เด็กฝึกงาน

1809 คำ
“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที “ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง “แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ” “คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย “สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ” “นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง “มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม” “คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ” “ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว “เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครับ ก็เลยต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ลูกน้องเขาจะได้มั่นใจว่าคุณหนูมีความสามารถและรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัทจริง ไม่ใช่ได้ตำแหน่งรองประธานมาเพราะเป็นลูกสาวของคุณเอกภพ” “แต่ฉันไม่อยากได้ตำแหน่งนั้น นายรับไปสิ พ่อรักนายจะตาย เอาไหมฉันจะบอกพ่อให้” “ผมไม่ใช่สายเลือดของท่านครับ ที่ผมทำทุกวันนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ท่านส่งให้ผมเรียนจนจบ ถ้าคุณหนูไม่ชอบบริษัทนี้ คุณหนูจะเปลี่ยนกับคุณอลันก็ได้นะครับ” “จะบ้าเหรอเรื่องพวกนั้นไม่เคยอยู่ในหัวฉันเลยสักนิด ขืนฉันไปทำงานบริษัทคุณพ่อคงได้เจ๊งกันพอดี” เพราะอลันพี่ชายของเธอนั้นดูแลบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเรื่องพวกนั้นเอลินอร์ไม่เข้าใจเลย “ผมรู้ว่าคุณหนูชอบออกแบบและผลงานของคุณหนูที่ส่งทางมหาวิทยาลัยก็ดีทุกชิ้น เอาอย่างนี้นะครับ ถ้าคุณอ่านพวกนั้นได้ครึ่งหนึ่งแล้วมาสรุปให้ผมฟัง ผมจะให้คุณพักสมองด้วยการออกแบบดีไหม” “จริงเหรอ” หญิงสาวมีความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มกว้างมาทางชายหนุ่มด้วยแววตาเป็นประกาย ที่คนมองแล้วรู้สึกหัวใจวูบไหว แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้เพราะเธอคือลูกสาวของผู้มีพระคุณ “จริงสิ เรากำลังอยากได้เครื่องประดับสำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่ราคาไม่สูงมาก เอาแบบที่ทุกคนจับต้องได้ แต่จะเน้นขายเป็นจำนวนเยอะ ผมว่าคุณคงทำได้ไม่ยากจริงไหมครับ” “แน่นอน เอาล่ะนายอย่ากวนฉันนะ ฉันจะตั้งใจอ่าน” “ตามสบายเลยครับ” ปฐพีถึงกับโล่งใจที่เธอยอมอ่านเอกสารพวกนั้น ตลอดทั้งช่วงเช้าเอลินอร์ให้ความสนใจกับการศึกษาข้อมูลของบริษัทมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก หญิงสาวถามข้อมูลที่ไม่เข้าใจกับเขาเป็นระยะซึ่งเขาก็ตอบคำถามของเธอด้วยความเต็มใจจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวัน “กลางวันนี้คุณหนูจะทานอาหารกับท่านประธานไหมครับ ผมจะได้บอกคุณแขไขจัดเพิ่มให้” “แล้วนายไปกินกับคุณพ่อด้วยหรือเปล่า” “เปล่าครับ ปกติผมจะออกไปทานที่ร้านข้างๆ บริษัทหรือไม่ก็ฝากคุณแขซื้อมาแล้วไปทานที่ห้องพักเบรก” “ฉันไม่อยากรบกวนคุณพ่อ งั้นฉันไปกินกับนายได้ไหมกินเสร็จจะได้รีบกลับมาทำงาน” “คุณหนูหิวหรือยังครับ” “ยังไม่หิวเลย นายล่ะ” “ปกติแล้วผมจะลงไปเวลาเที่ยงครึ่งเพราะคนอื่นเริ่มจะทานกันอิ่มแล้วจะได้ไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าคุณหิวก็ไปเที่ยงตรงก็ได้ อยากจะทานอะไรร้านไหนคุณเลือกมาเลยจะได้โทรสั่งไว้ก่อน” ปฐพีส่งรายชื่อร้านอาหารและเมนูอาหารที่แขไขเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่องานให้กับเอลินอร์เป็นคนเลือก “ฉันอยากกินขนมจีน ไม่ได้กินนานแล้ว แต่ถ้าไปเที่ยงก็กลัวคนเยอะ ร้านมันอยู่ไกลมากไหม ฉันกลัวกลับมาไม่ทันบ่ายโมง” เพราะอ่านระเบียบของพนักงานไปแล้วเอลินอร์จึงรู้ว่าที่นี่ทุกคนต้องเข้างานตรงเวลาถึงแม้จะเป็นลูกสาวท่านประธานแต่เธอเพิ่งมาทำงานวันแรกก็ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นเด็กเส้น “ถ้าเราออกไปทานตอนเที่ยงครึ่งก็เข้างานบ่ายโมงครึ่งครับ ทุกคนมีเวลาพักเท่ากัน” “งั้นฉันไปกินขนมจีนนะ นายโทรสั่งให้ได้ไหม ฉันสั่งไม่ถูก เอาน้ำยาที่มันสีส้มๆ อ้อ ถ้าเขามีแกงเขียวหวานก็เอาด้วย” “ครับ” 13.05 น. “นายนี่ท่าทางจะแฟนคลับเยอะไม่เบาเลยนะ เดินไปไหนก็มีแต่คนทักทาย” เพราะตั้งแต่ร้านอาหารจนเดินกลับเขามาก็มีแต่คนทักทายปฐพีจนเอลินอร์รู้สึกหมั่นไส้ “เขาก็ทักทายตามมารยาท ผมทำงานที่นี่มานานก็ต้องรู้จักคนเยอะเป็นธรรมดาครับ ถ้าคุณหนูทำงานที่นี่ไปอีกสักพักก็จะมีคนรู้จักเยอะแบบผมนี่แหละครับ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จัก” “ทำไมฉันจะต้องไปรู้จักพวกเขาด้วยละ” เอลินอร์พูดอย่างถือตัว “ที่มหาวิทยาลัยเขาไม่สอนเรื่องการบริหารคนเหรอครับแต่ผมว่ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงขนาดนั้นคงไม่พลาดกับเรื่องนี้ อาจจะเป็นที่คุณหนูไม่ตั้งใจเรียนมากกว่า” “นี่นายดิน พอเลยนะ หยุดว่าฉันได้แล้ว ฉันรู้หรอกน่าจะต้องวางตัวยังไง ฉันก็แค่ลองพูดแบบเมื่อกี้ดู ฉันจะได้รู้ด้วยไงว่านายน่ะ เข้าใจเรื่องพวกนี้มากแค่ไหน” เอลินอร์แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ “ครับ” ปฐพีไม่เถียงต่อเพราะมีงานต้องทำ ตลอดบ่ายห้องก็เลยอยู่ในความสงบเงียบจนกระทั่งคุณแขไขเอากาแฟและของว่างเข้ามาให้ “คุณเอลินอร์คะ แขไม่รู้ว่าคุณทานกาแฟแบบไหนก็เลยชงเป็นกาแฟดำมาให้ก่อน ส่วนครีมกับน้ำตาลคุณเติมเองนะคะ แล้วครั้งหน้าแขจะทำตามที่คุณชอบทานค่ะ” “ขอบคุณค่ะ คุณแขเรียกแอลก็พอค่ะ ไม่ต้องเรียกชื่อจริงก็ได้ ปกติแล้วตอนบ่ายแอลชอบคาปูชิโน่คะหวานน้อยค่ะ แอลไม่ชอบกาแฟร้อน” “เดี๋ยวแขให้เด็กไปซื้อให้นะคะ” “ไม่ต้องหรอกครับคุณแข เดี๋ยวผมจัดการเอง” ปฐพีรีบบอกด้วยความเกรงใจ เขารู้ว่าแขไขนั้นมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากมายอยู่แล้วจึงไม่อยากจะรบกวนเธอ “ค่ะ งั้นแขไปนะคะถ้ามีอะไรคุณแอลเรียกแขได้ตลอดเลยนะคะ” แขไขพูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานไป “ฉันเอาคาปูชิโน่หวานน้อยนะนายดิน” เอลินอร์รีบบอกเพราะคิดว่าเขาจะเป็นคนไปซื้อให้ “บอกผมทำไมครับคุณหนู” “ก็นายบอกคุณแขว่าจะจัดการเอง” “ผมหมายถึงให้คุณลงไปซื้อเอง แค่ชั้นล่างตึกนี่เอง” “นานดิน นายแกล้งฉันอีกแล้วนะ” “ผมจะแกล้งคุณหนูทำไมครับ คุณแขเขาก็มีงานของเขา คุณจะใช้เขาไปซื้อกาแฟได้ยังไง” “เขาใช้ลูกน้องเขาอีกที่ก็ได้ หรือให้แม่บ้านไปซื้อก็ได้” “ทุกคนมีงานครับถ้าคุณอยากกินกาแฟก็ลงไปซื้อเอง” “นายดิน นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม” เมื่อโหมดวีนไม่ได้ผลเอลินอร์ก็เปลี่ยนมาพูดดีๆ “ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณก็ได้ แต่มีข้อแม้” “ข้อแม้อะไรอีก ทำไม่อยู่กับนายนี่ข้อแม้ถึงเยอะจัง” “ก็ระหว่างทางเราต้องผ่านหลายแผนกเพราะฉะนั้นผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักทั้งขาไปแล้วขากลับคุณหนูยอมไหมล่ะครับ” “ไหนว่าจะไปพรุ่งนี้ไง” “งั้นคุณหนูก็ค่อยกินกาแฟพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ” พูดจบเขาก็ก้มหน้าทำงานต่อ “ไปก็ได้ นายนี่มันเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกินเลย” เอลินอร์หน้าบูดบึ้งขณะที่เดินตามปฐพีออกมาจากห้องทำงาน แต่พอเจอกับคนอื่นเธอก็ยิ้มแย้มทักทายอย่างเต็มใจ กว่าจะมาถึงร้านกาแฟหญิงสาวก็ต้องฉีกยิ้มจนเมื่อยหน้า “นายจะกินอะไรสั่งสิ ฉันเลี้ยง” “ผมกินกาแฟดำไปแล้ว ขืนกินกับคุณอีกคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนกันพอดี” “งั้นกินเค้กไหม ฉันว่าน่ากินดีนะ” “ไม่ล่ะ ผมไม่ค่อยชอบกินของหวาน” “อย่ามามั่วพี่อลันบอกฉันว่าเค้กที่ฉันหัดทำนายกินคนเดียว” “ก็นั้นมันเป็นเค้กที่คุณหนูทำ” “มันจะต่างกันยังไงนี่ก็เค้กเหมือนกัน” “ต่างกันที่คนทำไงครับ ถ้าเค้กที่คุณหนูทำแล้วผมกินไม่หมด ผมก็ไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง” ปฐพีรู้ฤทธิ์เดชของเอลินอร์เป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งเธอปิดเทอมแล้วกลับมาที่บ้านและบังเอิญว่าเขาก็ปิดเทอมจึงกลับมาที่บ้าน หญิงสาวกำลังทำขนมอะไรสักอย่างแล้วยื่นให้เขาชิม แต่เขาไม่รับเพราะตอนนั้นมือเปื้อนอยู่ คุณหนูเอลินอร์ก็เลยเอาขนมนั้นขว้างใส่หน้าเขาจนเละไม่มีชิ้นดี “นายกลัวฉันเอาเค้กป้ายหน้านายเหรอ ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก” “เพราะอะไรล่ะครับ” “เพราะฉันเข้าหอชายไม่ได้ยังไงล่ะ” พูดจบเอลินอร์ก็หัวเราะเพราะนึกภาพชายหนุ่มที่มีครีมสีขาวอยู่เต็มหน้าแล้วเธอก็อดขำไม่ได้ “ผมนั่งรอตรงนู้นนะ คุณหนูสั่งเสร็จก็ตามมา” “อือ ไปนั้นรอก่อนเลย” พอปฐพีไปนั่งรอแล้วหญิงสาวก็สั่งกาแฟของตนเองกับเค้ก และคุกกี้กับนมชมพูเพราะอยากจะแกล้งให้เขาอายคนอื่นที่กินเครื่องดื่มสีหวานขัดกับหน้าตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม