ไม่รู้อะไรดลใจให้หล่อนถามออกไปอย่างนั้นเพราะคำถามของเดือนดาราทำให้แววตาของเจคอปเปลี่ยนไปด้วย หน้าหล่อจัดของคุณอาหนุ่มใหญ่เข้มขึ้นหน่อย ๆ และเหมือนเขาจะพึ่งนึกได้ว่ากุมแขนเรียวเล็กของเดือนดาราไว้แน่น ส่วนเด็กสาวก็ใจเต้นตึ่กตั่ก หล่อนมีอาการตัวสั่นหน่อย ๆ เพราะไม่บ่อยที่เจคอปจะถูกเนื้อต้องตัวหล่อนแบบนี้ สักครู่เขาก็ปล่อยมือจากแขนของหล่อน ผิวเนื้อของเด็กสาวนุ่มนิ่มจนเขาไม่นึกอยากจะปล่อยหล่อนเลยและที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวเดือนดาราเสียด้วย เจคอปยกยิ้มเหมือนแก้เก้อ
“เรื่องของหนูสำคัญสำหรับอาเสมอ มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว”
“ขอบคุณค่ะคุณอา ว่าแต่ว่า...จะพาหนูไปเลี้ยงที่ภัตตาคารบนตึกระฟ้าจริงเหรอคะ”
“ใช่...เป็นภัตตาคารของลิลลี่ออฟเดอะวัลลี่ เป็นโรงแรมชื่อดังใจกลางเมือง ห้องอาหารของที่นี่บรรยากาสดีมากเพราะอาไปบ่อย”
“คุณอาคงจะไปกับคนรู้ใจบ่อย ๆ สินะคะ”
เจคอปส่ายหน้า “อาทำงานเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้แทบจะหาเวลาว่างพาใครไปด้วยไม่ได้เลย เวลาไปก็แค่รีแล็กซ์สักชั่วโมงสองชั่วโมง ทำไมเหรอ...หนูสงสัยว่าอาจะพาผู้หญิงไปอย่างนั้นเหรอ”
“คุณอาทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้ไม่น่าเชื่อหรอกค่ะว่าจะไม่มีผู้หญิงให้ควงสักคน”
“อาเคยมีคู่ควงแต่นานมาแล้ว มีผู้หญิงหลายคนที่เคยคบกันแต่ทนที่อาไม่มีเวลาว่างไม่ได้ อากำลังคิดว่าถ้ามีใครสักคนทนรอเวลาว่างของอาได้ก็น่าจะดีไม่น้อย”
“แต่ที่อาจะพาหนูไปเลี้ยงคืนนี้หนูก็ดีใจมากนะคะเพราะอย่างน้อยคุณอาก็มีเวลาว่างให้หนู แต่ว่า...”
“แต่อะไรเหรอ?”
“คุณอาจะรีบหรือเปล่าคะ”
“หนูนั่นล่ะจะรีบกลับบ้านหรือเปล่า”
“คืนนี้หนูตามใจคุณอาค่ะ”
“ถ้าตามใจอาอาจจะต้องดึกสักหน่อยนะ”
พอเขาพูดอย่างนั้นเดือนดาราก็ได้แต่อมยิ้ม หล่อนไม่ร็ตัวเลยว่าเวลาที่หล่อนยิ้มพวงแก้มสวยก็เป็นสีชมพูขึ้นด้วยแต่คนที่เขินมากกว่าคือเจคอปเพียงแต่เขาเก็บอาการไว้ได้ตามแบบฉบับของผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า หลังจากนั้นเดือนดาราจึงขอตัวกลับออกไป เจคอปกลับไปที่โต๊ะทำงานและนั่งลงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทั้งที่เขายังมีเรื่องค้างคาใจอยู่กับงานที่พึ่งทำเอาเคร่งเครียดไปเมื่อกี๊แท้ๆ หนุ่มใหญ่นั่งเคาะนิ้วบนโต๊ะเป็นจังหวะ เขาจะเป็นแบบนี้ทุกทีที่ได้เห็นหน้าลูกสาววัยใสของหุ้นส่วนคนสำคัญ
“บ้าไปแล้วเรา เด็กสาวอย่างหนูเดือนคงไม่เห็นผู้ชายอายุมากกว่าอยู่ในสายตา หล่อนคงชอบเด็กหนุ่มวัยรุ่นมากกว่า มีแต่เราเท่านั้นที่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่แบบนี้”
เจคอปพึมพำกับตัวเองแล้วก้มหน้าดูเอกสารต่อกระทั่งถึงเวลาที่เขานัดไว้กับเดือนดาราเพื่อพาหล่อนไปยังห้องอาหารบนชั้นเกือบสูงสุดของโรงแรมหรูใจกลางกรุง ที่บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวอย่างมาก ขนาดเดือนดาราอยู่ในเมืองหลวงแต่หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความตื่นเต้นเมื่อได้เห็นบรรยากาศของเมืองใหญ่จากมุมสูงของตึกระฟ้า อาหารที่เจคอปสั่งมาก็เป็นอาหารแบบที่หล่อนชอบ เด็กสาวนึกดีใจว่าหุ้นส่วนของพ่อจำได้ว่าหล่อนชอบอะไร เขาช่างใส่ใจจนหล่อนรู้สึกอบอุ่นแปลก ๆ แถมมีอาการวูบวาบเมื่อนั่งอยู่กับเขาสองต่อสองในมื้ออาหารดินเนอร์สุดพิเศษ
“คุณอารู้ได้ยังไงคะว่าเดือนชอบทานสเต็กปลากับไวน์”
เดือนดาราถามขึ้นเมื่อบริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ เจคอปยิ้มขณะที่สายตาของเขาก็จ้องอยู่ที่เด็กสาววัยใสในชุดเสื้อปาดไหล่โชว์ผิวขาวอมชมพูผ่องผาด
“อาจำได้ว่าหนูชอบทานแบบนี้ เคยเห็นตอนที่เราไปกินเลี้ยงกันนั่นไง หนูชอบสั่งสเต็กปลามากินกับไวน์”
“คุณอาความจำดีมากเลยนะคะ หนูยังจำไม่ได้เลยว่าคุณอาชอบทานสเต็กเนื้อแบบไม่สุกมาก”
“อาเป็นคนความจำดี จำได้ทุกเรื่องที่อาสนใจ...เอ้อ...เรื่องสำคัญ ๆ”
“แสดงว่าเรื่องของหนูก็สำคัญกับคุณอามากเลยอย่างนั้นสินะคะ”
เดือนดาราถามยิ้ม ๆ ที่จริงหล่อนควรจะเป็นคนเขินมากกว่าเพราะเจคอปแสดงออกว่าเขาเริ่มไม่ปกติเวลาอยู่กับหล่อน ทั้งคำพูดทั้งการกระทำแต่กลับกลายเป็นว่าเดือนดาราที่แอบชอบคุณอาหนุ่มใหญ่มาตั้งแต่วัยแตกเนื้อสาวกลับเป็นฝ่ายรุกไล่เขาด้วยคำพูดที่ดูเหมือนไม่ค่อยเดียงสาของหล่อน เด็กสาวสังเกตว่าเจคอปหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย หน้าหล่อจัดตอนนี้ของเขาทำให้หล่อนเกิดอาการวูบวาบในช่องท้องขึ้นมาด้วยในทันใด ถ้าจะให้เทียบกันเดือนดาราเก็บอาการแทบไม่อยู่และเป็นที่สังเกตของคุณอาหนุ่มใหญ่ เขาเองก็ถึงกับนั่งไม่ติดเหมิอนกันเมื่อเห็นท่าทีของเด็กสาวที่แสดงออกอย่างนั้น
“อาถามอะไรหน่อยซีเดือน”
“อะไรเหรอคะคุณอา?”
“ตอนนี้เดือนมีแฟนหรือยัง?”
“ยังไม่มีค่ะ”
“เป็นไปได้เหรอ เดือนออกจะสวยน่ารักอย่างนี้”
“มีมาจีบเหมือนกันค่ะ เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่เดือนไม่ชอบ เดือนชอบผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่จะทำอะไรได้มากกว่าและเก่งกว่า”
“เดือนพูดจริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นหนูชอบผู้ชายอายุขนาดไหนได้ล่ะ”
“ก็...ประมาณสี่สิบกว่าๆ”