เวลาผ่านล่วงเลยไปหลายชั่วโมงฟาริคที่กำลังนั่งอ่านเอกสารการก่อตั้งกาสิโนแห่งใหม่อย่างไร้สมาธิแบบที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน สุดท้ายเขาก็ต้องยอมแพ้และปิดแฟ้มเอกสารพวกนั้นลง เขาดันตัวลุกขึ้นก่อนจะหยิบเสื้อสูทสีดำของตัวเองที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้มาถือไว้ก่อนที่
สองเท้าหนักของมาเฟียหนุ่มจะเดินออกไปจากห้องทำงาน
"เฮียจะกลับแล้วเหรอครับ" ลูอิสที่ยืนคุยงานอยู่หน้าห้องหันมาเอ่ยถามคนที่เปิดประตูออกมา
"เออ ไปเตรียมรถ" เสียงทุ้มของฟาริคเอ่ยตอบด้วยท่าทีหงุดหงิดทำเอาลูอิสที่ได้ยินถึงกับขนลุกขึ้นมา
ลูอิสก้มหัวรับคำสั่งของเจ้านายตัวเองก่อนจะเดินออกไป ส่วนฟาริคก็สาวเท้าเดินไปรอที่ประตูทางออกด้านหลัง
ใช้เวลาไม่นานรถหรูก็ถูกขับมาจอดตรงหน้ามาเฟียหนุ่ม
ฟาริคเดินขึ้นรถไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจากนั้นรถหรูของเขาก็ขับเคลื่อนออกมาจากกาสิโน
แต่เมื่อรถกำลังเคลื่อนตัวผ่านบริเวณด้านหน้าของกาสิโน ดวงตาคมของมาเฟียหนุ่มกลับไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กของเลย์ลากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บริเวณด้านหน้าของกาสิโน เนื้อตัวของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน แถมตอนนี้หน้ากาสิโนของเขาก็ไม่มีรถประจำทางผ่านมาสักคันเพราะมันไม่ใช่สายที่รถประจำทางวิ่งผ่าน
"ลูอิสชะลอรถหน่อย" เสียงฟาริคเอ่ยพูดขณะที่ดวงตาคมยังคงจ้องมองไปที่ร่างเล็กของเลย์ลาที่พยายามนั่งหลบฝน แต่ตอนนี้ฝนตกหนักมากทำให้น้ำฝนสาดกระเด็นเข้าไปโดนตัวเธอเต็ม ๆ
"ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ว่ากลับไปนานแล้วเหรอ" ลูอิสที่ขับรถอยู่ก็หันไปมองตามสายตาของเจ้านายตัวเองเพื่อดูว่าเจ้านายของเขากำลังพูดถึงใคร
"เห็นว่าเพิ่งเลิกงานนะครับ"
"เพิ่งเลิกงาน?"
"ครับเฮีย เหมือนเธอจะขอผู้จัดการเริ่มงานวันนี้เลย ดูตั้งใจทำงานมากด้วยครับ"
"มึงไปเรียกเธอมาขึ้นรถดิ" ฟาริคเอ่ยพูดกับลูกน้องของตัวเอง ส่วนลูอิสที่ได้ยินก็หยุดชะงักมองหน้าเจ้านายด้วยความตกใจ
"อะไรนะครับ" ลูอิสหันไปเอ่ยถามย้ำเจ้านายตัวเองอีกครั้งเพราะคิดว่าเขาอาจจะฟังผิด แต่ทว่าเมื่อเห็นฟาริคที่กำลังจ้องมองเลย์ลาอยู่ตวัดสายตามามองตัวเองด้วยแววตาเรียบนิ่งลูอิสจึงรีบตอบรับคำสั่งของเจ้านายตัวเองทันที
"ครับเฮีย" ลูอิสหยิบร่มและเดินเปิดประตูรถออกไปแต่ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับเอ่ยบอกเจ้านายตัวเองว่า
"เธอบอกว่าไม่เป็นไรครับเฮีย" พอได้ยินแบบนั้น
ฟาริคก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะดันตัวขึ้นและสาวเท้าลงมาจากรถ
"เฮีย ฝนตกหนักนะครับ" ลูอิสที่เห็นแบบนั้นก็รีบยื่นร่มคันใหญ่กางให้เจ้านายตัวเอง
ตึกตึก
ฟาริคสาวเท้าเดินตรงไปหาเลย์ลา เมื่อเธอเห็นว่าเป็นฟาริคเลย์ลาก็รีบดีดตัวลุกขึ้นด้วยความตกใจ
"มาขึ้นรถสิ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกเลย์ลา เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็รีบส่ายหัวออกมาและเอ่ยตอบเขากลับไปด้วยความเกรงใจ
"ไม่เป็นไรค่ะคุณฟาริค เดี๋ยวเลย์ลารออีกสักพักฝนก็คงเบาลงแล้วค่ะ"
"คุณฟาริคเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยนะคะ สวัสดี..."
