ไทเลอร์ใช้สองมือกระชับสาบเสื้อสูทของเขาเข้าหากันและติดกระดุมให้เรียบร้อยในระหว่างที่กำลังเดินเข้าไปภายในโรงแรมแฮมิลตันสาขาโรม ประเทศอิตาลี ในขณะที่กำลังตอบโต้กับเควิน เลขาฯ คนสนิทที่กำลังร่ายตารางงานในวันนี้ของเขาไปด้วย
แต่แล้วชายหนุ่มกลับต้องหยุดชะงักฝีเท้าทันควัน เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขาดังขึ้น ไทเลอร์หันไปตามต้นเสียงก็พบว่าเป็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง เจ้าหล่อนมีหุ่นงดงามราวกับนางแบบ ใบหน้าของเธอเรียวเล็ก งดงามราวกับนางฟ้าที่แสนจะคุ้นตา ซึ่งแน่นอนว่าไทเลอร์ไม่ได้เป็นคนลืมอะไรง่ายๆ เขาสามารถจดจำหญิงสาวผู้นั้นได้ในทันทีที่เห็นใบหน้านั้น เพราะเธอคือหนึ่งในทายาทของหุ้นส่วนทางธุรกิจของเขา
‘กาเบรียลล่า เอลลิสัน’
หญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นนางฟ้าในวงสังคมชั้นสูงของอังกฤษ...ผู้หญิงที่เขาคุ้นหน้าตาของเธอมานาน แต่เพิ่งรู้จักกันอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้เอง
“สวัสดีค่ะมิสเตอร์แฮมิลตัน เจอกันอีกแล้วนะคะ”
หญิงสาวทักทายเขาด้วยสีหน้าเปล่งประกายอ่อนหวาน มีประกายของความดีใจอย่างปิดไม่มิดอยู่ในดวงตาสีน้ำทะเลคู่นั้น หากเป็นเขาเมื่อสามปีก่อนอาจจะหัวใจเต้นแรงไปกับท่าทางของเธอ...ทว่าตอนนี้ไทเลอร์กลับไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีรอยยิ้มประดับบนเรียวปากหยักสวย ขณะที่ตอบกลับหญิงสาวไปตามมารยาทว่า
“สวัสดีครับมิสเอลลิสัน ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าตระกูลเอลลิสันจะมาทำอะไรที่โรม ถึงได้ส่งคุณหนูคนนี้มาที่นี่
กาเบรียลล่าดูเหมือนจะอ่านสายตาสงสัยของเขาออก เธอหัวเราะขึ้นเสียงเบาและเต็มไปด้วยท่าทีอ่อนหวาน ก่อนจะตอบคำถามของเขาว่า “ฉันมาเที่ยวกับเพื่อนๆ น่ะค่ะ ไม่รู้เลยว่าคุณอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน”
“ผมมาทำงานน่ะครับ”
เขาเห็นเธอยังคงยิ้มละไม แต่ก่อนจะเอ่ยขอตัวไปทำงานหญิงสาวก็ถามขึ้นมาเสียก่อน “งั้น…จะสะดวกไหมคะถ้าเย็นนี้ฉันอยากจะเชิญมิสเตอร์มาทานอาหารเย็นร่วมกัน”
ท่าทีลังเลนิดๆ และขัดเขินของเธอทำให้เขาตัดใจปฏิเสธเธอไม่ลง อย่างไรเสียเธอก็เป็นลูกสาวของหุ้นส่วน ทานมื้อเย็นกับเธอสักมื้อคงจะไม่เป็นไร
“ได้ครับ ไม่มีปัญหาอะไร”
ชายหนุ่มตอบรับ ซึ่งนั่นสร้างรอยยิ้มกว้างบนใบหน้างดงามราวกับนางฟ้าของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
“งั้นเดี๋ยวฉันจะติดต่อคุณอีกทีนะคะ ตอนนี้ไม่ขอรบกวนเวลาทำงานแล้ว” ตอนท้ายเธอเอ่ยด้วยท่าทีเกรงอกเกรงใจ ขณะที่ถอยให้พ้นจากการยืนขวางทางของเขา ไทเลอร์เองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรว่าเธอไม่ได้ ‘รบกวน’ เวลาของเขาอยู่ในตอนนี้
“ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวครับ”
ชายหนุ่มได้แต่อวยพรเธอพร้อมกับก้มศีรษะให้เป็นเชิงบอกลาในตอนนี้ ซึ่งหญิงสาวก็ปฏิบัติกับเขาอย่างเดียวกัน
“เช่นกันค่ะ”
แต่ไทเลอร์ไม่ได้สนใจเธอสักนิด เพียงแค่ก้าวเดินจากมาเขาก็หมดความสนใจในตัวเธอในทันทีโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มเอี้ยวตัวไปปรายตามองคนเป็นลูกน้องคนสนิทเพียงนิดเดียว ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงราบเรียบ
“เควิน”
“ครับคุณไทเลอร์”
“งานทางนี้เสร็จเรียบร้อยทั้งหมดแล้วหรือยัง?”
ตารางงานของเขาถ้าจำไม่ผิดน่าจะหมดภายในวันสองวันนี้แล้ว ตามกำหนดการณ์เขาควรจะอยู่ราวๆ เจ็ดวัน นี่เพิ่งผ่านไปสี่วันแต่ยอมรับว่าเขาชักจะหมดความอดทนแล้ว คิดถึงหน้าหวานๆ ของคนที่อยู่ในเพนต์เฮ้าส์ของเขาแล้วก็อดกระวนกระวายไม่ได้ เขาปล่อยให้เธอเริงร่ามีความสุขมากี่วันแล้วนะ...ไม่รู้ป่านนี้เธอคงจะลืมหน้าเขาไปแล้วกระมัง
ซึ่งนั่นไม่ดี...ไม่ดีเลยจริงๆ!
“นอกจากนัดกับมิสเตอร์มาคิซิโอช่วงบ่ายแล้ว ตอนนี้คุณไม่มีนัดอะไรอีกแล้วครับ อ้อ…เย็นนี้คุณเพิ่งมีนัดทานอาหารเย็นกับมิสเอลลิสัน”
ตารางงานที่ออกมาจากปากเควินรวดเร็วนั้นทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วเริ่มคำนวนเวลาด้วยเช่นเดียวกัน
“งั้นก็เสร็จก่อนกำหนดเวลาใช่ไหม สั่งนักบินว่าเราจะกลับลอนดอนพรุ่งนี้แต่เช้าแล้วกัน”
เขาตัดสินใจอย่างปุบปับ ไม่อยากเสียงเวลาที่นี่เลยแม้แต่น้อย หัวใจและความคิดของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว...
“ได้ครับ”
เควินตอบรับอย่างรวดเร็ว และรีบจดคำสั่งนั้นเอาไว้ในแทปเล็ตของเขาไว้เพื่อกันลืม ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยลืมเรื่องงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แล้วสองหนุ่มเจ้านายกับลูกน้องก็ก้าวเข้าไปในลิฟต์สำหรับผู้บริหารเพื่อตรงไปยังชั้นสามสิบเก้าซึ่งมีห้องทำงานของเขาอยู่ที่นั่น ในตอนนั้นเองคนที่ความคิดวนเวียนถึงใครบางคนก็อดที่จะถามเควินขึ้นมาไม่ได้ว่า
“ทางลอนดอนเป็นยังไงบ้าง”
เควินลอบยิ้มมุมปาก ทั้งๆ ที่สีหน้าเรียบเฉย เขาพอจะรู้ว่าเจ้านายไม่ได้คิดจะถามเรื่องงานหรอก ไอ้ทางลอนดอนที่หมายถึงน่าจะเป็นคนมากกว่า ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...คู่หมั้นสาวหมาดๆ ของตัวเองนั่นแหละ!
