บทนำ
รถของสามีจอดอยู่ตรงลานจอดรถ ทำให้คนที่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ ยิ้มออกมา กำหนดการเจรจาธุรกิจเสร็จเร็วกว่าที่คิด ทำให้ภรรยาสาวสวย ตรงดิ่งมาหาคนที่คิดถึงมาตลอดหลายวัน
แม่บ้านรายงานว่า คุณผู้ชายไม่ได้กลับไปค้างที่คอนโดเลย ทำให้รู้ได้ทันทีว่า เค้าต้องอยู่ที่นี่แน่นอน
รหัสหน้าห้องที่เป็นวันเกิดของเธอ ถูกเปลี่ยน ทำให้คนที่กดรหัสเดิมรู้สึกแปลกใจเหลือเกิน มือบางควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋า แล้วจัดการสแกนทันที
เสียงประตูเปิดออก พร้อมกับแสงไฟหน้าห้องสว่างขึ้น เวลาเกือบสองทุ่มแล้ว เธอคิดว่า เค้าอาจจะกำลังพักผ่อนอยู่แน่นอน
รองเท้าสนิกเกอร์สีขาวแบรนด์ดังหน้าประตู ที่ถอดเอาไว้ ทำเอาคนที่เพิ่งมาถึงแปลกใจเหลือเกิน รองเท้าแบบนี้ ไม่ใช่ของสามี และที่นี่ ก็ไม่ใช่ที่ต้อนรับแขกด้วย
เสียงเพลงบรรเลงในห้อง ทำให้รู้ว่ามีคนอยู่ แสงไฟสลัวด้านใน ทำให้ขาของเธอสั่นแบบไม่รู้ตัว
เสียงพูดคุยดังออกมาจากข้างใน ทำให้รู้แน่ชัดอีกอย่าง ว่าเค้ามีคนอยู่ด้วย
ประตูด้านในเปิดกว้าง เผยให้เห็นผู้ชายสองคน กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มร่างกายเปลือยเปล่า บนพื้นกลางห้อง ทำให้ขาเธออ่อนยวบลง เสียงของกระเป๋าที่ร่วงหล่นบนพื้น ทำให้คนทั้งสองคน ตกใจสุดขีด
“น้องผึ้ง “
เสียงของสามีเธอ เรียกชื่อเธอ ร่างกายเปลือยเปล่า ผิวขาวจัด ของเค้าทำให้เธอน้ำตาร่วงหล่นลงมา ผู้ชายอีกคน น่าจะเป็นเด็กหนุ่ม วัยรุ่นลุกขึ้นยืนอย่างไม่อาย แล้วคว้าเสื้อคลุมที่ร่วงอยู่ขึ้นมาสวมใส่
“แต่งตัวให้เรียบร้อยเถอะ “ สามีของเธอบอกกับชายหนุ่มข้างกาย แล้วลุกขึ้นยืน หยิบเสื้อคลุมมาสวมอีกคน
ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากปากของเธอ ตอนนี้ร่างกายและสมองของเธอ เหมือนโดนฟ้าผ่าลงตรงหน้า สามีที่แต่งงานมามากกว่า3ปี นอกใจและนอกกาย ไปมีคนอื่น
หญิงสาวยืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้อง เธอไม่รู้เลยว่า จะทำอย่างไรต่อไปดี
ชายหนุ่มที่เป็นบุคคลที่สาม สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาจากห้องนอนของเค้า ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัด เดินผ่านเธอไป พร้อมรอยยิ้ม ในขณะที่เธอ น้ำตาร่วงหล่นเป็นสาย
เป็นเอก เดินเข้ามาหาภรรยา พร้อมกับความรู้สึกผิดเต็มที่ เค้ารักเธอ และรู้สึกผิดเหลือเกิน
“น้องผึ้ง พี่ผิด พี่ขอโทษ “
เสียงเค้าบอกออกมา แล้วทรุดลงนั่งกับพื้นตรงหน้าเธอ เสียงสุภาพนุ่มนวล สั่นสะท้านด้วยความรู้สึกผิดเต็มที่ ดวงตามีน้ำตาคลอเบ้า แล้วจับมือเธอเอาไว้
“พี่ขอโทษ ขอโทษค่ะ พี่จะไม่ทำอีกแล้ว “
บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทุกคน บ้านหลังใหญ่ของตระกูลดัง นัดรวมตัวทานอาหารในเย็นวันอาทิตย์เช่นเคย ใบหน้าของท่านเจ้าสัวยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อครอบครัว รวมตัวกันพร้อมหน้าเช่นนี้
“เอก เมื่อไหร่จะมีหลานให้ป๊าสักที พี่ใหญ่เค้าลูกสามแล้ว มีแต่แกนั่นแหละ ที่ยังไม่มีหลานมาให้ป๊า “
ผู้เป็นพ่อถามลูกชาย แล้วชำเลืองมองลูกสะใภ้ที่นั่งอยู่ข้างๆ บรรยากาศของคนทั้งคู่ไม่ดีเลยในสายตาผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน
“ผมยังไม่รีบครับ น้องผึ้งเองก็อายุน้อย ไม่รีบเลย มีเวลาอีกมาก “
เสียงลูกชายตอบ ก่อนจะมองภรรยาที่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช่นเดิม
ท่านเจ้าสัวส่ายหน้า เพราะมีข่าวเข้าหูมาบอกว่าลูกชายกับสะใภ้แยกกันอยู่หลายเดือนแล้ว
“ผึ้ง มีอะไรหรือเปล่า งานหนักไปไหม “ ผู้เป็นพ่อสามีถามลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง
“งานเยอะค่ะ แต่ไม่ได้งานหนักอะไร “ เสียงตอบสุภาพอ่อนโยนเช่นเดิม
ท่านเจ้าสัวยิ้มออกมา ลูกชายโชคดีเพียงใดที่ได้หนูผึ้งมาเป็นภรรยา ลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ ขยันทำงาน แถมยังเข้าหาผู้ใหญ่เก่งแบบนี้ หายากเหลือเกิน
“ถ้ามีอะไรหนักใจ บอกป๊าได้เลยนะ ป๊ายินดี”
ท่านยังบอกย้ำอีกครั้ง แล้วหันไปมองลูกชายที่หลบสายตา บรรยากาศในโต๊ะอาหารยังคงอบอุ่นเช่นเดิม แต่มีคนร้อนรนในจิตใจไปแล้ว1คน
เอสยูวีจอดตรงหน้าปั๊มน้ำมัน เพื่อให้คนในรถได้ลงมาเอารถของตัวเอง ใบหน้าของคนขับรถหงุดหงิดไม่พอใจเต็มที่ แต่ทำอะไรไม่ได้
“พี่จะไปรับแล้วจะไปส่งเอง ทำไมผึ้งถึงไม่ยอม “ เป็นเอกบอกออกมา แล้วมองภรรยาที่กำลังจะลงจากรถ ของตัวเอง
“แบบนี้ดีแล้วค่ะ ผึ้งสะดวกแบบนี้ “ เธอยืนยันคำเดิม แล้วคว้ากระเป๋าลงจากรถไป ปล่อยให้คนในรถถอนหายใจออกมา
รอยร้าวที่คิดว่าจะประสานได้แล้วในวันนั้น กลับทิ้งรอยเอาไว้ให้เห็นเด่นชัดเหลือเกิน ภรรยาสาวที่หัวอ่อนว่านอนสอนง่าย กับผู้ใหญ่ ยื่นคำขาดว่าจะแยกบ้านทันทีในคืนนั้น และจะไม่มีความสัมพันธ์ทางกายใดใดกับเค้าอีก ตั้งแต่นั้นมา