"ฉันบอกให้เธอขึ้นรถก็ขึ้นรถ" ยังไม่ทันที่เลย์ลาจะพูดจบประโยค น้ำเสียงราบเรียบของฟาริคก็ถูกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทำเอาคนตัวเล็กที่ได้ยินถึงกับเม้มปากแน่น เธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาก่อนจะรีบพยักหน้าตอบ ฟาริคที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเพียงแค่หมุนตัวและให้เลย์ลาเดินตามเขามาที่รถก็เท่านั้น
"…" ดวงตาคมของฟาริคตวัดสายตาไปมองคนด้านข้างที่ตอนนี้เสื้อสีขาวของเธอเปียกโชกจนสามารถมองเห็นด้านในได้อย่างชัดเจน ฟาริคใช้สายตามองร่างกายของเธอด้วยแววตาเรียบนิ่ง ส่วนเลย์ลาทำได้แต่ก้มหน้างุดไม่รู้เรื่องรู้ราว
พรึบ
"เอานี่ไป" ฟาริคยื่นเสื้อสูทสีดำของตัวเองไปให้
เลย์ลา เมื่อเห็นแบบนั้นเลย์ลาก็เงยหน้าไปมองเสื้อสูทนั้นก่อนจะก้มมองร่างกายของตัวเอง เลย์ลาเม้มปากแน่นก่อนรับเสื้อสูทสีดำตัวใหญ่นั้นมา
"ขอบคุณนะคะคุณฟาริค" ฟาริคไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเขาเพียงแสดงสีหน้าราบเรียบและดึงสายตาตัวเองออกมาจากเธอ
หลังจากเลย์ลาได้บอกที่อยู่ของเธอไปคร่าว ๆ รถหรูก็ขับเคลื่อนออกมาโดยภายในรถมีเพียงความเงียบงันจนกระทั่ง
"หอพักไหนเหรอครับ" เสียงลูอิสเอ่ยถามเลย์ลาขึ้น เลย์ลาที่ได้ยินก็ค่อย ๆ เอ่ยตอบ
"เดี๋ยวจอดส่งเลย์ลาข้างหน้าตรงนี้ก็ได้ค่ะ ฝนเบาลงแล้วเดี๋ยวเลย์ลาเดินต่อไปได้ค่ะ"
"บอกที่อยู่ของเธอไป" ฟาริคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"พอดีซอยหอพักเลย์ลามันไม่มีที่กลับรถค่ะ
คุณฟาริค เดี๋ยวจอดส่งเลย์ลาหน้าปากซอยก็ได้ค่ะ" เลย์ลาหันไปยิ้มตอบฟาริค ซึ่งเขาใช้เพียงสายตาเรียบนิ่งมองเธอกลับไปก็เท่านั้น
"ซอยข้างหน้านี้ใช่มั้ยครับ"
"ใช่ค่ะ" เลย์ลาเอ่ยตอบลูอิส ลูอิสที่ได้ยินแบบนั้นจึงตีไฟเลี้ยวและเลี้ยวจอดที่ปากซอย
"เลย์ลาขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ" เรียวปากสวยของเลย์ลาเอ่ยบอกฟาริคและลูอิสเธอยกมือเรียวขึ้นมาก่อนจะไหว้ที่เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ
ฟาริคไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเขาใช้เพียงสายตาราบเรียบมองไปที่เธอเหมือนเคย มีเพียงลูอิสที่ยกยิ้มให้เธอ
เมื่อเลย์ลาเปิดประตูลงจากรถไปฟาริคก็ใช้สายตาคมของตัวเองมองตามแผ่นหลังเล็กที่มีเสื้อสูทตัวใหญ่ของเขาสวมใส่อยู่กำลังเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่างให้มองเห็นทางเลยสักดวง
วันถัดมา
เลย์ลาสะพายกระเป๋าสีครีมเดินเข้ามาในกาสิโนของฟาริค เธอได้รับหน้าที่ให้ทำงานในโซนบาร์ กาสิโนของฟาริคถูกสร้างขึ้นขนาดใหญ่ภายในแบ่งเป็นสองส่วนที่ทำรายได้หลัก ๆ คือส่วนของกาสิโนและส่วนของบาร์
หน้าที่หลัก ๆ ของเลย์ลาคือรับออเดอร์และเสิร์ฟออเดอร์ ถือเป็นงานที่เลย์ลาถนัดเพราะเธอเองก็ทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกาแฟอยู่ด้วย
