แขกในงานกำลังทยอยกลับเกือบหมดแล้ว เมลดากับเพื่อนยังนั่งคุยกันอยู่ด้านในศาลาขณะที่บอสตันก็นอนหลับอยู่บนตัก
“ขอบใจทั้งสองคนมากนะที่มางานของพ่อ”
“เราเพื่อนกันนะโมเดล ยังไงก็ต้องให้กำลังใจกันอยู่แล้ว แต่พรุ่งนี้เราอาจจะมาไม่ได้เพราะอาหมอมีตรวจนอกเวลาเอาไว้วันสุดท้ายเราจะมานะ” เดนิสาอยากมาทุกวันแต่เพราะสามีของเธอแลกเวรไม่ได้และลูกของเธอก็เด็กเกินกว่าจะมาร่วมงานแบบนี้
“แต่เรามาได้ทุกวันนะ เราว่างตลอดตอนกลางวันก็ว่าถ้าโมเดลอยากพาบอสตันออกมาเที่ยวก็ชวนเรามาได้”
“ช่วงนี้คงยังไม่เที่ยวหรอก รอเสร็จงานคุณพ่อก่อน เราว่าพาน้องติณณามาเจอพี่บอสตันหน่อยดีไหม” เมลดาเป็นคนเสนอ
“ดีสิลูกเราจะได้เป็นเพื่อนกันเหมือนเราสามคนไง”
“เราคงต้องรีบหาสามีจริงๆ แล้วแหละนะ” อรอินทร์บอกกับเพื่อนทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ
ยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อมาวินที่ส่งแขกคนสุดท้ายขึ้นรถแล้วก็เดินเข้ามาก่อน
“พี่วินมาพอดีเลย โมเดลจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก คนนี้ชื่อเดซี่ ส่วนคนนี้ชื่ออิ๊นซ์ค่ะยังโสด”
“สวัสดีครับ ขอบคุณมากนะครับที่มาร่วมงานของท่านประธาน” เขายิ้มทักทายเพื่อนของน้องสาวซึ่งเคยได้ยินเธอพูดถึงอยู่บ่อยๆ
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ” เดนิสาและอรอินทร์กล่าวทักทายพี่ชายของเพื่อน
“พี่วินถ้าอยู่กับอิ๊นซ์และเดซี่เรียกว่าคุณพ่อก็ได้ค่ะ โมเดลเล่าเรื่องของพี่ให้เพื่อนฟังแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะที่โมเดลไม่ได้ถามพี่วินก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกสองคนนี้เขาเป็นเพื่อนสนิทของโมเดลนี่”
“พี่วินไม่โกรธใช่ไหม”
“ไม่โกรธหรอก พี่ดีใจที่โมเดลกลับมาเมืองไทยและยังมีเพื่อนสนิทอยู่ที่นี่ด้วย โมเดลจะคุยกับเพื่อนต่อไหมเดี๋ยวพี่พาบอสตันกลับบ้านเอง”
“เราสองคนก็จะกลับแล้ว โมเดลพาลูกกลับไปนอนเถอะ มีอะไรโทรได้ตลอดนะ”
“ขอบใจทั้งสองคนอีกครั้งนะ”
“จะกลับกันยังไงให้พี่ไปส่งไหม” มาวินถามเพราะเพื่อนของน้องสาวก็เหมือนกันน้องสาวของตัวเอง
“เราสองคนเอารถมาเองค่ะ”
“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถนะ”
เพราะตอนนี้บริเวณวัดค่อนข้างจะเงียบเนื่องจากแขกทั้งสองศาลาที่มีการจัดงานต่างพากันกลับเกือบจะหมดแล้วมาวินเลยเดินมาส่งเพื่อนของน้องสาวที่รถ
“ขอบคุณค่ะพี่วินที่เดินมาส่ง อิ๊นซ์กับเดซี่ฝากพี่ดูแลโมเดลด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พี่จะดูแลโมเดลกับลูกอย่างดีที่สุด”
“โมเดลโชคดีมากที่มีพี่อยู่ข้างๆ” เดนิสายิ้มก่อนจะขึ้นรถและขับออกไปจากบริเวณวัด
บทสนทนาของทั้งสามคนทำให้คนที่ยืนอยู่ในมุมมืดได้ยินอย่างชัดเจน
วันนี้วาคิมมาร่วมงานศพของบิดาคนรู้จักขณะที่เขาเดินมาที่รถก็บังเอิญเห็นว่ามีคนกำลังเดินมา เขาจำผู้หญิงสองคนที่เนินเดินนำหน้าได้ แต่ผู้ชายเขายังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่พอทั้งสามคนเดินคุยกันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เขาก็มั่นใจในทันทีว่าตนเองรู้จักทั้งสามคนเป็นอย่างดี
ผู้หญิงสองคนคือเพื่อนสนิทของเมลดาเธอคือผู้หญิงที่เขาเคยรักส่วน ผู้ชายคนนั้นก็คือรุ่นพี่ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการซึ่งเขาระแคะระคายว่าคือคนที่ทำให้เมลดาเปลี่ยนใจ และทิ้งไปเมื่อ 6 ปีก่อน