“เซดดริกรายงานว่าปกติทุกอย่างครับ”
เขาตอบคนเป็นเจ้านายอย่างรวดเร็ว และคำตอบสั้นๆ นั้นก็ทำให้เควินไม่รู้ว่าเจ้านายรู้สึกอย่างไร เพราะมันเรียบเฉยจนเขาเองก็คาดเดาไม่ถูกเอาเสียเลย
“อืม…”
.........
ทางด้านกาเบรียลล่า หลังจากที่ผละจากหนุ่มหล่อชวนฝัน...ผู้ชายที่ทำให้เธอใจเต้นได้มากกว่าใครทุกคน กระทั่งคนที่เธอชอบมากอย่างจัสติน อัลวาเรซ ก็ไม่ได้ทำให้เธอทุ่มเทเข้าหาได้มากเท่านี้มาก่อน หญิงสาวก็ตรงไปสมทบกับกลุ่มเพื่อนสนิทซึ่งยืนรออยู่หน้าโรงแรมทันที
คุณหนูสาวสลัดรอยยิ้มอ่อนหวานไปจากดวงหน้า เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหยียดหยันตามปกติที่เธอมีออกมาขณะก้าวตรงไปหาเพื่อนฝูงที่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่คบหากันมาตั้งแต่สมัยไฮสคูลด้วยกันทั้งสิ้น และเป็นลูกหลานทายาทตระกูลใหญ่ในสังคมอังกฤษเช่นเดียวกัน
เมื่อเธอเดินไปถึงที่หมาย ลิลี่...หนึ่งในเพื่อนสนิทของเธอก็ถามขึ้นมาทันทีด้วยน้ำเสียงกระเซ้าซึ่งแน่นอนว่ามันมีความอิจฉาริษยาลึกๆ อยู่ในน้ำเสียงนั้นด้วย
“ไม่ยักกะรู้ว่าเธอรู้จักกับมิสเตอร์แฮมิลตันด้วย”
กาเบรียลล่าสะบัดหน้าเบาๆ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นแล้วตอบ “ก็พอรู้จักกันบ้างน่ะ”
เธอไม่มีทางบอกหรอกว่ากว่าจะพาตัวเองเข้าไปรู้จักผู้ชายคนนั้นได้มันลำบากมากแค่ไหน ถึงจะรู้ว่าเขาคือใครและวงโคจรของเธอกับเขาใกล้กันมากแค่ไหน แต่ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ตัวเองเป็นที่จดจำของผู้ชายที่โดดเด่นอย่างไทเลอร์ได้
“อ้าว” เซเรน่า...เพื่อนอีกคนของเธออุทานขึ้นมาอย่างแปลกใจ “แล้วก่อนหน้านี้ที่เธอเหมือนจะกิ๊กกั๊กไปดูตัวกับจัสติน อัลวาเรซล่ะ เกิดอะไรขึ้น?”
คราวนี้กาเบรียลล่าเหยียดยิ้มหยัน คิดถึงข่าวที่เพิ่งประโคมไปว่าผู้ชายคนนั้นเลือกที่จะหันไปเชิดชูเมียเก็บชั้นต่ำของตัวเองจนประกาศแต่งงานกันแล้วก็ได้แทบจะยกมือลูบอกด้วยความปลอบใจตัวเองว่าเธอรอดพ้นจากคนพรรค์นั้นมาได้แล้ว โชคดีที่ไม่ได้ถลำลึกอะไรมากมายนอกจากถูกตาถูกใจเขามากๆ...ก็แค่นั้น
“ก็…ไม่มีอะไรหรอก” หญิงสาวตอบปัดเสียงหยิ่ง และเชิดหน้าด้วยท่าทีไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น “อีกอย่างฉันกับจัสตินก็แค่ ‘บังเอิญ’ เจอกันไม่กี่ครั้งเอง เพราะก่อนหน้านี้ฉันไปช่วยงานมูลนิธิโบลตันน่ะ เธอก็รู้”
เธอเน้นเสียงคำว่าบังเอิญเสียงหนัก ย้ำให้พวกเพื่อนๆ รู้ว่าเธอไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าตนเองลงแรงไปเท่าไร สุดท้ายกลับได้มาแต่ความหลอกลวง ดีที่เธอถอนตัวทัน ไม่อย่างนั้นคิดว่าตัวเอง ‘เผอเรอ’ ใช้ผู้ชายร่วมกับผู้หญิงชั้นต่ำนั่น เธอคงทนไม่ได้!