ขณะที่เธอกำลังหยิบเสื้อยืดพนักงานเพื่อกำลังจะไปเปลี่ยนเสื้อ ในตอนนั้นก็มีเสียงสองเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาหาเธอ
"คุณเลย์ลา คุณฟาริคเรียกให้ไปพบครับ" เลย์ลาหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะเห็นว่าเป็นลูอิสลูกน้องของฟาริค เลย์ลาแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อยเพราะด้วยความสงสัยที่เกิดขึ้นว่าเขาเรียกเธอทำไมกันแต่เธอก็ตอบกลับลูอิสไป
"ค่ะ ให้เลย์ลาไปหาที่ไหนเหรอคะ"
"เดี๋ยวตามผมมาก็ได้ครับ" ลูอิสเอ่ยบอกคนตัวเล็ก เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นมือเรียวจึงเก็บเสื้อยืดใส่กระเป๋าสะพายดังเดิมและสาวเท้าเดินตามลูอิสไป
ก๊อก! ก๊อก!
มือเรียวเคาะประตูห้องทำงานของฟาริคก่อนที่เธอจะเปิดประตูห้องทำงานของเขาและเดินเข้าไป จากนั้น
ลูอิสจึงเอื้อมมือไปปิดประตูและยืนรออยู่ที่หน้าห้อง
"คุณฟาริคเรียกเลย์ลาเหรอคะ" เมื่อเอ่ยถามจบประโยคใบหน้าสวยของเลย์ลาก็ต้องชะงักเพราะว่าเธอเหลือบไปเห็นว่าฟาริคกำลังนั่งเอนหลังอยู่ที่โซฟาเขายกขาแกร่งขึ้นมาวางพาดบนโต๊ะกระจกสีดำและหลับตานิ่ง ราวกับว่าเขากำลังหลับอยู่
เลย์ลายืนมองเขาอย่างกำลังตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อดี แต่ในขณะนั้นเองฟาริคก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองหน้าเธอ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยอะไร
"คุณฟาริคเหนื่อยมั้ยคะ…"
"…เดี๋ยวเลย์ลาไปเอาน้ำผลไม้มาให้นะคะ ดื่มน้ำผลไม้จะสดชื่นขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ" เลย์ลาฉีกยิ้มเอ่ยบอกฟาริค เพราะเธอดูออกว่าเขาดูเพลีย ๆ
ฟาริคที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักใบหน้าเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยตอบอะไร เลย์ลาก็หมุนแผ่นหลังเล็กของตัวเองเดินออกไป
ใช้เวลาไม่นานคนตัวเล็กก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำส้มคั้นในมือ เธอเดินถือแก้วน้ำส้มนั้นก่อนจะนำไปวางให้กับฟาริคด้วยท่าทีนอบน้อม
"น้ำผลไม้มาแล้วค่ะคุณฟาริค"
ดวงตาคมของฟาริคจ้องมองไปที่เลย์ลานิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการใส่ใจโดยที่เขาไม่ได้เอ่ยปากขอให้ทำ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้รับการดูแลเอาใจใส่เลยไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะต้องการสิ่งไร้สาระพวกนั้น
แต่ทว่า
"ปวดคอ" ฟาริคเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเคย เลย์ลาที่ได้ยินจึงเอ่ยตอบกลับฟาริคไปว่า
"ให้เลย์ลาไปเอาแผ่นแปะแก้ปวดให้มั้ยคะ"
"ไม่ต้อง"
"แต่คุณฟาริคบอกว่าปวด"
"มานวดให้ฉันหน่อยสิ" คนตัวเล็กที่ได้ยินชะงักไปเล็กน้อย เลย์ลาใช้ดวงตากลมของเธอมองฟาริคก่อนที่เธอจะสาวเท้าเดินไปหาเขา
