น้องพสุบอกว่าโกรธเขาทั้งยังมุดหน้าเข้าหาซอกคอสวยของลิน ไม่หันมามองหน้าเขาอีก จะเหลือแค่เขากับลินในตอนนี้ที่ยังมองหน้ากัน
เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน จะพูดอะไร และจะทำยังไง สถานการณ์ตอนนี้ถึงจะดีขึ้น..
“นั่งก่อนไหม” สุดท้ายถึงพูดเชิญอีกคนให้นั่งพร้อมผายมือไปตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะ ในขณะที่เขาเองก็ทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ประจำตำแหน่งที่เดิม
เหมือนลินจะใจเย็นลง ในตอนนี้ถึงไม่พูดขัดหรือปฏิเสธอะไร ลินยอมเดินไปนั่งลงตามที่เขาบอกง่ายๆ ไม่มีเสียงสะอื้น มีแค่คนสวยที่อยู่ในท่าทีเรียบเฉย เดาความรู้สึกไม่ออก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เขาเหนือกว่าในฐานะเจ้านาย เขาคงจะสั่งให้ลินพูดสิ่งที่กำลังรู้สึกออกมา คงจะเค้นถามเรื่องมากมายที่เขากำลังสงสัยอยู่ในหัว แต่ในตอนนี้เขาทำแบบนั้นไม่ได้ ลินกำลังโกรธหรืออาจจะเกลียดเขาไปแล้วด้วยซ้ำ ขืนเขาทำอะไรวู่วาม ไม่คิดให้ดี คงจะพังเละเทะกว่านี้
“สบายดีไหม ลำบากหรือขาดเหลืออะไรหรือเปล่า” สิ่งที่อยากถามมีมากมาย แต่เลือกจะถามสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดและแอบหวังว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาจะเป็นในแนวทางที่ดี
“ฉันสบายดี ไม่ได้ลำบากอะไร”
“น้องล่ะครับ” เมื่อเห็นน้องพสุแอบลอบหันมามองในตอนที่เขาคุยกับคุณแม่ตัวเอง เพลิงเองถึงถือโอกาสรีบชิงถามลูกชายไปในคำถามเดียวกัน
“น้องสบายดี อยู่กับคุณแม่ น้องม่ายลำบาก ออกจะรวยด้วย”
“ดีแล้วครับ”
“มีกาปุกออมสินอันใหญ่ น้องมีเงินเยอะด้วย บ้านเช่าหลังใหม่ที่น้องอยู่ก็มีอ่างอาบน้ำให้น้องแช่ด้วยนะ! บ้านคุณลุงมีเหรอ” เหมือนตั้งใจจะอวดให้เขารู้แต่ดันพูดความเป็นอยู่ตัวเองออกมา..
“อยู่บ้านเช่าเหรอครับ”
“ช่าย!” เป็นน้องพสุที่ตอบกลับมาต่างจากคนเป็นแม่ที่หน้าถอดสี หลบสายตาเขา
“ลิน” จนเขาต้องเอ่ยเรียกถึงจะหันหน้ากลับมาหา “ไม่ได้ลำบากอะไรใช่ไหมครับ” กลัวว่าถ้าเรียบเรียงคำพูดได้ไม่ดีก็จะกลายเป็นการดูถูก กลัวจะทำให้คนฟังทั้งสองรู้สึกแย่
“ทำมาย ก็น้องบอกว่าม่ายไง บ้านคุณลุงมีอ่างอาบน้ำเหมือนบ้านน้องเหรอ”
“บ้านคุณลุงมีสระว่ายน้ำครับ” สุดท้ายแทนที่จะได้ปรับความเข้าใจกับผู้ใหญ่ ดันได้มาพูดย้อนแกล้งเด็กน้อยแทน..
“สระว่ายน้ำ!” ตาลุกวาว..จากที่โกรธจนแทบจะมุดหน้าหนี กลับรีบปีนลงจากตักคุณแม่ วิ่งอ้อมโต๊ะมาหาเขา “น้องอยากเล่นคับคุณลุง”
“น้องพสุคะ มาหาคุณแม่”
“คุณแม่ บ้านคุณลุงมีสระว่ายน้ำ จะได้ม่ายต้องให้คุณแม่จ่ายตังพาน้องไปเล่น มันแพงนะคุณแม่”
“คุณแม่พาน้องไปเล่นได้ ไม่ต้องไปรบกวนเขา”
“ไม่รบกวน” เสียงเข้มรีบพูดขัดประโยคของอีกคน ก่อนจะหันหน้ากลับมาหาเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ “ไว้คุณลุงจะพาไปเล่นที่บ้าน ถ้าคุณแม่น้องอนุญาต”
“คุณแม่ค้าบบบ” สุดท้ายเมื่อรู้ว่าต้องได้รับคำขออนุญาตจากคุณแม่ ถึงได้วิ่งกลับไป ส่งสายตาออดอ้อนให้คนสวยยอม “ขอไปกับคุณลุงได้ม่ายค้าบคุณแม่”
“ไม่ได้ค่ะ ถ้าน้องอยากเล่น คุณแม่จะพาไป จ่ายเงินเท่าไหร่คุณแม่ไม่มีปัญหาเลย”
“แต่ต้องรอเงินเดือนคุณแม่ออกก่อน..กี่วันคับ น้องต้องรอกี่วัน” คำพูดของลูกชายทำลินลอบหันสายตามามองเขา เช่นเดียวกับเขาที่มองไปที่ลิน