ชายหนุ่มยังจำได้ดีถึงเรื่องของเขาของเขากับเมลดาถึงแม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม
ในเย็นวันหนึ่งเมลดาโทรศัพท์มาบอกเขาว่าจะเข้ามาหาที่คณะแต่พอถึงเวลานัดหญิงสาวก็ไม่มา เขารออยู่นานและพอโทรศัพท์ไปถามจึงได้รู้ว่าคนรักของตนไม่ว่าง เนื่องจากต้องไปทำธุระกับที่บ้าน
ในตอนนั้นวาคิมไม่ได้คิดอะไรมากเลยเพราะปกติเมลดาก็มักจะไปทำธุระกับที่บ้านอยู่บ่อยๆ แต่วันนี้มันไม่ใช่แบบที่หญิงสาวบอกเลยเพราะขณะที่เขากำลังขับรถกลับบ้านก็เห็นว่าเมลดา นั่งรถไปกับมาวินชายหนุ่มรุ่นพี่
เขารีบโทรศัพท์ไปหา แต่หญิงสาวก็ตัดสายทิ้งตลอด ด้วยความใจร้อนวาคิมเลยตามไปดักรอเมลดาที่หน้าบ้านแต่รอจนเที่ยงคืนหญิงสาวก็ไม่กลับ เขาเลยพยายามโทรศัพท์ไปหาอีกครั้ง แต่เธอก็ปิดโทรศัพท์ไปแล้ว
ว่าคิมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเขาพยายามจะเข้าใจว่าเธอคงจะมีธุระกับทางบ้านจริงๆ แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือทำไมเธอต้องไปกับมาวินตามลำพังด้วย
วันรุ่งขึ้นวาคิมก็ไปดักรอเมลดาที่ตึกคณะของเธอหลังเลิกเรียนเมื่อเห็นเธอเดินลงมาจากชั้นสองก็รีบตรงเข้าไปหาทันที
“โมเดลว่างไหมผมขอคุยด้วยหน่อยสิ”
“วาคิมมีอะไรหรือเปล่าพอดีว่าเรามีธุระต้องไปทำต่ออีกหลายที่”
“ผมอยากถามว่าเมื่อวานโมเดลไปกับรุ่นพี่คนนั้นอีกใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“วาคิมรู้ได้ยังไงว่าโมเดลไปกับเขา”
“ก็ผมเห็น”
“นี่แอบตามโมเดลเหรอ ไม่ไว้ใจกันขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เปล่านะ ผมแค่บังเอิญเห็นและผมไม่ชอบเลยที่โมเดลออกไปกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น”
“มันไม่มีอะไรหรอก”
“แต่ผมไม่ไชอบ” เขาตะคอกใส่เธอด้วยความโมโห
“โมเดลไม่เคยบังคับให้วาคิมมาชอบหรือไม่ชอบในสิ่งที่โมเดลทำ”
“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ”
“ก็มันจริงนี่ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก”
“เราเป็นแฟนกันนะโมเดล ทำไมถึงพูดแบบนี้”
“ไม่รู้สิโมเดลอยากพูดอะไรก็พูด”
“ผมว่าวันนี้โมเดลเปลี่ยนไปนะมีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มี”
“แน่ใจเหรอว่าตัวเองเหมือนเดิม”
“แล้วแต่วาคิมจะคิดเลยนะ โมเดลขอตัวก่อน”
“จะออกไปกับเขาอีกเหรอ”
“ใช่น่ะสิ”
“โมเดลจะไปกับผู้ชายคนไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“อย่ามาทำเสียงแบบนี้กับโมเดลนะ วาคิมก็แค่แฟนไม่ใช่เจ้าชีวิต”
“โมเดลเปลี่ยนไปมากจริงๆ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าโมเดลจะเป็นคนแบบนี้”
“โมเดลก็ไม่คิดเหมือนกันว่าวาคิมจะเป็นคนแบบนี้เหมือนกัน วาคิมให้เราผิดหวังมากนะ กลับไปเถอะโมเดลไม่อยากจะคุย”
“แต่ผมอยากคุยกับโมเดลนะ”
“ถามใจตัวเองก่อนเถอะว่าอยากคุยจริงไหมว่าคิม”
นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เขากับเมลดาได้คุยกันเพราะหลังจากนั้นก็ถึงช่วงสอบปลายภาคเขาไม่อยากรบกวนสมาธิของหญิงสาว จึงไม่ได้ติดต่อเธอไปอีกจนกระทั่งสอบเสร็จ
วาคิมรีบไปหาเธอที่คณะในการสอบวันสุดท้ายแต่เขาก็ไปช้ากว่ามาวินเพราะเมลดานั่งรถผ่านหน้าเขาไปโดยไม่คิดจะหันมามองเลยตั้งแต่วันนั้นวาคิมก็ไม่เคยได้เจอกับเมลดาเลย
เขารู้ว่าหญิงสาวออกจากมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าเหตุผลมันคืออะไรกันแน่ ชายหนุ่มพยายามไปถามเพื่อนสนิทของเมลดาแต่ทั้งสองคนก็ไม่เคยบอกอะไรเขาเลยอีกทั้งยังทำท่าทางรังเกียจจนสุดท้ายเขาก็เลิกตามตื๊อและลืมเธอไปแล้ว