนี้ฝนตกหนักมากทำให้น้ำฝนสาดกระเด็นเข้าไปโดนตัวเธอเต็ม ๆ "ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ว่ากลับไปนานแล้วเหรอ" ลูอิสที่ขับรถอยู่ก็หันไปมองตามสายตาของเจ้านายตัวเองเพื่อดูว่าเจ้านายของเขากำลังพูดถึงใคร "เห็นว่าเพิ่งเลิกงานนะครับ" "เพิ่งเลิกงาน?" "ครับเฮีย เหมือนเธอจะขอผู้จัดการเริ่มงานวันนี้เลย ดูตั้งใจทำงานมากด้วยครับ" "มึงไปเรียกเธอมาขึ้นรถดิ" ฟาริคเอ่ยพูดกับลูกน้องของตัวเอง ส่วนลูอิสที่ได้ยินก็หยุดชะงักมองหน้าเจ้านายด้วยความตกใจ "อะไรนะครับ" ลูอิสหันไปเอ่ยถามย้ำเจ้านายตัวเองอีกครั้งเพราะคิดว่าเขาอาจจะฟังผิด แต่ทว่าเมื่อเห็นฟาริคที่กำลังจ้องมองเลย์ลาอยู่ตวัดสายตามามองตัวเองด้วยแววตาเรียบนิ่งลูอิสจึงรีบตอบรับคำสั่งของเจ้านายตัวเองทันที "ครับเฮีย" ลูอิสหยิบร่มและเดินเปิดประตูรถออกไปแต่ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับเอ่ยบอกเจ้านายตัวเองว่า "เธอบอกว่าไม่เป็นไรครับเฮีย" พอได้ยินแบบนั้น ฟาริคก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะดันตัวขึ้นและสาวเท้าลงมาจากรถ "เฮีย ฝนตกหนักนะครับ" ลูอิสที่เห็นแบบนั้นก็รีบยื่นร่มคันใหญ่กางให้เจ้านายตัวเอง ตึกตึก ฟาริคสาวเท้าเดินตรงไปหาเลย์ลา เมื่อเธอเห็นว่าเป็นฟาริคเลย์ลาก็รีบดีดตัวลุกขึ้นด้วยความตกใจ "มาขึ้นรถสิ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกเลย์ลา เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็รีบส่ายหัวออกมาและเอ่ยตอบเขากลับไปด้วยความเกรงใจ "ไม่เป็นไรค่ะคุณฟาริค เดี๋ยวเลย์ลารออีกสักพักฝนก็คงเบาลงแล้วค่ะ" "คุณฟาริคเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยนะคะ สวัสดี..." "ฉันบอกให้เธอขึ้นรถก็ขึ้นรถ" ยังไม่ทันที่เลย์ลาจะพูดจบประโยค น้ำเสียงราบเรียบของฟาริคก็ถูกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทำเอาคนตัวเล็กที่ได้ยินถึงกับเม้มปากแน่น เธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาก่อนจะรีบพยักหน้าตอบ ฟาริคที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเพียงแค่หมุนตัวและให้เลย์ลาเดินตามเขามาที่รถก็เท่านั้น "…" ดวงตาคมของฟาริคตวัดสายตาไปมองคนด้านข้างที่ตอนนี้เสื้อสีขาวของเธอเปียกโชกจนสามารถมองเห็นด้านในได้อย่างชัดเจน ฟาริคใช้สายตามองร่างกายของเธอด้วยแววตาเรียบนิ่ง ส่วนเลย์ลาทำได้แต่ก้มหน้างุดไม่รู้เรื่องรู้ราว พรึบ "เอานี่ไป" ฟาริคยื่นเสื้อสูทสีดำของตัวเองไปให้ เลย์ลา เมื่อเห็นแบบนั้นเลย์ลาก็เงยหน้าไปมองเสื้อสูทนั้นก่อนจะก้มมองร่างกายของตัวเอง เลย์ลาเม้มปากแน่นก่อนรับเสื้อสูทสีดำตัวใหญ่นั้นมา "ขอบคุณนะคะคุณฟาริค" ฟาริคไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเขาเพียงแสดงสีหน้าราบเรียบและดึงสายตาตัวเองออกมาจากเธอ หลังจากเลย์ลาได้บอกที่อยู่ของเธอไปคร่าว ๆ รถหรูก็ขับเคลื่อนออกมาโดยภายในรถมีเพียงความเงียบงันจนกระทั่ง "หอพักไหนเหรอครับ" เสียงลูอิสเอ่ยถามเลย์ลาขึ้น เลย์ลาที่ได้ยินก็ค่อย ๆ เอ่ยตอบ "เดี๋ยวจอดส่งเลย์ลาข้างหน้าตรงนี้ก็ได้ค่ะ ฝนเบาลงแล้วเดี๋ยวเลย์ลาเดินต่อไปได้ค่ะ" "บอกที่อยู่ของเธอไป" ฟาริคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "พอดีซอยหอพักเลย์ลามันไม่มีที่กลับรถค่ะ คุณฟาริค เดี๋ยวจอดส่งเลย์ลาหน้าปากซอยก็ได้ค่ะ" เลย์ลาหันไปยิ้มตอบฟาริค ซึ่งเขาใช้เพียงสายตาเรียบนิ่งมองเธอกลับไปก็เท่านั้น "ซอยข้างหน้านี้ใช่มั้ยครับ" "ใช่ค่ะ" เลย์ลาเอ่ยตอบลูอิส ลูอิสที่ได้ยินแบบนั้นจึงตีไฟเลี้ยวและเลี้ยวจอดที่ปากซอย "เลย์ลาขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ" เรียวปากสวยของเลย์ลาเอ่ยบอกฟาริคและลูอิสเธอยกมือเรียวขึ้นมาก่อนจะไหว้ที่เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ ฟาริคไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเขาใช้เพียงสายตาราบเรียบมองไปที่เธอเหมือนเคย มีเพียงลูอิสที่ยกยิ้มให้เธอ เมื่อเลย์ลาเปิดประตูลงจากรถไปฟาริคก็ใช้สายตาคมของตัวเองมองตามแผ่นหลังเล็กที่มีเสื้อสูทตัวใหญ่ของเขาสวมใส่อยู่กำลังเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่างให้มองเห็นทางเลยสักดวง วันถัดมา เลย์ลาสะพายกระเป๋าสีครีมเดินเข้ามาในกาสิโนของฟาริค เธอได้รับหน้าที่ให้ทำงานในโซนบาร์ กาสิโนของฟาริคถูกสร้างขึ้นขนาดใหญ่ภายในแบ่งเป็นสองส่วนที่ทำรายได้หลัก ๆ คือส่วนของกาสิโนและส่วนของบาร์ หน้าที่หลัก ๆ ของเลย์ลาคือรับออเดอร์และเสิร์ฟออเดอร์ ถือเป็นงานที่เลย์ลาถนัดเพราะเธอเองก็ทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกาแฟอยู่ด้วย ขณะที่เธอกำลังหยิบเสื้อยืดพนักงานเพื่อกำลังจะไปเปลี่ยนเสื้อ ในตอนนั้นก็มีเสียงสองเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาหาเธอ "คุณเลย์ลา คุณฟาริคเรียกให้ไปพบครับ" เลย์ลาหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะเห็นว่าเป็นลูอิสลูกน้องของฟาริค เลย์ลาแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อยเพราะด้วยความสงสัยที่เกิดขึ้นว่าเขาเรียกเธอทำไมกันแต่เธอก็ตอบกลับลูอิสไป "ค่ะ ให้เลย์ลาไปหาที่ไหนเหรอคะ" "เดี๋ยวตามผมมาก็ได้ครับ" ลูอิสเอ่ยบอกคนตัวเล็ก เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นมือเรียวจึงเก็บเสื้อยืดใส่กระเป๋าสะพายดังเดิมและสาวเท้าเดินตามลูอิสไป ก๊อก! ก๊อก! มือเรียวเคาะประตูห้องทำงานของฟาริคก่อนที่เธอจะเปิดประตูห้องทำงานของเขาและเดินเข้าไป จากนั้น ลูอิสจึงเอื้อมมือไปปิดประตูและยืนรออยู่ที่หน้าห้อง "คุณฟาริคเรียกเลย์ลาเหรอคะ" เมื่อเอ่ยถามจบประโยคใบหน้าสวยของเลย์ลาก็ต้องชะงักเพราะว่าเธอเหลือบไปเห็นว่าฟาริคกำลังนั่งเอนหลังอยู่ที่โซฟาเขายกขาแกร่งขึ้นมาวางพาดบนโต๊ะกระจกสีดำและหลับตานิ่ง ราวกับว่าเขากำลังหลับอยู่ เลย์ลายืนมองเขาอย่างกำลังตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อดี แต่ในขณะนั้นเองฟาริคก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองหน้าเธอ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยอะไร "คุณฟาริคเหนื่อยมั้ยคะ…" "…เดี๋ยวเลย์ลาไปเอาน้ำผลไม้มาให้นะคะ ดื่มน้ำผลไม้จะสดชื่นขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ" เลย์ลาฉีกยิ้มเอ่ยบอกฟาริค เพราะเธอดูออกว่าเขาดูเพลีย ๆ ฟาริคที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักใบหน้าเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยตอบอะไร เลย์ลาก็หมุนแผ่นหลังเล็กของตัวเองเดินออกไป ใช้เวลาไม่นานคนตัวเล็กก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำส้มคั้นในมือ เธอเดินถือแก้วน้ำส้มนั้นก่อนจะนำไปวางให้กับฟาริคด้วยท่าทีนอบน้อม "น้ำผลไม้มาแล้วค่ะคุณฟาริค" ดวงตาคมของฟาริคจ้องมองไปที่เลย์ลานิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการใส่ใจโดยที่เขาไม่ได้เอ่ยปากขอให้ทำ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้รับการดูแลเอาใจใส่เลยไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะต้องการสิ่งไร้สาระพวกนั้น แต่ทว่า "ปวดคอ" ฟาริคเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเคย เลย์ลาที่ได้ยินจึงเอ่ยตอบกลับฟาริคไปว่า "ให้เลย์ลาไปเอาแผ่นแปะแก้ปวดให้มั้ยคะ" "ไม่ต้อง" "แต่คุณฟาริคบอกว่าปวด" "มานวดให้ฉันหน่อยสิ" คนตัวเล็กที่ได้ยินชะงักไปเล็กน้อย เลย์ลาใช้ดวงตากลมของเธอมองฟาริคก่อนที่เธอจะสาวเท้าเดินไปหาเขา "เลย์ลานวดไม่เป็น ถ้าคุณฟาริคเจ็บเกินไปบอกเลย์ลานะคะ" เธอยืนอยู่ที่ด้านหลังของฟาริค เมื่อเอ่ยบอกเขาจบมือเรียวของเธอก็ยกขึ้นมาสัมผัสไปที่ช่วงต้นคอและบริเวณบ่าของมาเฟียหนุ่ม "เจ็บมั้ยคะคุณฟาริค" "ไม่เจ็บ" มันจะเจ็บได้ยังไง มือก็เล็กแถมนุ่มนิ่มซะขนาดนั้น เลย์ลาที่ได้ยินก็ค่อย ๆ ยกยิ้มออกมา ก่อนที่จะใช้สองมือเรียวเล็กของตัวเองนวดให้ฟาริคด้วยความตั้งใจ "คุณฟาริคนั่งอ่านเอกสารนานไปเหรอคะ คุณ ฟาริคอยากได้หมอนรองคอมั้ยคะ อาจจะช่วยได้นะคะ เวลาเลย์ลาอ่านหนังสือสอบเลย์ลาก็ชอบใช้ค่ะ" "ฉันไม่ใช้ของพวกนั้น ทำไม ขี้เกียจนวดให้ฉันแล้ว?" "ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่เลย์ลากำลังหาวิธีช่วยให้คุณฟาริคไม่ปวดคอต่างหาก แก้ปัญหาที่ต้นเหตุไงคะ" "อ๋อ เธอกำลังจะบอกฉันว่าเป็นพวกแก้ปัญหาที่ปลายเหตุสินะ" "เลย์ลาไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะคะ เลย์ลาว่า เลย์ลานวดอยู่เงียบ ๆ ดีกว่าค่ะ" "หึ" ฟาริคลอบยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงเล็กพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เขาหลับตาลงด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลาย เลย์ลายังคงใช้สองมือเรียวของตัวเองนวดไปพักใหญ่ "เป็นไงบ้างคะ รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ยคะ" เสียงเล็กเอ่ยถามแต่ไร้เสียงตอบกลับมา "เงียบเลย หลับไปแล้วเหรอ อย่าบอกนะว่าเรานวดสบาย…" "…ดีจัง นึกว่าฝีมือการนวดของเราจะแย่ซะอีก อย่างน้อยก็ทำให้คุณฟาริคผ่อนคลายได้นะ" "แล้วแบบนี้จะปลุกหรือจะปล่อยให้คุณฟาริคนอนแบบนี้ดี" นั่งรอให้คุณฟาริคพักผ่อนอีกสักหน่อยค่อยเข้ามาปลุกดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้นเลย์ลาจึงค่อย ๆ ถอนตัวออกมา เลย์ลาสาวเท้าเดินไปหยิบผ้าผืนหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าของตัวเองออกมา ก่อนที่เธอจะสาวเท้ากลับเข้าไปใกล้ ๆ แล้วโน้มตัวไปหาเขาเล็กน้อยและคลุมผ้าผืนใหญ่ให้กับฟาริค แต่ในตอนนั้นดวงตาคมที่เหมือนปิดสนิทอยู่กลับค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาเพียงแค่พักสายตาและยังได้ยินสิ่งที่เธอพูดทุกคำ เลย์ลาที่กำลังจะใช้ผ้าบาง ๆ คลุมกันหนาวให้เขาถึงกับชะงักตกใจ และในตอนนั้นเป็นอีกครั้งที่ทั้งสองจ้องตากันในระยะประชิด ฟาริคใช้ดวงตาคมของตัวเองจ้องมองไปที่ดวงตากลมของเลย์ลาอย่างไม่สามารถที่จะละสายตาออกไปได้ ดวงตาคมของเขาเลื่อนมองไปทั่วบริเวณหน้าสวย เมื่อเขาจ้องไปที่ดวงตากลมโตของเธออย่างพอใจ เขาก็เลื่อนสายตาไปที่แก้มเนียนใส เลื่อนสายตาไปที่จมูกโด่ง ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่ม "อะ เอ่อ…เลย์ลาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณฟาริคตื่น"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม