“งั้นหรือ...” คีธตอบรับ แล้วจึงเงียบไปพักใหญ่ ในตอนที่ลิฟท์กำลังจะถึงชั้นที่เป็นจุดหมาย ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นมาว่า “แต่ก็ไม่แน่นะแมท บางครั้งฉันคิดนะว่าอาจจะเปลี่ยนตัว เพราะไม่ว่าเป็นใครแต่ถ้านามสกุลพีระนันท์ก็ใช้ได้แล้ว”
พูดจบก็คิดถึงท่าทีของคีรีที่ได้ปะทะกันเมื่อคืน แล้วนึกสะใจว่าหากเป็นการะบุหนิงที่ไม่ใช่ลูกคุณหญิงการะเกดที่มีเชื้อสายดี อีกฝ่ายคงกระอักเลือดตาย
ทว่าคำตอบของคีธกลับทำให้แมทธิวนิ่งเงียบ เอาเถอะ...อีกไม่นานเขาคงจะได้รู้คำตอบนั้นด้วยตัวเองเมื่อพวกเขาไปถึงบ้านพีระนันท์!
บ้านพีระนันท์นั้นในสายตาคีธแท้จริงแล้วเป็นคฤหาสน์หลังงามบนเนื้อที่เกือบสิบไร่ใจกลางกรุง ตัวตึกใหญ่นั้นเป็นคฤหาสน์ประยุกต์ดูโอ่อ่าสง่างาม ทั้งที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างคีธประเมินว่าน่าจะมีราคาสูง มิน่า...พวกพีระนันท์ถึงได้ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียบ้านหลังนี้ไป
ชายหนุ่มและผู้ช่วยคนสนิทมาเยือนบ้านหลังนี้ช่วงเวลาราวๆ เกือบสิบโมงเช้าเห็นจะได้ ก่อนมาถึงที่นี่เขาให้แมทธิวติดต่อพวกพีระนันท์เอาไว้แล้ว ฉะนั้นทำให้เมื่อเขามาถึงก็พบคุณหญิงการะเกดออกมายืนรอต้อนรับราวกับเขาเป็นบุคคลสำคัญอยู่ก่อนแล้ว ทว่าสำหรับคีธ การมองหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสแสร้งของหญิงวัยกลางคนผู้นี้พานแต่จะทำให้เขาอารมณ์เสียมากยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มพอจะรู้...ว่าบางครั้งการเข้าสังคมนั้น โดยเฉพาะสังคมชั้นสูงไม่ว่าจะที่ไหนๆ ก็เต็มไปด้วยพวกสวมหน้ากาก แต่ให้อย่างไรคีธก็ไม่เคยชินเสียที ทำให้แต่ไหนแต่ไร งานไหนไม่สำคัญจริงๆ อย่านึกฝันเลยว่า นายใหญ่ของฟีนิกส์จะไปเยือนงานเลี้ยงไร้สาระพวกนั้น
“สวัสดีค่ะมิสเตอร์แมคไกวร์ มิสเตอร์เมอร์สัน”
คุณหญิงการะเกดถึงกับเดินมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง ถัดไปคือกษิดิษย์ผู้ซึ่งยืนอยู่เงียบๆ ไม่มีปากไม่มีเสียง
“สวัสดีคุณหญิงการะเกด คุณกษิดิษย์” คีธทักทายผู้สูงวัยทั้งสองกลับ สีหน้าของเขาเรียบเฉย ทำให้คุณหญิงการะเกดไม่สามารถอ่านอารมณ์ของเขาออกได้ นั่นทำให้หล่อนรู้สึกหวั่นใจอยู่บ้าง แต่ก็ทนข่มมันเอาไว้
“ครับ...” กษิดิษย์รับคำสั้นๆ เช่นเดียวกัน สีหน้าของเขาในยามนี้มีแววหนักใจ
กริยานั้นทำให้คีธพอจะรู้ บางที...คนที่คิดจะบิดพลิ้วข้อสัญญาของเขาคงมีเพียงคุณหญิงการะเกดคนนี้เพียงคนเดียวกระมัง
“ผมคิดว่าวันนี้เราคงต้องมีเรื่องพูดกันอีกยาว...ในสิ่งที่พวกคุณทำเมื่อคืนนี้” คีธเอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา เมื่อพวกเขาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาหรูภายในห้องรับแขกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ดิฉันคิดว่า” คุณหญิงการะเกดแย้งขึ้น อย่างคนที่คิดหาทางหนีทีไล่เอาไว้เรียบร้อยแต่แรกแล้ว “พวกเราทำตามข้อตกลงทุกๆ อย่างของคุณนะคะมิสเตอร์แมคไกวร์”
“ทุกอย่าง!” คีธสวนขึ้นทันควันเสียงหนัก ตวัดตามองหญิงมากเล่ห์ด้วยสายตาดุจัด ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะอายุมากกว่าตนเอง “ยังไงล่ะ! คุณเปลี่ยนตัวเจ้าสาวของผมโดยพละการ! นี่แสดงว่าวางแผนกันมาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม”
เขาถามอย่างเดือดดาล คุณหญิงการะเกดนี่นอกจากจะไม่สำนึกผิดที่บิดพลิ้วกับเขาแล้ว หล่อนยังกล้าโต้แย้งเล่นแง่กับเขาซึ่งๆ หน้าเช่นนี้นี่นะ! ไม่คิดสั่งสอนหล่อนก็ไม่ต้องมาเรียกเขาว่าคีธ แมคไกวร์!
“ไม่จริงนะคะ” เป็นตายอย่างไรคุณหญิงการะเกดก็ขอแย้งเอาไว้ก่อน “แต่ทางคุณเข้าใจผิดเองที่คิดว่าเป็นยายปีบ”
นี่เป็นเล่ห์เหลี่ยมที่หล่อนคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วที่ลงมือทำเช่นนี้
เขาเปิดช่องโหว่ให้หล่อนเอง เมื่อพอมีทางจะพลิกให้หล่อนและลูกรอดได้ คุณหญิงการะเกดย่อมไม่รีรออะไรทั้งสิ้น
“คุณหญิง!” คราวนี้คีธทนไม่ไหว เขาตวาดเสียงดังใส่หญิงวัยกลางคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนหล่อนจะไม่สำนึกและยังคงตอบโต้ให้เขาได้โมโหมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ดอกแก้วเป็นลูกสาวคนโตของคุณกษิดิษย์ ใช้นามสกุลพีระนันท์ ตรงตามข้อตกลงของเราทุกอย่าง และตอนที่เราเซ็นสัญญากัน ไม่มีคำไหนหรือในสัญญาที่ระบุว่าคนที่แต่งงานคือยายดอกปีบ สัญญาทุกอย่างบ่งชี้ว่าเจ้าสาวของคุณคือดอกแก้วนะคะมิสเตอร์แมคไกวร์”
“คุณหญิงจะเล่นตุกติกกับผมอย่างนั้นเหรอ ในวงสังคมใครๆ ก็คิดว่าลูกสาวของคุณกษิดิษย์มีเพียงกาสะลอง จู่ๆ มีแม่ดอกแก้วอะไรนี่โผล่ขึ้นมา คุณจะให้ผมคิดยังไงถ้าไม่ใช่พวกคุณอุปโลกผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาเพื่อย้อมแมวขายผม!”
“มิสเตอร์แมคไกวร์...ผมไม่คิดขายลูกสาวกิน”
คราวนี้เป็นกษิดิษย์ที่นั่งเงียบอยู่นานโต้แย้งขึ้น ทำให้คุณหญิงการะเกดรีบเอ่ยแทรกเมื่อเห็นสีหน้าดูถูกของคีธ
“เอาล่ะค่ะ ดิฉันคงต้องขอชี้แจงให้คุณฟังว่าลูกสาวของคุณกษิดิษย์มีสองคน แต่แม่ของดอกแก้วเป็นคนในบ้านนี้” หล่อนเอ่ยขึ้น นั่นทำให้คีธจ้องมองหล่อนขวับด้วยสายตาไม่เข้าใจผสมกับโกรธเคือง
“คุณหญิงกำลังหมายความว่ายังไง”