“น้องนะโมะมานี่” เดนิสกวักมือเรียกน้ำมนต์ “ไม่ไปหยอก” คนถูกเรียกกอดอกหน้างอเง้าบ่งบอกว่าไม่พอใจสุดๆ “ไม่มาหยอ ไม่เย่งด้วยแปกพังปีเยยนะ” คนเรียกเท้าเอวไม่ได้ดั่งใจ พร้อมข่มขู่ “ไม่เย่งด้วยแปกพังชาติไปเยย” คำขู่ไม่ได้ผล ถ้าเรียกกันแบบนี้ไม่ต้องเล่นกันแปดพันชาติไปเลย แค่แปดพันปีมันน้อยไป “...น้องคงฉวยมานี่” เดนิสใช้ความคิดเพียงครู่ จึงเรียกน้ำมนต์อีกครั้ง “คงฉวยมาแย้ว มาแย้วๆ” ความขุ่นเคืองพลันหาย แทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้าง รีบลุกแล้ววิ่งไปหาคนเรียก “ต้องเยียกน้องคงฉวยถึงมา” คนพี่มองค้อนคนอายุน้อยกว่า “ก็หนูเป็งคงฉวย เกิดมาฉวยเยย ฉวยฉุดๆ” น้ำมนต์พูดอย่างมั่นใจในความสวยของตัวเอง ที่สวยมาตั้งแต่เกิด “แต่พี่เป็งคงฉวยที่ฉุดในจักวาง” เรื่องความสวยยอมกันไม่ได้ ตนนั้นสวยที่สุดในจักรวาล “หนูชวยฉุดในจักวางแย้ว คุงแม่บอกหนูชวยฉุดในจังวาง” น้ำมนต์ไม่ยอมให้ใครสวยเกินกว่าตนเอง เพราะแม่บอกตนสวยที่สุด