"เลย์ลานวดไม่เป็น ถ้าคุณฟาริคเจ็บเกินไปบอกเลย์ลานะคะ" เธอยืนอยู่ที่ด้านหลังของฟาริค เมื่อเอ่ยบอกเขาจบมือเรียวของเธอก็ยกขึ้นมาสัมผัสไปที่ช่วงต้นคอและบริเวณบ่าของมาเฟียหนุ่ม
"เจ็บมั้ยคะคุณฟาริค"
"ไม่เจ็บ" มันจะเจ็บได้ยังไง มือก็เล็กแถมนุ่มนิ่มซะขนาดนั้น
เลย์ลาที่ได้ยินก็ค่อย ๆ ยกยิ้มออกมา ก่อนที่จะใช้สองมือเรียวเล็กของตัวเองนวดให้ฟาริคด้วยความตั้งใจ
"คุณฟาริคนั่งอ่านเอกสารนานไปเหรอคะ คุณ
ฟาริคอยากได้หมอนรองคอมั้ยคะ อาจจะช่วยได้นะคะ เวลาเลย์ลาอ่านหนังสือสอบเลย์ลาก็ชอบใช้ค่ะ"
"ฉันไม่ใช้ของพวกนั้น ทำไม ขี้เกียจนวดให้ฉันแล้ว?"
"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่เลย์ลากำลังหาวิธีช่วยให้คุณฟาริคไม่ปวดคอต่างหาก แก้ปัญหาที่ต้นเหตุไงคะ"
"อ๋อ เธอกำลังจะบอกฉันว่าเป็นพวกแก้ปัญหาที่ปลายเหตุสินะ"
"เลย์ลาไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะคะ เลย์ลาว่า
เลย์ลานวดอยู่เงียบ ๆ ดีกว่าค่ะ"
"หึ" ฟาริคลอบยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงเล็กพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เขาหลับตาลงด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลาย
เลย์ลายังคงใช้สองมือเรียวของตัวเองนวดไปพักใหญ่
"เป็นไงบ้างคะ รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ยคะ" เสียงเล็กเอ่ยถามแต่ไร้เสียงตอบกลับมา
"เงียบเลย หลับไปแล้วเหรอ อย่าบอกนะว่าเรานวดสบาย…"
"…ดีจัง นึกว่าฝีมือการนวดของเราจะแย่ซะอีก อย่างน้อยก็ทำให้คุณฟาริคผ่อนคลายได้นะ"
"แล้วแบบนี้จะปลุกหรือจะปล่อยให้คุณฟาริคนอนแบบนี้ดี"
นั่งรอให้คุณฟาริคพักผ่อนอีกสักหน่อยค่อยเข้ามาปลุกดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้นเลย์ลาจึงค่อย ๆ ถอนตัวออกมา
เลย์ลาสาวเท้าเดินไปหยิบผ้าผืนหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าของตัวเองออกมา ก่อนที่เธอจะสาวเท้ากลับเข้าไปใกล้ ๆ แล้วโน้มตัวไปหาเขาเล็กน้อยและคลุมผ้าผืนใหญ่ให้กับฟาริค
แต่ในตอนนั้นดวงตาคมที่เหมือนปิดสนิทอยู่กลับค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาเพียงแค่พักสายตาและยังได้ยินสิ่งที่เธอพูดทุกคำ
เลย์ลาที่กำลังจะใช้ผ้าบาง ๆ คลุมกันหนาวให้เขาถึงกับชะงักตกใจ และในตอนนั้นเป็นอีกครั้งที่ทั้งสองจ้องตากันในระยะประชิด
ฟาริคใช้ดวงตาคมของตัวเองจ้องมองไปที่ดวงตากลมของเลย์ลาอย่างไม่สามารถที่จะละสายตาออกไปได้ ดวงตาคมของเขาเลื่อนมองไปทั่วบริเวณหน้าสวย
เมื่อเขาจ้องไปที่ดวงตากลมโตของเธออย่างพอใจ เขาก็เลื่อนสายตาไปที่แก้มเนียนใส เลื่อนสายตาไปที่จมูกโด่ง ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่ม
"อะ เอ่อ…เลย์ลาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณฟาริคตื่น"