อลิเซีย...ซึ่งยืนเงียบมาตลอดก็เผยสีหน้ายิ้มเยาะออกมา ก่อนจะถากถางเธออย่างรู้เท่าทัน “อย่างนั้นเหรอจ๊ะ...ไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนั้นเพิ่งประกาศว่าแต่งงานไม่ใช่หรือไง?”
กาเบรียลล่าตวัดตาดุดันใส่อีกฝ่าย เธอเบ้ปาก ยักไหล่ด้วยท่าทีไม่ยี่หระ แสดงออกชัดเจนว่าเธอไม่ได้แคร์ “ก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่จ๊ะ เพราะฉันไม่ได้สนใจเขาเลย คนที่ฉันสนคือเพื่อนของเขาต่างหาก”
ลิลี่ที่ไม่ได้สัมผัสถึงท่าทีถากถางกันของเพื่อนสนิทก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันนิดๆ
“ฉันเป็นเธอก็สนใจไทเลอร์ แฮมิลตันมากกว่าจริงๆ นั่นแหละ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ดูมีเสน่ห์มาก ฉันชอบที่เขาดูเป็นคนน่าค้นหาแล้วก็ดูไม่ดุเท่ากับเพื่อนของเขาด้วย จัสตินดูบึ้งตึงเกินไป เย็นชาเกินไป เห็นแล้วรู้สึกว่าคงต้องถูกแช่แข็งแน่ๆ”
เจ้าหล่อนวิจารณ์ผู้ชายสองคนเทียบเคียงกัน ซึ่งนั่นทำให้กาเบรียลล่าอดเห็นด้วยไม่ได้
“หึ…”
“ว่าแต่เมื่อกี้นี้เธอไปคุยอะไรกับเขาน่ะ”
อลิเซียเอ่ยถามขึ้นบ้างด้วยความอยากรู้ คราวนี้กาเบรียลล่าคลี่ยิ้มสมใจออกมาอีกครั้ง ดวงตาของเธอเป็นประกายวิบวับในตอนที่ตอบเพื่อนๆ ด้วยท่าทีหยิ่งผยองนิดหน่อยว่า
“ก็…ทักกันตามประสาคนรู้จักไง แล้วก็...มีนัดด้วยกันเย็นนี้น่ะ”
“ว๊าย” เซเรน่ากับลิลี่อุทานไปด้วยกันอย่างตื่นเต้น “เร็วจริงๆ เกิดเป็นกาเบรียลล่านี่สบายไปร้อยอย่างจริงๆ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่าลิล”
เธอหันไปทางเพื่อนแล้วเอ่ยปฏิเสธออกมาด้วยท่าทีที่ดูก็รู้ว่าปฏิเสธไปอย่างนั้น กาเบรียลล่าเหยียดยิ้มกว้างมากขึ้นขณะกวาดตามองเพื่อนๆ ในกลุ่มทุกคน
หึ…ไม่ว่ายังไงเธอก็จะต้องเป็นที่หนึ่ง เธอจะต้องไม่พ่ายแพ้ใคร เพราะเธอคือนางฟ้า...เธอคือกาเบรียลล่า เอลลิสันที่ผู้ชายคนไหนได้พบเธอแล้ว ไม่มีทางที่จะไม่ยอมสยบภายใต้เสน่ห์ของเธอเป็นอันขาด! และยายพวกนี้ที่คิดว่าตัวเองเจ๋ง ก็ไม่มีทางดีไปกว่าเธอได้หรอก โดยเฉพาะยายอลิเซียที่ชอบดูถูกเธออย่างนี้!