“คุณลุงขอคุยกับคุณแม่ส่วนตัวได้ไหมครับ” เสียงเข้มเอ่ยเรียกความสนใจให้น้องพสุหันมามอง “คุณลุงจะขออนุญาตคุณแม่ให้ไงครับ”
“คุยฉองคนแล้วให้น้องปายไหน ให้น้องกลับบ้านคนเดียวเหรอคับ”
“มานี่ครับ” จบคำพูด น้องพสุเดินอ้อมโต๊ะกลับมาหา เพลิงถึงยกตัวเด็กน้อยอุ้ม..หวังจะพาลูกชายเข้าไปนอนรอภายในห้องนอน แต่อยู่ ๆ สัมผัสที่เขาใช้มือโอบลูกไว้ และลูกใช้มือกอดมาที่ตัวเขาก็ทำเขาชะงักไป
ใจเต้นแรง รับรู้ถึงหัวใจดวงน้อยๆ ของเด็กในอ้อมกอด
ความอบอุ่น ความเจ็บปวด ความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวใจ เขาอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
สายตาคมน้ำตาคลอภายในเวลาที่โอบตัวน้องพสุไว้ได้ไม่ถึงนาที แต่ทำได้เพียงรีบอุ้มพาเข้าห้องนอน วางเด็กน้อยให้นอนบนเตียงของเขา
“นอนรอนะครับ เดี๋ยวขออนุญาตคุณแม่ได้แล้วจะเข้ามาบอกข่าวดี”
“ขอให้น้องให้ได้นะคับคุณลุง” เสียงออดอ้อนเอ่ยพร้อมยิ้มให้..เขาเองได้แค่พยักหน้ารับ รู้สึกเหมือนได้รับภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ใช้มือลูบศีรษะเด็กตรงหน้าแล้วถึงเดินออกไปที่ห้องทำงานอีกครั้ง
เพลิงกลับมานั่งลงเก้าอี้หลังโต๊ะที่เดิม สายตาคมที่มีน้ำตาคลออยู่ แม้ลูกชายไม่เห็นแต่เหมือนคนหน้าโต๊ะจะสังเกตเห็นมัน ลินเหมือนจะตกใจ อยากจะพูดถามบางอย่างกับเขาแต่กลับเลือกที่จะไม่พูดออกมา
“คุณอยากตรวจดีเอ็นเอไหม” คำถามที่สาวตรงหน้าถามเขา..เป็นอีกครั้งที่เขาเจ็บปวดเพราะคำพูดของตัวเอง คำพูดที่เคยด่าลินไปวันนั้น เขาหวงลินจนเลือดขึ้นหน้า ลินอยู่กับเขามาเป็นปี เป็นหนึ่งปีที่เขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหน เป็นหนึ่งปีที่เขาเรียกหาแค่ลิน สั่งการ์ดตามเฝ้า ตามดูแล แต่กลับโง่ ไม่รู้ตัวเอง คิดแต่ว่าติดใจเซ็กส์ หลงเพราะตัวเองคือคนแรกของลิน ความสัมพันธ์ของลินและเขาในตอนนั้น มีแต่คนคิดว่าลินจะเลื่อนมาเป็นนายหญิงของคาสิโน มีแค่เขาที่มองว่ามันเพ้อเจ้อและไม่มีวันเป็นแบบนั้น
เขาจะเอาผู้หญิงบริการขึ้นมานั่งตำแหน่งนั่นได้ยังไง?
แต่มาวันที่ลินลาออก ไปแบบไม่บอกกล่าว เขาทิ้งงาน ทิ้งทุกอย่าง สั่งการ์ดทั้งหมดที่มีตามหาจนถึงวันที่เขาตามหาเอง และก็ไปเจอลินกับผู้ชายในผับ
ยอมรับว่าสติแตก เขาแทบบ้า เหมือนถูกหยามศักดิ์ศรี เหมือนถูกหลอก โกรธจนคุมตัวเองไม่ได้ สุดท้ายถึงพลาดทำแบบนั้นไป
เขายอมรับทุกอย่าง ไม่มีข้อแก้ตัวเลย แต่เวลาหลายปีที่ผ่านมา มันมากพอที่จะให้เขาวางศักดิ์ศรีบ้า ๆ นั่นลง ทิ้งอีโก้ที่มี โตขึ้นและใจเย็น เขาพร้อมขอโทษและแก้ไขทุกอย่าง และเขาควรทำมันก่อนลินจะเกลียดเขาไปมากกว่านี้
“คุณเพลิง” เพราะเขาเงียบไปนานหลายนาที ลินถึงเอ่ยเรียกเขาขึ้นมาซ้ำ “ลินถามว่าอยากตรวจดีเอ็นเอไหม”
“ดีเอ็นเอมันอยู่บนหน้าขนาดนั้นแล้วลิน”
“ถึงจะลูกคุณ แต่คุณไม่ต้องกังวลเลยว่าจะต้องมารับผิดชอบ ลินดูแลเขาได้ คุณอยากจะใช้ชีวิตแบบเดิมก็ได้นะ ลืมเรื่องนี้ไปเลยก็ได้ ลินสัญญา จะไม่เรียกร้องอะไรเลย ลินอยู่กับลูกสองคนได้”
“สองคน?”
“อือ”
“สามคนรวมเพลิงด้วยไม่ได้เหรอครับ”
“ถ้าลูกต้องการ ลินโอเค”
“แล้วลินไม่ต้องการเพลิงเลยเหรอ”
“คุณเพลิง”
“…”
“ลินมีแฟนแล้วนะ ถ้าสามคนที่ว่า หมายถึงแบบที่ลินเข้าใจ แบบนั้นมันไม่ได้หรอก ขอโทษนะ”
อ่า..แม่ง เจ็บยิงกว่าโดนยิงซะอีก