ทุกสิ่งเป็นความผิดพลาดของเขาเอง...นับตั้งแต่เขาเข้าบริหารโรงแรมในเครือเดอ มาเรียน่าซึ่งมีอยู่เกือบๆ สิบสาขาตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศก็เริ่มมีผลประกอบการต่ำลงเรื่อยๆ เพราะผู้บริหารที่เป็นทายาทคนเดียวนั้นเรียกได้ว่า 'มือไม่ถึง' ทว่าที่ยังอยู่ได้เพราะอาศัยชื่อเสียงเก่าแก่ของโรงแรมที่สั่งสมมาหลายต่อหลายรุ่น ทว่านั่นไม่เพียงพอเสียแล้วและเริ่มมาซวนเซหนักจากพิษเศรษฐกิจหลายครั้ง จนกระทั่งครั้งล่าสุดเขาก็ประคองไว้ไม่ไหว
กษิดิษย์รู้...เขาไม่ใช่คนเก่งกาจในด้านธุรกิจ สิ่งนี้ไม่ใช่ความชอบของเขา ทว่าการเป็นทายาทเพียงคนเดียวก็ทำให้เขาทิ้งภาระหน้าที่นี้ไม่ได้
สุดท้าย...พีระนันท์ก็ล่มสลายในรุ่นของเขาอยู่ดี!
“ไม่จริง! ปีบไม่เชื่อ!”
ไฮโซสาวกรีดร้องอย่างรับไม่ได้ คนอย่างกาสะลอง พีระนันท์คนนี้นะหรือ...คือคนที่สิ้นไร้ไม้ตอก ในยามนี้กำลังจะไร้แม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน!
“หยุดร้องซะยายปีบ เสียงร้องของแกไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น!”
คุณหญิงการะเกดตวาดบุตรสาวเสียงเข้ม นั่นทำให้กาสะลองยอมเงียบเสียงลงในที่สุด
ความเงียบอันแสนอึดอัดเริ่มคลี่คลุมรายรอบสมาชิกทั้งสี่ของ
พีระนันท์อีกครั้ง และคราวนี้คนที่คิดว่าตนเองไม่สมควรมาอยู่ ณ ที่ตรงนี้ที่สุดจึงเอ่ยปากพูดขึ้น และคงเป็นหล่อนคนเดียวกระมังที่ทำใจได้และมี
ทีท่าสงบเยือกเย็นในยามที่ได้รับฟังปัญหาใหญ่ของครอบครัว
“แล้วเราต้องย้ายออกไปจากที่นี่เมื่อไหร่คะคุณพ่อ”
การะบุหนิง...หันไปถามบิดาของหล่อนเสียงอ่อน แม้ว่า...แต่ไหนแต่ไรกษิดิษย์ไม่ได้สนใจไยดีลูกสาวคนนี้นัก ทว่านี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกดีเมื่อได้ยินเสียงหวานเรียบเย็นของหล่อน
ดวงตาของชายวัยเกือบหกสิบมองลูกสาวของตนเองเป็นเชิงขอบคุณที่หล่อนเป็นคนเดียวที่เข้าใจและทำใจสงบกับปัญหานี้ได้
“เขาให้เวลาเราอีกหนึ่งเดือนในการใช้หนี้ทั้งหมด และไถ่บ้านหลังนี้ก่อนที่จะโดนประกาศล้มละลาย...”
“แล้ว...” การะบุหนิงสบตากับบิดาที่หล่อนไม่เคยสนิทชิดเชื้อด้วยดวงตาเห็นใจ “เราเป็นหนี้เท่าไหร่คะ?”
“หักลบจากทุกอย่างแม้กระทั่งบ้านหลังนี้ก็ยังเหลือหนี้อีก...เกือบร้อยล้าน”
“คุณพระ!”
ทุกคนที่ได้ฟังจำนวนหนี้สินนั้นได้แต่ยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ นั่นทำให้ประมุขแห่งพีระนันท์หน้าเสียยิ่งกว่าเดิม
ขณะนี้ทุกคนเริ่มตระหนักถึงอนาคตที่ใกล้จะมาถึงแล้วในไม่ช้านี้
สูญสิ้นเสียแล้ว...พีระนันท์อันยิ่งยง!
“คุณพ่อคะ....แล้วใครคือเจ้าหนี้ของเราเหรอคะ” การะบุหนิงถาม ทั้งที่ดวงหน้าของหล่อนยังไม่หายซีดเผือดจากจำนวนตัวเลขหนี้อันสูง
ลิบลิ่วที่ให้ตายหล่อนก็ไม่มีปัญญาหามาใช้ได้
กษิดิษย์มองหน้าคนถามด้วยสายตาทดท้อ ทว่าก็ยอมตอบแต่โดยดี
“คีธ แมคไกวร์”
“นักธุรกิจข้ามชาติที่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียงได้ปีกว่านั่นเหรอคะคุณพ่อ” คราวนี้เป็นกาสะลองที่เอ่ยถามขึ้นเมื่อได้ยินชื่อนี้
หล่อนเคยเห็นเขาตามงานสังคมสองสามครั้ง
'คีธ แมคไกวร์' หล่อเหลาลึกลับ และ...ทรงอำนาจ สองคำนิยามที่หล่อนให้นักธุรกิจหนุ่มคนนี้
ชื่อเสียงของเขาเริ่มขจรขจายพอๆ กับหน้าตาหล่อเหลาและอำนาจเงินตรา ทว่าเขาไม่ได้อยู่ในความสนใจของหล่อนมากนัก กาสะลองไม่ชอบผู้ชายที่ดูดุดันอย่างคีธ ถึงจะหล่อและรวย...แต่แล้วอย่างไรล่ะ ในเมื่อหล่อนก็คือพีระนันท์ ร่ำรวยไม่แพ้กัน...ถึงแม้ตอนนี้จะกลายเป็นอดีตแล้วก็ตามที
“แล้วเราไม่มีทางจะเจรจาเลยเหรอคะคุณพ่อ”
การะบุหนิงถาม อันที่จริงหล่อนไม่รู้จักคีธ แมคไกวร์เลยด้วยซ้ำ ที่ถามว่าใครคือเจ้าหนี้เพราะแค่ต้องการจะจดจำไว้เป็นข้อมูลเท่านั้นเอง
“มี...มิสเตอร์แมคไกวร์เพิ่งให้ข้อเสนอล่าสุดแก่เรามา”
“ข้อเสนออะไรคะ”
ทุกคนถามขึ้นพร้อมๆ กัน
กษิดิษย์มองหน้ากาสะลองตรงๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ และแจ้งถึงข้อเสนอล่าสุดที่จะทำให้พีระนันท์หลุดพ้นจากภาวะวิกฤตินี้ทันที
และการมองกาสะลองเช่นนี้ก็ทำให้ทุกคนต่างรับรู้ทันทีว่าเจ้าหล่อนคือหนทางพ้นจากปัญหานั้น
“มิสเตอร์แมคไกวร์เสนอให้ลูกสาวของบ้านพีระนันท์แต่งงานกับเขา แล้วพอมีทายาทที่เป็นผู้ชาย...ถึงจะหย่าขาดจากกันได้นี่คือเงื่อนไขหลักๆ ที่เขาแจ้งมา แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง”
ทุกคนได้ฟังข้อเสนอสุดประหลาดนั้นถึงกับเบิกตาโต...แต่งงานมีทายาทแล้วหย่าขาดเนี่ยนะ!
ผู้ชายคนนั้นคิดบ้าอะไรอยู่!
“ไม่!”
กาสะลองหน้าแดงก่ำ เข้าใจในทันทีว่า ‘ลูกสาวของบ้านพีระนันท์’ นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน
...คือหล่อน! ในวงสังคมต่างรับรู้กันว่าหล่อนคือลูกสาว ‘คนเดียว’ ของบ้านพีระนันท์! ทั้งที่จริงแล้วมันมิใช่!
“ถ้าดอกปีบปฏิเสธ...งั้นเราควรจะเริ่มเก็บของได้ตั้งแต่วันนี้เลย”
พูดจบกษิดิษย์ก็เดินออกไปจากห้องนี้ทันที ทิ้งให้ผู้หญิงอีกสามคนได้แต่นั่งนิ่งและมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป
การะบุหนิงมองใบหน้าของคุณหญิงการะเกดและกาสะลองน้องสาวต่างมารดาของตนเองด้วยสายตาเห็นใจ สองคนนี้ต่างอยู่อย่างสุขสบายมานาน ถ้าจะมาลำบากในตอนนี้เห็นเป็นเรื่องน่าเห็นใจมิใช่น้อย...แต่หล่อนก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก การะบุหนิงถอนใจยาว ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารนี้เป็นบุคคลที่สอง
สำหรับหล่อนแล้ว...พีระนันท์จะล้มหรืออยู่ หล่อนไม่เคยมีความหมายสำหรับตระกูลนี้อยู่แล้ว
กาฝาก...นังลูกคนรับใช้
ถ้อยคำเรียกขานหล่อนทั้งต่อหน้าและลับหลัง สำหรับหญิงสาวที่เกิดจากลูกของคนใช้นั้น...การะบุหนิงก็ไม่ต่างอะไรจากทาสในเรือนเบี้ยที่ถูกซุกซ่อนให้อยู่แต่ในครัว เป็นตราบาปในครั้งอดีตของกษิดิษย์ พยานบาปที่ตอกย้ำให้ไดรับรู้กันว่าครั้งหนึ่ง...ประมุขแห่งพีระนันท์เคยนอกใจคุณหญิงการะเกด!